7 ม.ค. 2020 เวลา 12:55 • ธุรกิจ
การตลาดเบื้องหลังแคมเปญรักโลกของร้านสะดวกซื้อ
หนึ่งในกระแสข่าวที่เป็นประเด็นเด่นประเด็นดังในช่วงสัปดาห์แรกของปีนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของแคมเปญรักโลกจากร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่อย่างเซเว่นอีเลฟเว่นที่งดแจกถุงหิ้วพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆได้รับผลกระทบทางตรงกันจนเรียกได้ว่าเมื่อยแขนกันเลยทีเดียว
แต่ก็มีร้านสะดวกซื้ออีกแบรนด์หนึ่งที่เลือกจะสวนกระแสด้วยการประกาศว่า “ร้านเรายังคงให้ถุงพลาสติกอยู่” นั่นก็คือ LAWSON 108 ที่เรามักจะเห็นร้านตั้งอยู่ตามสถานี BTS และ Metro Mall ของ MRT นั่นเอง
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร และเกี่ยวอะไรกับการตลาด วันนี้นายมิ้นท์จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
ก่อนอื่นเลยเราลองมาดูรายละเอียดของแคมเปญแจกถุงของ LAWSON 108 กันก่อนเลยครับ
ร้าน LAWSON 108 ประกาศว่าจะเปลี่ยนจากการใช้ถุงพลาสติกแบบเดิมเป็นการใช้ถุงพลาสติกแบบย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ (Biodegradable) สำหรับลูกค้าที่ต้องการจะรับถุงพลาสติก แต่ลูกค้าจะต้องจ่ายเงิน 1 บาทสำหรับถุงพลาสติก 1 ใบ โดยเงินในส่วนนี้จะนำไปบริจาคในด้านการกุศลต่อไป
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับการตลาดอย่างไร
ถ้าเราลองมองแคมแปญรักโลกลดถุงของผู้ประกอบการณ์หลายเจ้าดีๆ จะเห็นว่า ส่วนใหญ่แล้วจะใช้การให้เป็น “คะแนน” (ยกตัวอย่างเช่นการให้คะแนน Green Point ของ Tesco Lotus) เพื่อจูงใจลูกค้าให้ไม่รับถุงพลาสติก แต่ไม่ว่าคะแนนที่ได้รับจะมากแค่ไหน สิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆจะต้องเสียแน่ๆจากแคมเปญรักโลกเหล่านี้ก็คือ “วิถีการใช้ชีวิตแบบเดิม”
บางคนอาจไม่เคยพกถุงผ้าติดกระเป๋า โดยเฉพาะคุณผู้ชาย บางคนอาจไม่พกแม้แต่กระเป๋าถือเลยด้วยซ้ำ อยู่ดีๆจะให้หยิบถุงผ้าออกจากบ้านติดมือไปทุกวันคงเป็นไปได้ยาก(แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ)
นับว่าเรื่องนี้ LAWSON 108 สามารถเข้าใจ Pain Point ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและเลือกวิธีการได้อย่างตรงจุด เพราะใช้วิธีการสร้าง “ตัวเลือก” ให้กับผู้บริโภคว่าจะไม่รับถุงเพื่อช่วยโลก หรือจะยอมจ่ายเงิน 1 บาทเพื่อรับถุงตามเดิม (เพิ่มเติมคือความรู้สึกอิ่มใจจากการทำบุญ เพราะเงินนี้ก็นำไปบริจาคให้การกุศล) แทนที่จะงดให้ถุงพลาสติกไปเฉยๆ และผลักภาระตรงนี้ให้กับผู้บริโภค
ถ้ามองในมุมของความสะดวกหาสะดวกซื้อ แน่นอนว่า LAWSON 108 ซึ่งมีสาขาเพียง 100 กว่าสาขาคงจะไปเทียบกับเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีมากกว่าหมื่นสาขาไม่ได้ แต่วันนี้ ถ้าให้เลือกถึงความสบายใจที่จะซื้อของผู้บริโภค ผมคิดว่าหลายคนคงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วว่าถ้าเจอ 2 ร้านนี้พร้อมกันและอยากจะเลือกใช้บริการร้านไหน...
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจของร้าน LAWSON 108 กันครับ
ร้าน LAWSON108
LAWSON เป็นแบรนด์เครือข่ายร้านสะดวกซื้อจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยร่วมทุนกับเครื่อสหพัฒนพิบูล ปัจจุบันเน้นการขยายสาขาเจาะกลุ่มผู้บริโภคในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้การขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ร้าน LAWSON 108 ยังมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์และบ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นนั้นคือโอเด้ง และการขายของทอดภายในร้าน
รายได้และกำไรของบริษัท สหลอว์สัน จำกัด
ปี พ.ศ. 2559 รายได้ 2,169 ล้านบาท ขาดทุน 108 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2560 รายได้ 2,376 ล้านบาท ขาดทุน 230 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2561 รายได้ 2,903 ล้านบาท ขาดทุน 79 ล้านบาท
ถึงแม้จะยังขาดทุนติดต่อกัน แต่ที่น่าสนใจคือรายได้ของบริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ยังคงเติบโตต่อเนื่องทุกปี
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะครับว่าแบรนด์ร้านสะดวกซื้อจากญี่ปุ่นเจ้านี้จะสามารถใช้กลยุทธจูงใจผู้บริโภคจนเข้าไปอยู่ในใจคนไทยได้หรือเปล่า
แต่ที่แน่ๆนายมิ้นท์ขอยืนยันว่าโอเด้งของแบรนด์นี้อร่อยมากครับ...
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่รับชมและอ่านเรื่องราวของ "Mint talk" นะครับ
สามารถติดตามอ่านเรื่องราวที่นายมิ้นท์หยิบมาเล่ากันได้ที่นี่เลยครับ
และหากท่านไหนมีเรื่องราวที่สนใจอยากให้นายมิ้นท์เก็บมา Talk ให้ได้อ่านแล้วล่ะก็ comment บอกกันมาได้เลยนะครับ ^_^
โฆษณา