5 ม.ค. 2020 เวลา 09:16 • ไลฟ์สไตล์
ห้อยรถเมล์
ทุกวันนี้สำหรับคนเมืองหลวง หลายคนยังต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นประจำ...ซึ่งแน่นอนล่ะ ถ้าเป็นวันทำงานอย่างพรุ่งนี้...เช้าก็แน่นเย็นก็แน่น
แต่อยากจะบอกว่าคนในปัจจุบันโชคดีเพราะมีตัวเลือกเยอะมากขึ้น...มีรถไฟฟ้า มีรถตู้ เรือ แล้วก็รถเมล์...คุณภาพชีวิตในการใช้ขนส่งสาธารณะก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ...
และแน่นอน...แพงขึ้นด้วย ตามค่าของเงินมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ...
เวลาขึ้นรถเมล์ เราจะใช้คำว่า...นั่งรถเมล์กับ โหนรถเมล์...นั่งก็คือนั่ง โหนก็คือยืนเอามาจับราวข้างบน
...แต่ถ้าเป็นเมื่อสักยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว จะมีคำว่า...ห้อยรถเมล์ ด้วย...
ห้อย คือห้อยจริงๆ...เมื่อก่อนถ้าเป็นรถร้อน หมายถึงรถเมล์ที่ไม่ติดแอร์ ก็ไม่มีประตูปิดเหมือนทุกวันนี้...จำนวนคนที่อยู่บนรถเมล์ก็จะล้นทะลักออกมาที่ประตู...
นึกสภาพถุงหรือกระป๋องที่อัดของลงไปแน่น จนมันล้นออกมา...นั่นแหละสภาพรถเมล์จำนวนมาก ในชั่วโมงเร่งด่วนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว...
แต่ที่หนักหนากว่านั้นคือ มันเป็นกระป๋องติดล้อที่แล่นได้...แล้วก็แล่นไปทั้งที่มีคนห้อยอยู่ตรงประตูนับสิบ...
ความสามารถพิเศษทั้งกระเป๋ารถ และผู้โดยสารในสมัยนั้นก็คือ...ด้วยรถเมล์ที่แล่นเอียงข้าง เพราะผู้โดยสารถ่วงอยู่ที่ประตู เอ่อ รองเท้าผู้โดยสารบางคนก็ลากถนนมาตลอด เพราะรถเอียงมาก...
...ดูสภาพแล้วไม่น่าจะรับใครขึ้นไปได้อีก...แต่เมื่อรถเข้าป้าย อ้อ...ยังไม่ทันเข้าถึงป้ายด้วยซ้ำ...คนรอที่ป้ายก็จะแปลงสภาพเป็นเหมือนซอมบี้เห็นเหยื่อ...กรูเข้าหารถโดยไม่ต้องรอให้รถหยุด...
ความโกลาหลก็เกิดขึ้นแทบทุกป้ายที่รถจอด...คนเป็นสิบรอขึ้นรถที่อัดแน่น ก็พยายามดันตัวเองขึ้นไปในเจ้ากระป๋องติดล้อให้ได้...คนอีกสิบที่จะลงก็เบียดเสียด พยายามพาตัวเองทะลักออกมาจากด้านใน และคนอีกสิบที่จุกอยู่ตรงปากประตู...พวกนี้ต้องลงจากประตูทุกป้ายเพื่อไม่ให้ขวางทาง...และต้องคอยลุ้นว่า เหลือที่ให้ตรูยืนห้อยรึเปล่าวะ...
เนื้อที่ที่ว่านี้...ขอแค่ไม่เกินคืบตรงบันไดรถ เพื่อเอาไว้เหยียบ และอะไรอีกซักอย่างไว้ให้มือเหนี่ยว...แค่นี้พวกห้อยรถเมล์ก็ไปได้แล้ว...
ปาฏิหาริย์มีจริง...ทุกป้าย ผู้โดยสารเกือบทุกคนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้สำเร็จสมดังตั้งใจ...อ้อ อาจจะมีบ้างที่คนขึ้นยังสกิลไม่ถึงขั้นเทพ ทนรับการเสียดทานไม่ไหว...ต้องยอมแพ้ยืนรอคันต่อไป...
...ซึ่งสภาพที่มามักจะแน่นไม่ต่างกัน...
มนุษย์กึ่งเทพอีกพวกนึง ก็คือกระเป๋ารถเมล์...เขาหรือเธอจะมีทักษะพิเศษ ทำตัวได้เหมือนของเหลวที่แทรกซึมไปได้ทุกที่ว่าง เพื่อเก็บค่าโดยสาร...
มือนึงถือกระบอกตั๋ว มือนึงฉีกตั๋ว ไม่ต้องยึดเหนี่ยวอะไรทั้งสิ้น...เพราะแน่นขนาดนี้ไม่มีล้มแน่นอน...
“ชิดในพี่ชิดใน”...คือคาถาที่พวกเขาหรือเธอใช้ท่องบ่นเป็นประจำ...
ปัจจุบันคงไม่ค่อยมีภาพแบบนี้เกิดขึ้นแล้วกระมัง...แน่นอน ภาพการโดยสารรถเมล์ในอดีตที่แสนจะป่าเถื่อน...มาเล่าตอนนนี้ก็เป็นเรื่องสนุกขบขันกันไป...
แต่ความเป็นจริงก็คือ...มันเป็นเรื่องเสี่ยงภัยไม่น้อย หลายคนต้องพบกับอุบัติเหตุ เจอกับความสูญเสียอาจจะถึงพิการหรือตายไปเลย...
คุณภาพชีวิตของคนทุกวันนี้ จัดว่าดีขึ้นในหลายๆด้าน...แต่ถามว่า แล้วคนเรามีความสุขขึ้นรึเปล่า...ก็คงไม่มีใครตอบได้
เพราะสุดท้าย...ความสุขก็อยู่ที่ใจของเรานั่นแหละ...จริงมั้ย
ปล.
พรุ่งนี้กระบี่เช่นเคยครับ
โฆษณา