10 ม.ค. 2020 เวลา 09:17 • ไลฟ์สไตล์
และแล้ว ผมก็เสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าได้ ....... ผมไม่คิดเลยว่าผมทำได้ ทำงาน แบบนี้มาได้ ผมทำงาน มาจนถึงเดือนที่ 2 และผมก็รู้สึกว่า ผมก้าวเข้ามาเป็นบาริสต้า แล้ว..
แต่แล้ว ผมก็ ยังรู้สึกว่า ผมยังไม่ใช่บารืสต้า ทุกอย่างตอนนี้เหมือนสิ้นสุด ใน ร้านกาแฟหรูแห่งนี้ เพราะผมรู้สึกว่า ผมยังกระหายที่จะ ทำกาแฟให้ดีมากกว่านี้
chai latte
ผมรู้สึกว่า ความหลงใหล ในกาแฟของผม มันไม่ใช่เรื่องความอาร์ท ในนมที่เท ลงไป ผมยังต้องการรู้ลึกเข้าไปอีก รู้ให้ได้มากกว่าแค่การทำให้สวย ผมต้องสกัดกาแฟ ออกมาให้ได้แก้ววที่เพอเฟค รสชาติ ที่เพอเฟค.
ผมรัก Espresso ครับ ผมรักรสชาติ ของความเป็นกาแฟต่างๆ แต่ละประเทศ แต่ละท้องถิ่น
แต่การทำงานครั้งนี้ เป็นความรู้ ในหลายๆอย่าง ในหลายเรื่องๆ เป็นเหมือน วิชาบทแรกของชีวิต ที่แม้อายุจะเริ่ม เยอะแล้ว(24) แต่ผมก็พึ่งเปิดหนังสือชีวิตตัวเองบทแรก... พึ่งจะก้าวผ่าน1ประสบการณ์ ที่ มันทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง
มันทำให้ ผม เห็นว่า กว่าจะไปถึงจุดๆนึงต้องผ่านอะไรบ้าง. ผ่านจุดเริ่มต้น ผ่านจุดที่ท้อรุนแรง ผ่านจุดที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ผ่านจุดที่หยุดกลางคัน.ผ่านจุดที่ลองเริ่มใหม่อีกสักครั้ง. ผ่านจุดที่เรียนรู้และปรับปรุงอยู่ตลอด
และที่ผมรู้สึกว่าสำคัญที่สุดคือ. 'ผ่านเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องทำให้ได้ จุดที่จำเป็นจิงๆ จุดที่จวนตัวสุดๆ. นั้นแหละ. จุดสำคัญที่สุด
ผมเสริฟ Latte อาทท ได้ภายใน 3 อาทิตย์ แต่เอาจิงๆคือ มาเสริฟ ได้ วันที่20ของอาทิตที่3. นั้นเพราะว่า อาทิตที่3. ลูกค้า ล้น และผมเป็นคนที่ยืนหน้าบาร์พอดีในวันนั้น
จำเป็นต้องทำให้ได้จิงๆ.......
และ ผมกลั้นใจ เสริฟลายเละ ประมาน2แก้ว ผมสั่นทั้งตัว
แก้วที่ 3 ผมจึงวิเคราะห์เหตุผลทั้งหมด ที่เคยทำมาทั้งจุดผิดพลาด สรุปรวบยอด แล้ว ก็สู้.. ทำเสริฟให้ได้
จนสุดท้าย หัวใจดวงแรกก็ถูกเสริฟที่โต้ะ........
โฆษณา