เริ่มต้นปีใหม่มาไม่ทันไร ก็มีประเด็นร้อนระอุมากมายในโลกโซเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกใช้ถุงพลาสติกตามร้านค้า การกินโรตีดิบ หรือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน แต่ด้วยความที่เพจเราเป็นเพจฟิสิกส์ เราจึงขอมาคุยกับทุกคนในประเด็นที่ร้อนระอุที่สุดจริงๆ นั่นคือ ไฟป่าครั้งใหญ่ที่ประเทศออสเตรเลียครับ
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่อยู่ทางซีกโลกใต้ ทำให้ช่วงปลายปีของที่นั่นเป็นช่วงฤดูร้อน แทนที่จะเป็นฤดูหนาวเหมือนกับประเทศส่วนใหญ่ทางซีกโลกเหนือ ประกอบกับภูมิประเทศที่แห้งแล้ง ทำให้ในช่วงปลายปีจึงมักจะมีไฟป่าที่ประเทศออสเตรเลียอยู่บ่อยครั้งแทบทุกปี แต่ทว่าในปีนี้ ไฟป่าดันทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยไฟป่าเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในตอนแรกเริ่มจากรัฐ New Southwales ก่อนที่จะกระจายไปทั่วเกาะ กินพื้นที่กว่าสิบห้าล้านเอเคอร์ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน และเริ่มมีผู้เสียชีวิต แต่ที่แย่ไปกว่านั้น นั่นคือพื้นที่ป่าและทุ่งหญ้าที่สูญหายไปมหาศาล รวมไปถึงสัตว์และสื่งมีชีวิตต่างๆกว่านับล้านตัวที่ต้องเสียชีวิตไป
นอกจากนี้แล้ว ความรุนแรงของไฟป่า ยังทำให้เกิดฝุ่นควันมหาศาล ที่ทำให้สภาพอากาศของเมืองต่างๆในออสเตรเลียเลวร้ายเสียจนฝุ่น PM 2.5 เทียบไม่ติด ทำให้ผู้คนบางส่วนต้องอพยพออกจากเมืองใหญ่ๆเป็นการชั่วคราว จนกว่าไฟป่านี้จะสงบลง ยิ่งไปกว่านั้น ฝุ่นผงและควันมหาศาลยังก่อให้เกิดสภาพอากาศรูปแบบพิเศษ นั่นก็คือ Pyrocumulonimbus หรือ Cumulonimbus Flammagenitus โดยขอเรียกชื่อย่อว่า pyroCbs ละกันครับ
ปกติเมฆที่เราพบทั่วไป มักจะเกิดจากไอน้ำที่เย็นตัวจนควบแน่นกลายเป็นก้อนเมฆ แต่ในบางกรณีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟป่าหรือภุเขาไฟระเบิดอย่างรุนแรง ฝุ่นควันมหาศาลจะลอยสูงไปบนท้องฟ้า ประกอบกับความร้อนมหาศาลที่ทำให้อากาศร้อนถูกพาขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว จะทำให้เมฆรูปแบบพิเศษที่เราเรียกว่า pyroCbs เกิดขึ้นมาได้ ซึ่งรูปร่างและลักษณะของมันคล้ายคลึงกับเมฆฝนพายุอย่าง Cumulonimbus เป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่าต้นกำเนิดต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น ในก้อนเมฆ pyroCbs จะมีความปั่นป่วนสูงมาก ทำให้ในบริเวณใต้เมฆจะเกิดลมพัดรุนแรงที่รุนแรงเรียกว่า Downburst และยังสามารถเกิดฟ้าผ่าได้อีกด้วย ดังนั้น pyroCbs จึงอาจทำให้สถานการณ์ไฟป่ารุนแรงมากขึ้น เพราะมันสามารถทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือ Firestorms หรือ Fire Tornado ที่จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างอีกด้วย
PyroCbs ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่เกิดมักจะเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา การระเบิดของภูขาไฟพินาตูโบ รวมไปถึงเหตุการณ์ไฟป่าในประเทศออสเตรเลียครั้งนี้ ซึ่งการมี PyroCbs เป็นการตอกย้ำว่ เหตุการณ์นี้มันรุนแรงมากจริงๆ
มาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะเดาได้แหละ ว่าเหตุผลที่ไฟป่าออสเตรเลียรุนแรงกว่าทุกปี ก็คงเป็นเพราะภาวะโลกร้อนจากฝีมือของมนุษย์กันนี่แหละ เมื่อปีที่แล้วเราก็เพิ่งมีข่าวไฟไหม้ในอเมซอนครั้งใหญ่ไปหมาดๆ แล้วก็มีเหตุการณ์นี้ ที่ตอกย้ำเราอีกแล้วว่า โลกของเรามันจะทนไม่ไหวแล้วนะ มันจะไปสู่จุดที่เราเยียวยามันไม่ได้อีกแล้ว เราพูดเรื่องนี้กันมาสิบกว่าปีแล้ว เราอาจจะต้องเทคแอคชั่นให้มากกว่านี้ ลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกและมลพิษ หันมาใช้พลังงานสะอาด และลดการทำลายต้นไม้และป่าของโลกลง ก่อนที่จะสายไป
ปล. 1 ข่าวภาษาอังกฤษนี้จะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า Bushfire ไม่ใช่ Wildfire เนื่องจากประเทศออสเตรเลียค่อนข้างแห้งแล้งและไม่ได้มีป่ามากขนาดนั้น แต่ผมนึกคำแทนไฟป่าไม่ได้จริงๆ
ปล. 2 ดักไว้ก่อนเลยว่า การลดใช้ถุงพลาสติก ไม่ได้มีผลต่อภาวะโลกร้อนมากขนาดนั้นนะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
