เมื่อเข้าสู่สงคราม ควบคู่ไปกับการส่งกำลังรบไปยุโรปและแปซิฟิค สหรัฐย้อนกลับมาสนใจบทวิจัยชิ้นหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Otto Hahn และ Fritz Strassman ที่ตีพิมพ์ไว้เมื่อปี 1938
งบประมาณ 80 เปอเซ็นต์ของโปรเจคจึงหมดไปกับการหาวิธีเพิ่มพลังให้ธาตุยูเรเนี่ยมและพลูโตเนียม จนกระทั่งในเดือนกันยายนปี 1943 นักคณิตศาสตร์นาม John Von Nuemann ก็นำเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการหนึ่งซึ่งน่าจะให้ผลใกล้เคียงกับการใช้ยูเรเนียมเข้มข้น
1
ไอเดียคือสร้างหีบทรงกลมเล็กๆโดยใช้วัสดุ Fissile Material ที่สามารถเก็บรักษาปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่นให้เกิดขึ้นตลอดเวลาภายใน เป็นลูกบอลพลังขนาดไม่ใหญ่ แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมันซับซ้อนและเป็นเรื่องที่ใหม่มาก หากจะสร้างหีบนี้ขึ้นมาจริงๆ ทั้งโปรเจคจะต้องล้มเลิกสิ่งที่ทำอยู่ทั้งหมด และหันมาทุ่มกับไอเดียใหม่นี้อย่างจริงจัง
Enola Gay ปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ Little Boy ออกจากเครื่อง โดยลูกเรือมีเวลา 15 วินาทีออกจากจุดปล่อยเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง ทุกกระบวนการสมบูรณ์แบบ ถ้าคำนวณไม่ผิด Little Boy จะใช้เวลา 45 วินาทีตกลงสู่ใจกลางเมือง
Little Boy ระเบิดตัวเอง 600 เมตรเหนือพื้นดิน ปล่อยแสงสว่างจ้าที่สามารถทำให้ตาบอดได้ทันที ตามมาด้วยคลื่นความร้อนอุณหภูมิ 6,000 องศาเซลเซียสมากกว่าดวงอาทิตย์ไปในรัศมีกว้าง