7 ม.ค. 2020 เวลา 01:30 • ครอบครัว & เด็ก
#เมื่อเราปล่อยให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง
วันก่อนขับรถผ่านป้ายโฆษณาสถาบันวิเคราะห์
ลายนิ้วมือเด็กเพื่อดูความถนัดและอาชีพที่เค้าจะน่าจะไปได้เมื่อเติบโต น่าสนใจที่สมัยนี้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีสามารถวิเคราะห์กันได้ขนาดนี้
สมัยเด็กจำได้ว่าแม่หมีอยากเป็นหลายอย่าง ตั้งแต่กระเป๋ารถเมล์ (กล่องดินสอแก๊บๆ) กุ๊กร้านอาหาร ไปจนถึงดารานักร้อง 🤣 แต่พอโตมา ไม่มีซักสิ่งที่ทำเหมือนความฝันวัยเด็ก 😅 ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเพราะความอยากกับปัจจัยสนับสนุนทางครอบครัวมันสวนทางกัน 😅
ทุกวันนี้ เลยหันมามองลูกแบบไม่คาดหวัง อยากจะทำอะไรก็ทำ อยากจะเป็นอะไรก็เป็น ถ้าไม่เดือดร้อนเสียหาย และเอาตัวเองรอดได้
การเลี้ยงดู การสอนจอมทัพ เลยปล่อยให้เค้าได้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ตราบใดที่ยังอยู่ในกติกาและวินัยขั้นพื้นฐาน พ่อแม่จะทำแค่เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของลูก เรียกว่าให้ลูกเป็นผู้นำเกมก็ว่าได้ค่ะ
อย่างตื่นเช้ามาจอมทัพจะวิ่งไปช่วยพ่อเค้ากวาดพื้นหน้าบ้าน และไปให้อาหารปลา เมื่อถึงเวลากินข้าว ก็กินตามปกติ แล้วหลังจากนั้น เค้าก็จะชอบไปหยิบนิทานมาให้อ่าน ไม่ก็นั่งเล่นของเล่นบ้าง ปั้นดินน้ำมัน ระบายสีน้ำ บ้างค่ะ ...พออยากออกไปเดินเล่นสนามหญ้าในหมู่บ้าน เค้าก็จะเดินมาจับมือพ่อ แม่ หรืออาม่า แล้วชี้ไปทางประตู เพื่อเป็นการบอกให้เรารู้ว่าอยากออกไปเล่นล่ะจ่ะ
สนุกเหมือนกันนะคะ ไม่ต้องมาคิดเยอะว่าแต่ละวันจะให้ลูกทำอะไร เพราะลูกคิดเองเลย 🤣
จะสังเกตได้ว่าจอมทัพมีทั้งอ่านหนังสือและเล่นกิจกรรมต่างๆ มันเลยยังเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกว่าลูกชอบหรือถนัดอะไร และสำหรับแม่หมีแล้ว เค้ายังเด็กเกินไปที่เราจะไปกะเกณฑ์ว่าลูกต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้แน่ๆ
สิ่งสำคัญ คือ เมื่อเราปล่อยให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเอง เค้าจะค่อยๆ บอกเราเองค่ะว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถนัดอะไร หรือสนใจอะไร... พ่อแม่อย่างเราแค่ใช้เวลาในการสังเกต และคอยสนับสนุนเค้าอย่างเต็มที่ค่ะ
ปล. ไม่ได้ against สถาบันต่างๆ นะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด
❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤
7 มกราคม 2563
แม่หมี ผู้พบว่าลูกคือกุญแจสำคัญที่ไขความลับจักรวาลของเค้าทั้งหมด
โฆษณา