6 ม.ค. 2020 เวลา 13:48
"ยิ่งขาดทุนก็ยิ่งได้เปรียบ"
picture from pinterest
หลังจากที่สมหวังหนุ่มใหญ่วัย 30 เศษ
กลับจากร้านตัดผมประจำหมู่บ้าน ซึ่งเขาตัดจนเป็นขาประจำ ตั้งแต่สมัยเขาเป็นเด็กนักเรียน
จนมาถึงตอนนี้ ที่ลูกของเขาที่กำลังจะเข้าโรงเรียน ก็ตัดกับร้านนี้เช่นกันกับทรงผมที่ช่างตัดให้ซึ่งมันมีอยู่เพียงไม่กี่ทรงเท่านั้น
รองทรงสูง,รองทรงธรรมดา,ทรงนักเรียน
มีแค่ประมาณนี้เท่านั้น ซึ่งเขาเองอยากจะตัดทรงที่มันแตกต่างออกไปบ้างแต่ก็ไม่สามารถขัดใจช่างได้
เมื่อคิดดังนั้น สมหวังหนุ่มใหญ่วัย 30 เศษ เขาเริ่มมองเห็นช่องทางในการทำธุรกิจร้านตัดผมในสไตล์วินเทจที่เขากำลังสนใจและมาแรงในขณะนี้
เขาจึงหอบเอาความหวังของเขาเข้าเมืองกรุงเพื่อเข้ามาเล่าเรียนวิชาการตัดผมซึ่งเขาได้มองเห็นโอกาสในการที่จะกลับไปเปิดร้านที่บ้านเกิดของตัวเอง
หลังจากจบหลักสูตรตัดผมที่ร่ำเรียนมา สมหวังก็มุ่งหน้ากลับสู่บ้านเกิดของเขาในทันที หลังจากกลับมาถึงได้ไม่นานสมหวัง
ก็ลงมือทำตามความฝันในทันที
แล้วไม่นานนักในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีร้านตัดผมเปิดใหม่ในสไตล์วินเทจ เปิดขึ้นมาอีกหนึ่งร้าน นั่นก็คือร้านของสมหวังนั่นเอง
ซึ่งร้านของเขาเป็นร้านเปิดใหม่เขาจึงไม่ได้คาดหวังว่าจะมีลูกค้าเข้าร้านมากนัก
เพราะว่าในละแวกใกล้เคียงกันนั้น ก็มีร้านตัดผมเก่าที่เขาตัดมาตั้งแต่เด็กๆเปิดอยู่ใกล้ ๆ กับเขาด้วยเช่นกัน
และดูเหมือนว่าธุรกิจของร้านตัดผมเก่าก็ยังคงไปได้ดีเช่นเดิม โดยไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการเปิดร้านตัดผมของเขา ที่มาเปิดใหม่เลยแม้แต่น้อย
นานวันเข้า สมหวังเริ่มที่จะไม่สมหวังเหมือนชื่อเสียแล้วเนื่องจากจำนวนลูกค้าไม่เพิ่มจำนวนขึ้นเลยทั้งที่เขาตั้งใจบริการอย่างอย่างสุดฝีมือ
สมหวังเห็นว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ร้านคงต้องปิดตัวลงเป็นแน่ สมหวังจึงเดินทางไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดท่านหนึ่งเพื่อขอคำแนะนำ จากท่านอาจารย์ เค็ม คงทวยทอง ผู้มีชื่อเสียง
อาจารย์เค็มถามสมหวังว่า
"ร้านของคุณ ช่วงเวลาใดที่มีคนน้อยที่สุด
และมันคือเมื่อไหร่" สมหวังพูดว่า "แน่นอนว่ามันคือทุกวันตั้งแต่เปิดประตูร้านในตอนเช้าจนถึงเที่ยงวัน"
เอาละ อาจารย์เค็ม คงทวยทอง พูดว่า
ผมจะบอกเคล็ดลับวิชาให้คุณ
"จากนี้ต่อไปให้คุณใช้เวลานี้ของทุกวัน
ในการแข่งขันกับช่างตัดผมอีกร้านหนึ่ง"
"สมหวังรู้สึกงงมากๆ กับคำแนะนำของอาจารย์ - เพราะว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดสำหรับช่างตัดผมในการแข่งขัน
ขนาดในเวลาที่เขาไม่ว่างเขายังไม่สามารถจะแข่งขันกับคู่แข่งของเขาได้เลย แต่อย่างไรก็ตามสมหวังก็ทำตามแผนที่ อาจารย์เค็ม คงทวยทอง ได้วางเอาไว้
หนึ่งเดือนต่อมาสมหวังก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าธุรกิจร้านตัดผมของเขาได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เคล็ดลับของอาจารย์เค็มที่บอกกับสมหวังไว้นั่นก็คือการให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนนั้นสามารถมาตัดผมได้ฟรี ตั้งแต่เปิดประตูร้านในทุกๆเช้าจนถึงเวลา 12:00 น.
เพื่อตัดผมฟรีหนึ่งเดือน!!!
สำหรับสมหวัง ถึงร้านตัดผมจะไม่มีคนในตอนเช้า แต่ราคาของค่าใช้จ่ายยังคงมีอยู่ เช่นค่าเช่า และ เงินเดือนพนักงานและเนื่องจากช่างตัดผมก็ไม่ได้ยุ่งในตอนเช้า
การใช้เวลานี้จึงไม่ได้เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายมากนัก นอกจากนี้ยังทำให้ลูกค้าใหม่คุ้นเคยกับบริการของร้านตัดผมของเขา
แล้วเลิกนิสัยในการชอบไปตัดผมที่ร้าน
อีกแห่งหนึ่งอีกด้วย
และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มาที่ร้านเพื่อตัดผมฟรีในตอนเช้า มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เขาจะแบ่งปันประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับผู้อื่น
เมื่อคุณเริ่มมองปัญหาจากอีกมุมมองหนึ่ง
ทุกๆ ช่วงเวลาของคุณมันก็คือโอกาส
โฆษณา