8 ม.ค. 2020 เวลา 13:09
"แซ่ชี้อ้ายลื้อเจ๊กนั้ง"
(ชาตินี้รักเธอคนเดียว)
เรื่องนี้ต้องบอกก่อนนะครับว่าไม่ใช่เรื่องผี
แต่เป็นเรื่องสั้นๆกี่ยวกับความรักที่ดารินญาไปเจอมาแล้วเล่าให้ผมฟัง..
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ผ่านมา
ดารินญาและครอบครัวได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีน
ไปเมืองที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่แกะสลักตรงหน้าผาและพักอยู่แถบชานเมืองนั้น..
ซึ่งครอบครัวของน้องได้จองบ้านพักเป็นหลัง
อยู่บนเนินเขา ทิวทัศน์สวยงามทีเดียว
ตั้งใจว่าจะอยู่และพักที่นั่นสักอาทิตย์นึง
รุ่งเช้าของคืนแรกที่ไปพัก
ดารินญาตื่นมาและได้มองไปนอกหน้าต่าง
เธอเห็นชายชราคนหนึ่งอายุน่าจะมากกว่าเจ็ดสิบปี
ปั่นจักรยานเก่าๆ ในตะกร้ามีอะไรบางอย่างซึ่งมองไม่ค่อยชัดขี่ผ่านไป..
มองตามจนสุดสายตา
คุณตาขี่มันขึ้นไปบนภูเขาลูกที่อยู่ข้างหน้านี่เอง
แต่ด้วยความที่หมอกมันลงหนามากเลยไม่ได้สนใจอะไร หลังจากกินข้าวเช้าและเตรียมตัวออกไปเที่ยวกัน เธอก็เห็นคุณตาคนนั้นขี่จักรยานลงมา
จากเขาเช่นเดิม
คราวนี้เธอเห็นแล้วว่าในตะกร้ารถนั้น
มีปิ่นโตไม้เก่า กระติกน้ำใบน้อย
ก็คิดว่าสงสัยแกจะไปทำสวนทำไร่บนเขาแน่นอน
ส่งยิ้มให้คุณตา ท่านหันมามองแล้วยิ้มตอบเช่นกัน
ผ่านไปหลายวันเธอก็เห็นคุณตาขึ้นเขาลงเขาเวลาเดิมเสมอ
พอลงไปเดินเที่ยวตลาดด้านล่าง
ก็พากันไปนั่งกินข้าว
เธอเล่าเรื่องราวที่ได้เจอคุณตาให้ก้องแฟนหนุ่มฟัง
บอกว่าบนเขาลูกนั้นหน้าบ้านพักเราอาจจะมีสวนอยู่ พรุ่งนี้ตอนเช้าๆลองไปเดินดูไหม?..
จังหวะเดียวกับเด็กเสิร์ฟเดินมาได้ยิน
เลยบอกว่าไม่มีสวนหรือไร่อะไรนะ
มีแต่บ้านพักแถวนี้..
ถ้าไม่ใช่เขาลูกนั้นที่มี..
ดารินญามองตามที่เขาชี้มันคือเขาลูกที่คุณตาขึ้นไปทุกวัน แล้วถามว่ามีอะไรเหรอ?..
"ที่บนเขามีหลุมฝังศพอยู่"
หันไปมองหน้าก้องที่มองเธอเช่นกัน
คิดเหมือนกันว่าคุณตาคงไปที่นั่นเพราะมีใคร
ผูกพันกันอยู่บนนั้น..
พอรุ่งเช้าวันต่อมา
คุณตาก็ปั่นจักรยานมาเหมือนเดิม
คราวนี้เธอกับก้องเลยลองเดินตามทางตามไป
เส้นทางขึ้นเขาถูกหมอกขาวปกคลุมจางๆ
แต่ความหนาวก็ยังคงมีอยู่
เดินไปจนสุดถึงบนเนินมีหญ้าสีเขียวขจี..
ภาพที่เห็นคือ
ชายชรานั่งอยู่ม้านั่งไม้ด้านหน้ามีหลุมฝังศพอยู่
ป้ายเขียนภาษาจีนเลือนลางไปคงเพราะผ่านลมฝนมาอย่างยาวนาน..
คุณตาเอาปิ่นโตไม้มาเปิดแล้ววางไว้
หน้าหลุมศพพร้อมกับตักน้ำสองแก้ว
แก้วหนึ่งวางที่หน้าหลุมพร้อมถาดปิ่นโต
เหมือนแกจะรู้ว่ามีคนแอบมองดูอยู่
หันมาเห็นทั้งคู่ก็ยิ้มให้...
ดารินญากับก้องจึงเดินเข้าไปหา
พร้อมกับยกมือไหว้ยิ้มให้
คุณตาถามว่ามาเที่ยวหรือดูท่าทางไม่ใช่คนที่นี่..
เธอบอกว่าเห็นคุณตามาที่นี่ทุกวันเลยตอนเช้า
ท่านมองหน้าทั้งสองคนแล้วยิ้มเบาๆ
"ฉันมาหาภรรยาที่นี่ทุกวัน
มาทานข้าวพร้อมเธอ"
มองดูหลุมศพตรงหน้าเอื้อมมือล้วงเอาดอกไม้ป่า
เล็กๆในเสื้อกันหนาววางไว้..
น้องจึงถามว่าคุณยายเสียนานแล้วเหรอคะคุณตา?
ชายชรามองไปบนท้องฟ้าแล้วพูดออกมาว่า
"พอมีเวลาไหม?
ถ้ามีจะเล่าอะไรให้ฟัง"..
ย้อนกลับไปเมื่อห้าสิบปีก่อน
ตอนนั้นคุณตา *ฟานซู* อายุได้สิบเจ็ดปี
อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตรงภูเขานี้
ซึ่งแต่ก่อนด้วยความที่ยังเป็นชนบทมาก
จำเป็นต้องมาตักน้ำที่ลำธาร
ไปใช้ดื่มกินและทำการเกษตรกรรม
ฟานซูด้วยความเป็นลูกชายคนโต
ต้องมาหาบน้ำทุกวันเป็นระยะทางกว่าสองกิโล
แต่ไม่เคยบ่นเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก
จนวันหนึ่งในฤดูร้อน
เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง
อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
หน้าตาน่ารักถักผมเปียสองข้าง
ส่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้ามให้เขา..
หลังจากกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น
ฟานซูนอนไม่หลับ เขาคิดถึงแต่รอยยิ้มนั้น
แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่ารักแรกพบ
แล้วทั้งสองคนก็มาเจอกันทุกวัน
เหมือนดังสาวเจ้าก็มาเวลาเดียวกันกับที่เขาจะมา
แล้วในวันหนึ่ง
ขณะที่ฟานซูมาถึงริมฝั่งลำธาร
เขาวางถังไม้ลง มองตรงไปฝั่งตรงข้าม
เห็นเพียงถังไม้วางอยู่...
เธอไปไหนกันนะ
พลันสายตาเขามองเห็นมือผู้หญิงโผล่มาจากผิวน้ำ
นั่นใครกัน!! มีคนจมน้ำอยู่..
เขากระโดดลงน้ำทันที
ดำลงไปคว้าเอาร่างของเธอขึ้นมาบนฝั่ง
คือเธอคนนั้นนั่นเอง..
เขาจัดการผายปอดให้เธอจนฟื้น
เธอมองเขาก่อนร้องไห้ออกมา
บอกเขาว่าคงเพลียมากหน้ามืดลงไปในน้ำ
แถมเป็นตะคริวอีกคิดในใจคงตายแน่แล้ว..
ฟานซูบอกตอนนี้ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
กลับบ้านไหวไหมเดี๋ยวไปส่ง..
สาวน้อยยิ้มแล้วบอกว่าได้สิจะให้พ่อกับแม่รู้จักด้วย
และแนะนำตัวว่าเธอชื่อ..*เหนียนเอ๋อ*
พอไปถึงบ้านเธอ
เล่าเรื่องราวให้ฟัง
พ่อแม่เธอก็ขอบใจเขาแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ตรงกันข้ามกับฟานซู
ที่ดูเหมือนตอนนี้จะรักเหนียนเอ๋อเข้าแล้ว
เดินกลับบ้านมาด้วยรอยยิ้มแจ่มใส..
นับวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มผลิบาน
ดอกรักมักปลูกบนแผ่นดินหัวใจที่รักจริง
แต่ฟานซูรู้ถึงสิ่งที่ควรทำจารีตประเพณีที่มี
สถานที่ๆคนสองคนมักจะไปพบและคุยกัน
คือเขาลูกหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านทั้งสอง
แต่ความรักมักมีอุปสรรคเสมอ
เหนียนเอ๋อถูกพ่อกับแม่ส่งตัวไปทำงานในเมืองใหญ่ไกลห่างจากเขา *(เซี่ยงไฮ้)*..
แล้วสิ่งที่โหดร้ายสำหรับฟานซู
คือเขาไม่รู้ว่าเธอไปไหน?
พ่อแม่รีบให้ญาติพาเธอไปโดยไม่ได้ร่ำลากันเลย
เขาไม่คิดว่าเธอจะมีคนอื่น
เธอเคยบอกรักเขา
เขาคือรักแรกของเธอ..
ในทุกๆวันก่อนจะไปทำงาน
ฟานซูจะมาคอยมองไปที่บ้านของเหนียนเอ๋อ
เพียงหวังว่าเธอคงกลับมาในสักวัน..
เขาทำแบบนั้นทุกวัน
ไม่ว่าแดดร้อน ฝนจะตก
ไม่อาจเปลี่ยนความรักความหวังที่เขามีได้เลย...
ผ่านไปห้าปี
ในเช้าวันหนึ่งก่อนจะไปทำงาน
แม่ของเขาบอกว่าไม่คิดจะสนใจคนอื่น
นอกจากเหนียนเอ๋อแล้วใช่ไหม?
ไม่ใช่ป่านนี้เขามีครอบครัวเขาลืมไปแล้วเหรอ?
ฟานซูมองหน้าแม่แล้วกอดท่านไว้แล้วพูดว่า
"ผมมีความหวังเสมอในทุกๆวัน
ผมคิดถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเหนียนเอ๋อ
มันยังคงก้องอยู่ในใจไม่มีวันลืม"
แต่วันนี้พอไปถึงหน้าบ้านเธอ
สิ่งที่เขาเจอคือ ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลังให้
ทำไมคุ้นตาเหลือเกิน..
ฟานซูตัดสินใจเดินเข้าไปหา
ทันทีที่เธอหันมา
เธอคือเหนียนเอ๋อ หญิงสาวที่เขารอมานาน
เขาจับมือเธอแต่ว่า....
สายตาเธอมองเขาแล้วพูดว่า..
"คุณเป็นใครกัน?
รู้จักฉันด้วยเหรอ?"
รอนานๆก็อาจจะบั่นทอนหัวใจ
คำนี้ทำให้เขาตัวชาไปหมด
"ใครมาล่ะเหนียนเอ๋อ?"
"ไม่รู้สิแม่?
เขารู้จักฉันด้วย"....
หญิงวัยกลางคนเดินออกมาเห็นเขา
ก็ถอนหายใจให้มองหน้าแววตาเห็นใจ..
"เหนียนเอ๋อถูกคนร้ายตีหัว
สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก
ทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป!"
"แล้วแฟนที่เพิ่งคบกัน
ไม่อยากดูแลเลยเอาเธอมาส่งที่นี่"
ฟานซูมองดูเหนียนเอ๋อด้วยความสงสาร
ความทรงจำที่หายไปของเธอคือเขาใช่ไหม?
เดินไปกอดเธอที่มองเขาอยู่
น้ำตารินไหลออกมาเป็นทาง..
"เธอจะรังเกียจไหม
หากจากวันนี้ไปฉันจะดูแลเธอเอง"
หันไปมองแม่ของเธอที่ยืนเอามือปิดปากร้องไห้
"ฉันขอโทษที่พรากเธอจากกัน
เพียงแค่คิดว่าเธอไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน"
ฟานซูจัดการให้พ่อแม่มาสู่ขอเหนียนเอ๋อ
ตามประเพณี สิ่งที่เขาทำทุกวันคือ
สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เธอ
อาหารที่เธอชอบคือซุปเยื่อไผ่กับน้ำดอกเก๊กฮวยอุ่นๆ เขาทำให้เธอกินทุกวัน ตอนเที่ยงก็มากินข้าวพร้อมเธอ พาไปหาหมอแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น..
สองปีผ่านไป
ในวันหนึ่ง
เธอถามเขาว่า
มีที่ใดที่เธอกับเขาชอบไปเสมอ..
เขาพาเธอไปบนภูเขาลูกนี้
ยอดเขามีทะเลหมอกสวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์
เธอนั่งบนเนินหินแล้วหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
จากถุงผ้าสีแดงเล็กๆ...
มันคือปิ่นปักผมที่ฟานซูซื้อให้ตอนที่มาที่นี่ด้วยกัน
ในครั้งแรกและมีรูปของเขาที่สีจางอยู่..
"ฉันเก็บมันไว้กับตัวตลอดเวลา
แม้บางครั้งฉันก็ลืมว่าเธอเป็นใคร
แต่เมื่อฉันคิดถึงเรื่องรักครั้งแรก"
"ฉันจะจำเธอได้ทันที"
เขาเดินมากอดเธอร้องไห้
นั่นก็แปลว่าการรอคอยของเขามันไม่สูญเปล่าเลย
"ฉันชอบที่นี่
ถ้าฉันไม่อยู่แล้วเธอเอาฉันมาอยู่ที่นี่นะ"
ไม่นานเหนียนเอ๋อก็จากไป
ฟานซูก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ
เอาเธอมาฝังไว้บนเขาลูกนี้..
แล้วในทุกเช้าก่อนไปทำงาน
เขาจะเอาซุปเยื่อไผ่กับน้ำเก๊กฮวยอุ่นมาให้เธอ
ตลอดเป็นเวลาเกือบสี่สิบห้าปีแล้ว
ดารินญามองหน้ากันกับก้อง
ถ้าเป็นเราจะรักจะมั่นคงได้สักครึ่งของคุณตาไหม
การรอคอยที่มันไม่มีความหวังมันทรมาน
แต่คุณตาฟานซูเลือกที่จะรอโดยใช้หัวใจ
และภาพจำรักแรกที่มี...
ในวันนี้แม้ว่าคุณยายเหนียนเอ๋อจะอยู่ที่ใดก็ตาม
แต่เชื่อว่าคงมีความสุขที่ได้มองเห็นว่า
ผู้ชายคนที่เป็นรักแรกยังคงรักและซื่อสัตย์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง....
"แซ่ชี้อ้ายลื้อเจ๊กนั้ง"
*ชาตินี้รักเธอคนเดียว*
"Once in love , Always in love"
*ครั้งหนึ่งรักเธอ , ก็จะรักเธอตลอดไป*
..........................................................................
โฆษณา