👉👉วันนี้ผมขอฟังสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ B10 ที่ตอนนี้กำลังจะเป็นน้ำมันพื้นฐานแทนที่ B7 โดยเริ่มในปั้ม ปตท. ทุกสาขาแล้วใน
วันที่ 1 ม.ค. และปั้มอื่นๆทั่วประเทศในอีกไม่กี่เดือนนี้
👉👉เหตุผลที่ผมเอามาสรุปนั้นเพราะธุรกิจน้ำมันปาล์มเกี่ยวข้องกับหุ้นอยู่หลายตัว เช่น AIE GGC BCP
โดยสัดส่วนและปริมาณแต่ละบริษัทอาจจะไม่เท่ากัน แต่ถ้าdemandมากกว่าsupply แบบนี้น่าจะทำให้กลุ่มธุรกิจนี้ขายได้ราคาดีมากขึ้น ไม่ต้องdiscountเพื่อแย่งกับแบบในรอบปีที่ผ่านมา
การเปลี่ยนไปใช้ b10 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจไบโอดีเซล เนื่องจากกระตุ้นให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้น ลดความรุนแรงของการแข่งขันลงทำให้ margin ดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากการขาดทุนสต็อค
👉👉โดยจะพูดถึง3หัวข้อดังนี้
1.นโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล
2.ประวัติการใช้ไบโอดีเซล (b100) ในภาคการขนส่งของไทย
3.ภาพรวมตลาดปาล์ม
👉👉ในส่วนของคุณ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
Part 1 นโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล
ปาล์มน้ำมันเป็นหนึ่งใน 5 พืชเศรษฐกิจประเทศไทย แต่ก่อนsupplyมันมากกว่าdemandตลอด
ปีก่อน นโยบาย b20 ออกมาเพื่อดูดซับsupply cpo (ปาล์มดิบ) แต่ b20 นั้นโตได้ยากเนื่องจากใช้ในรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่เท่านั้นยังไม่พอกับความต้องการของรัฐที่จะให้มีคนใช้มากขึ้น
b10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน คือมีปริมาณการใช้cpo เพิ่มขึ้นดึงซับพลายส่วนเกินได้ โดยb10 นั้นเป็นการเพิ่มการใช้cpo จาก b7 มาแค่3% แต่รัฐคาดว่าจะเพิ่มการใช้cpoขึ้นมาได้จากเดิมถึง 40%
การมาผสมทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นกว่าน้ำมันปกติ แต่มันมีข้อดีคือ
1.ลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันดิบ จากต่างประเทศ นำเข้า 90% (เราไม่ได้มีน้ำมัน ที่เราส่งออกคือเราเอามากลั่นในไทย แล้วกลั่นเกินมีส่วนเหลือเราเลยส่งออก )
2.ทำให้สินค้าเกษตรไทยมีราคาที่ดีขึ้น ดึงดูดผลผลิต ถึง2ใน3 อีก1ส่วนจะใช้เพื่อการบริโภคและอื่นๆ
เรื่องของ pm 2.5 สาเหตุหลักคือ เชื้อเพลิงในรถยนต์ที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่ผสมก็ช่วยลดมลพิษได้
สิ่งที่ต้องระวัง
-เรื่องการลักลอบการนำเข้า cpo ต้องบริหารให้ดีต้องระวังการขาด cpo ในประเทศ ครั้งนี้กระทรวงพลังงานจะดูแล b100 ซึ่งเป็น 2ใน3 ของ cpo ด้วยต้นเอง
B100 กิน cpo 2.2 ล้านตัน
-อนาคตกระทรวงพลังงานจะพัฒนาไปยังผลผลิตคุณภาพสูง เพื่อให้อนาคตอาจจะขายได้ราคามากขึ้น อนาคตอาจจะมีสัญญาคอนเทค ให้คนไม่ปลูกเยอะเกินไป
ภาพจาก oppday ggc หน้า13
👉👉Part 2 ประวัติการใช้ไบโอดีเซล (b100) ในภาคการขนส่งของไทย
น้ำมันปาล์มดิบไขสัตว์มาผ่านกระบวนการ จะได้B100
เริ่มปี 2547 2% หรือ b2 ผสมไปแต่ก่อนใช้ที่รถ สองแถวแดงเชียงใหม่
2548 เพิ่มเป็น5% เป็น b5 และเริ่มจำหน่ายตามปั่มทั่วไป
2553 เริ่มจำหน่าย b3 คู่ b5
2554 เริ่มเหลือ สเปคเดียวคือ b5
2556 เพิ่มเป็น b7
2561 ปลายปี น้ำมันแพงทำให้ขึ้นมาเกือบ 90เหรียญ ทำให้เริ่มมีการพัฒนากันออกมาให้คนมาใช้เพิ่ม + กับมีปัญหาน้ำมันปาล์มเข้ามา คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตรับไป (demand ชั่วคราว)
จนสรุปได้b20 รัฐจะช่วยจาก3บาทเป็น 5 บาทเอาเงินกองทุนน้ำมันไปช่วย แต่b20 ใช้ได้แค่รถยนต์ขนาดใหญ่และรถกระบะเป็นบางส่วนเท่านั้น
รถเล็กจะใช้b 7 และ b10
-ประเทศเพื่อนบ้านเป็นคนผลิตน้ำมันปาล์มหลัก ถ้าราคาเราดีเขาจะเข้ามา ทำให้ต้องควบคุมให้ดี
-อนาคตจะต้องให้ค่ายรถยุโรปใช้มากขึ้นได้ รถเก่าๆจะใช้ได้แค่b7
-1ตุลา 62ที่ผ่านมา คือลดการสนับสนุน b20 จากส่วนต่าง 5 บาทเหลือ 3บาท และเอาไปสนับสนุนคนใช้ b10 ให้มีส่วนต่างจาก b7 เป็น 2 บาท แทน
👉👉part 3 ภาพรวมตลาดปาล์มโดยนายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย
-ภาพรวมตลาดปาล์ม ปีนี้คาดการณ์มี 3ล้านตัน ไทยผลิตอันดับ 3 ของโลก อันดับ 2 มาเลเซีย 20 ล้านต้น อินโดนีเซีย 40 ล้านตัน
แปลว่าเขาเป็นผู้กำหนดราคาของตลาดโลก
-เริ่มจากสวนปาล์ม เกษตรกรหลายแสนครัวเรือน โรงสกัดมาบีบให้ได้น้ำมัน 17-20% และโรงผลิตไบโอดีเซลรับจากโรงสกัดมาผลิต
น้ำมันปาล์มเรียกว่า ไตรกลีเซอร์ไรด์ ทำไบโอดีเซล เรียนว่า ไดกลีเซอร์ไรด์ โมโนกลีเซอร์ไรด์ ถ้าสูงทำให้โมโนกลีเซอร์ไรด์เป็นไขได้ง่าย มันจะตันในไส้กรองของเครื่องยนต์ โมโนกลีเซอร์ไรด์ ไม่ควรเกิน 0.7%ต่อน้ำหนัก
ภาครัฐกำหนดคุณสมบัติของไบโอดีเซลให้สูงขึ้น โดยปริมาณโมโนกลีเซอร์ไรด์ (สาเหตุของหัวฉีด เครื่องยนต์อุดตันกรณีอุณหภูมิต่ำ) ต้องไม่เกิน 0.4% จากปัจจุบัน 0.7% ทำให้เกิดข้อจำกัดด้าน คุณภาพของผู้ผลิตบางราย (โดยเฉพาะเทคโนโลยีการผลิตไม่สูง) ช่วยลดการแข่งขันในตลาดลง
-ใครได้ประโยชน์จากไบโอดีเซล คือเกษตรกร คือคนพื้นฐานของประเทศคือเกษตรกร การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสูงมาก
กลไลคือถ้าปาล์มในประเทศล้น ราคาก็จะถูก ถูกกว่าตลาดโลกเราจะส่งออกได้ ทำให้กลับมาที่จุดสมดุล
-เราคือคนบริโภค ทำให้เราต้องซื้อในราคาที่แพงกว่าตลาดโลกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ ส่งออกไป ถ้าเราทำได้เกษตรกรก็จะได้ราคาถูก ต้องให้มีdemandในประเทศเพิ่ม
-ใช้เพิ่มจากb7เป็นb10 จริงๆทำให้ปริมาณการใช้เพิ่ม 40%
👉👉ฝากกด like กด follow เป็นกำลังให้เพจ
เพจนี้จะพยายามหาเรื่องที่เกี่ยวกับหุ้นมาแชร์เรื่อยๆนะครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
