เซลรถระบะ!!
ตั้งแต่มาเป็นเซลบ้านนอก เวลาไปพักโรงแรมก็จะสังเกตุเซลบริษัทอื่น เค้าใช้รถแพงกันทั้งนั้นเลยแฮะ ความจริงมันก็ถูกของเค้านะ
ชีวิตเซลเราแทบจะกินนอนอยู่บนรถ ใช้รถเป็นพาหนะในการทำงานหลักเลยล่ะ ทุกอย่างอยู่ในรถนี่แหละ
รถเซลคันไหนเรียบร้อยเนี่ย ต้องเป็นระดับผู้บริหารแล้วล่ะ ลองมาดูรถเซลเด็กน้อยดิ แทบจะเอาตัวแทรกเข้าไปไม่ได้
มีครั้งหนึ่งน้องถามว่า “พี่ไปรถผมไหมครับ” ดีเหมือนกันขี้เกียจขับรถ พอเปิดเข้ารถน้อง เอิ่ม!! สตั้นไปสิบวิ ตรงไหนค่ะที่ว่าง!!
ไหนจะของแจกลูกค้า ไหนจะโบรชัวร์ ไหนจะของติดหน้าร้าน เยอะแยะไปหมด เธอ!! ทำไมมันเยอะขนาดนี้
น้องบอกว่า ผมกลัวผมลืม เลยเอาทุกอย่างไว้ในรถ มีครั้งหนึ่งออฟฟิตส่งสแตนดี้มาให้ “ตัวใหญ่มาก”
รถน้องมันก็เล็ก “แล้วนี่จะเอาไปยังไงคะ?” ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมขับไปแล้วเทินบนหัว โอ้ยย .. ไม่ไหวนะ ไปรถช้านดีกว่านะ
ตั้งแต่ทำงานมานานนับสิบปี เราใช้สมบัติพ่อรถมาโดยตลอด มันเป็นอะไรที่ลงตัวมากในชีวิตเซลบ้านนอกอย่างเราคือ “รถกระบะ”
เพราะมันขนของได้ คันนี้ขนยังตู้ออกบูธ และสารพัดแต่ละแบรนด์โตมาได้ก็ใช้กระบะเซลบ้านนอกนี่แหละ
คุณรู้ไหมว่า การขนส่งสินค้าของออฟฟิตเนี่ย ค่าขนส่งแพงมาก บางครั้งแพงจนบอสไม่อนุมัติ ทำไงล่ะรถเราเนี่ยแหละไปขนมา ค่าใช้จ่ายไม่มี จบปัญหา
ดังนั้นการใช้รถกระบะจึงคล่องตัวมากสำหรับเรา ส่วนใหญ่ไปไหนใช้รถตัวเองเสมอ
เพราะเคยถามคนอื่น เธอ!! เปลี่ยนยางครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? เจอคำตอบสามปีที่แล้ว สตั้นไปสิบวิ คุณคะเป็นเซลวิ่งทุกวัน มันรอดการยางแตกมาได้ไงฟ่ะ?
อิช้านเนี่ยถึงรถจะเก่า แต่เข้าศูนย์เช็คระยะตลอดนะจ๊ะ เพราะรถต้องพร้อมตลอดเวลา
แต่ด้วยความที่เป็นสิงห์ทางเรียบก็จะไม่ถนัดเขาสักเท่าไหร่ ขึ้นเขาทีไรเพื่อนสยอง แต่ก็ชอบลองนะ
มีจุดหนึ่งในเมืองกาญ ถ้าตัดจุดนี้ไปได้ จะลัดไปสี่สิบโล พยายามขึ้นมาหลายทีไหลลงทุกที!!
เกียร์กระปุกเชนเกียร์ไม่รอด รถแรงตกซะก่อน รถเลยไหลลงมา ระยะทางมันยาวไปหน่อย น้องบอกว่า ยังจะไปอีกเหรอ?
นิสัยเราไง!! มันเหมือนพยายามต้องลองทำให้สุด แต่รอบสุดท้าย มีรถสวนเลยต้องยอมตัดใจปล่อยรถไหลขูดกะราวกั้นถนน เพื่อหยุดรถ เพราะเบรกไม่อยู่มันสูงมาก
บทเรียนนี้ทำให้รู้ว่า เวลาพยายามใดๆ ต้องดูความพร้อมของสิ่งรอบตัวด้วย ใจมาอย่างเดียวไม่ได้นะจ๊ะ
ลูกค้าก็จะถามประจำ เมื่อไหร่จะเปลี่ยนรถเนี่ย? คำถามตอบยากนะเนี่ย นึกในใจไม่ใช่คันละแสน คันเป็นล้าน
แค่คิดวันจะผ่อนก็เหนื่อยแระ ใช้พี่เทาต่อไปดีกว่า เคยไปบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง มีที่จอดรถสำหรับ VIP
เรานัดเค้าไว้แล้วนี่ ถอยเฟอรรารี่ของตรูเข้าซองเลยจ้า น้องเจ้าหน้าที่รีบวิ่งมาบอกใหญ่เลย พี่ครับ “รถขนของ” จอดไม่ได้นะครับ
เราก็มองหน้าน้องแล้วถามว่า นี่ไม่ใช่ที่จอดรถที่บุ๊คไว้ให้ VIP เหรอครับ? พี่นี่แหละ VIP ที่จะมาเข้าพบวันนี้
โอเคนะจอดได้นะ ถามว่าอายไหม อายนิดหนึ่งแต่ขำมากกว่า ไม่ขำได้ไงข้างๆ BMW จอดเรียงกันเลย 😆
จึงเป็นเรื่องเล่า “เซลรถกระบะ” ของเราเอง ค่าของคนอยู่ที่รถหรือเปล่า? ถ้าตอบคำถามในใจอันนี้ได้ ก็ไม่ค้องแคร์ใครคะ
การมีรถหนึ่งคัน กับเงินเก็บเงิน 1 ล้าน ในบัญชีธนาคาร มันต่างกันนะ มีตังซื้อทุกอย่างได้นะ ต้องมาดูว่าเราให้คุณค่ากับอะไรมากกว่ากันในชีวิต
ลูกค้าจะบอกกันทุกรายว่า ปกติเซลผู้หญิงใช้รถเก๋งกันทั้งนั้น มีพี่นี่แหละขับกระบะ กลายเป็นโลโก้ของตัวเองไปซะงั้น
GM ชอบถามว่าเมื่อไหร่จะซื้อรถ ตอบแบบไม่คิดเลยจ๊ะ “ยังไม่ซื้ออ่ะ” แล้วก็นึกในใจ ซื้อมาก็ต้องมาขับรถให้บอสนั่งเด๊ะ
แต่ถ้าไม่ซื้อรถ GM กะบอสก็ต้องมารับเราไปด้วย สบายตรูเลยไม่ต้องขับรถ 😝 ประหยัดตังค์อีกต่างหาก 🧐
อีกอย่างสงสัยดูลักษณะจนจัด (มาก) เคยเข้าไป เทสรถหลายยี่ห้อดัง Toyota Honda Mazda เซลก็ดีมากไม่ตามเลยอ่ะ คือเทสรถเสร็จก็จบแค่นั้น ไม่มีการโทรมาเสนอโปรอันใด
ขนาดถึงกับปันใจไปค่ายใหม่ MG ไปดู MG รถไฟฟ้ามา แทนที่ตอนเปิดตัวมันจะเชิญเราไป ดันเชิญไปงานรถกระบะ มีความงงสุดจริง!!
คุณคิดว่า ลูกค้าที่เดินเข้าไปในโชว์รูมเลย เค้ามีเปอร์เซ็นต์การซื้อรถสูงไหม?
ถ้าเป็นสายเซลบ้านนอกอย่างเรานะ ประเมินได้เลยว่าความคาดหวังในการเปลี่ยนรถใหม่ 60% และอีก 40%
แบ่งเป็นของแถมและสิ่งคาดหวัง 20% และการตัดสินใจที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง 20% ถ้าปิด 40% หลังได้และติดตามเคสนี้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าขายลูกค้าได้แน่นอน
การเป็นเซลถ้าคุณคิดทฤษฎีง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ก็นั่งรอไปออกบูธให้คนเดินห้างดูจ๊ะ
จริงๆ ส่วนตัวหาข้อมูลรถไว้แน่นมาก เรียกว่าระดับลงลึกถึงตัวอะไหล่ที่มีปัญหาในรุ่นนั้นๆ เลยทีเดียว
เวลาเข้าไปทุกโชว์รูมเราจะยิงคำถามพวกนี้เสมอ เพราะจะดูทักษะเซลว่า เค้าจะแก้ปัญหาจุดบอดเหล่านี้อย่างไร
มันเป็นสิ่งสำคัญมากในการเป็นเซลนะนะ คุณขายของรู้จักสินค้าตัวเองดีแค่ไหน? แล้วจะขายมันยังไง? และจะขายใคร?
คำถามเบสิคที่หลายๆ คนตอบมันไม่ได้จริงๆ นะ เคยไปดูรถ MG HS ในห้าง ระหว่างที่เปิดนั่นเปิดนี่ มีลุงคนหนึ่งเดินมา แล้วก็โจมตี MG ขั้นหนักหน่วง
เซลก็ยืนมึนในสถานการณ์ที่ลูกค้าเค้าสองคนเวลาเดียวกัน คนหนึ่งสนใจมาก คนหนึ่งไม่สนใจเลย แต่ดูพร้อมกัน
เราเดินดูไปเรื่อยๆ ยังไม่พูดอะไร จนสุดท้ายเซลไม่แก้สถานการณ์อะไรเลย ก็เลยบอกลุงว่า “ถ้าเราไม่ลองของใหม่บ้าง เราก็ไม่มีอำนาจในการต่อรองสิลุง”
ลุงเลยเดินหายไปเลยจ้า เราเลยได้ดูส่วนอื่นของรถแบบสบายใจ ไม่งั้นลุงเดินตามบ่นอยู่นั่นแหละ 😈
เซลนะเค้าจ้างมาแก้ปัญหา ดังนั้นทุกปัญหาต้องหาทางออกให้กับมันนะ
#วิถีเซลบ้านนอก
#iampatthanid
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
