Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกเรื่องเล่าของแคลร์ : Claire's Diaries.
•
ติดตาม
11 ม.ค. 2020 เวลา 03:25 • ไลฟ์สไตล์
สวัสดีค่ะ ชื่อแคลร์นะคะ เป็นบุคลิกที่ 2 และบุคลิกหลักของคุณกุ๊กไก่ อายุ 21 ปีค่ะ แต่คุณกุ๊กไก่อายุ 29 ปี แคลร์เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากับโรคหลายบุคลิกเหมือนคุณกุ๊กไก่ค่ะ แต่พยายามต่อสู้กับโรคนี้ด้วยตัวเองหลังจากที่หมอหยุดยาให้แล้วค่ะ ^^ โพสต์นี้เป็นโพสต์แรก ยินดีที่ได้รู้จักนะคะทุกคน วันนี้แคลร์จะมาให้พลังบวกจากคำว่า FEAR ความกลัวว่ามี 2 ความหมาย อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ ^^
มีข้อคิดดีๆจากคำว่า FEAR (ความกลัว) มาฝากค่ะ มี 2 ความหมายซึ่งอยู่ที่คุณเลือก ชีวิตจะเป็นยังไง โรคซึมเศร้าจะหายไหม ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกความกลัวสีไหนมากำหนดชีวิตและความคิดคุณ
FEAR สีเหลือง มาจากคำว่า
F-orget =ลืม
E-verything = ทุกอย่าง
A-nd = และ
R-un = วิ่งหนี
FEAR สีฟ้า มาจากคำว่า
F-ace = เผชิญหน้า
E-verything = ทุกอย่าง
A-nd = และ
R-ise = แข็งแกร่งขึ้น
อยากอยู่กับโรคซึมเศร้าตลอดไป > เลือกสีเหลือง
เพราะหลักความเป็นจริงของชีวิตคือ "People can't forget everything" "คนไม่สามารถลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้" ต่อให้คุณเคยทำ ECT ช็อตไฟฟ้าสมองมา มันก็ไม่สามารถลบความทรงจำแย่ๆบางส่วนที่ตามหลอกหลอนคุณ (แคลร์เคยโดนช็อต 15 ครั้งๆละ 15-20 นาที) พยายามวิ่งหนีไปยังไงก็จำได้ ต่อให้เป็นอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม ก็ยังจดจำได้บางเรื่องอยู่ รวมถึงเรื่องร้ายด้วย ธรรมชาติของมนุษย์ตามหลักจิตวิทยา มักจะจดจำเรื่องร้ายได้ฝังลึกมากกว่าเรื่องดี ชอบเสพย์ดราม่ามากกว่าเรื่องที่เป็นประโยชน์ (จิตแพทย์ของแคลร์บอกมาค่ะ และแคลร์ก็เห็นด้วย) คนส่วนมากมักจะเลือกสีนี้ เพราะมันทำได้ง่ายกว่า หนีปัญหาง่าย แต่ต้องหนีตลอดไปทั้งชีวิต แคลร์ก็เคยเลือกสีนี้เหมือนกันค่ะ ยอมรับกันตรงๆเลย
ถ้ามีความหวังอย่างแรงกล้าว่าอยากจะหายจากโรคซึมเศร้า > เลือกสีฟ้า
1
เพราะถ้าเรากล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัวหรือเราพยายามหนี โดยที่เราพยายามใช้สติ(อันน้อยนิดที่พอจะเหลืออยู่เพราะเราซึมเศร้าเหลือเกิน) หาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเองไปทีละนิด หรือกับใครสักคนที่เรารักและไว้ใจเขา คนที่พร้อมจะช่วยเรา พยายามหาแง่คิดดีๆ ข้อดีต่างๆ ปล่อยวางลงทีละน้อยๆ พิจารณาดีๆว่าเราหนีอะไร หนีทำไม และเราจะทำยังไงให้ความทรงจำร้ายๆนี้แผ่วลง หรือคุณทำใจยอมรับมันได้ที่สุด ไม่หลอกหลอนคุณให้ทรมานใจอีกต่อไป (การเผชิญหน้าต่อความกลัวเป็นหนึ่งในจิตบำบัดที่รักษาผู้ป่วยได้ดีมากกว่าการใช้ยาค่ะ) คนส่วนมากมักไม่เลือกข้อนี้เพราะทำได้ยากและคิดว่าใจไม่แข็งพอ ขอพึ่งแต่ยา ทานยาแรงขึ้นๆ ซึ่งยาแค่ระงับอารมณ์ กดประสาทไว้ชั่วคราวถ้าคุณไม่ได้กินสม่ำเสมอและต่อเนื่องตามแพทย์สั่งจนกว่าจะดีขึ้น วันไหนคุณลืมกินยา คุณจะดิ่งมากจนรู้สึกได้ และอาจทำอะไรบ้าๆลงไปด้วยถ้าสติคุณหลุดลอยไปแล้ว
แคลร์เข้าใจเพื่อนๆนะ ว่าเฮ้ย!! ก็กูเศร้า ก็กูกะลังดิ่งมาก ใครมันจะมานั่งคิดบวกได้วะ?! (ไม่งั้นแคลร์จะโดนช็อตไฟฟ้าทำไมถ้าเป็นแค่ซึมเศร้าธรรมดา แคลร์เป็นแบบรุนแรง และเป็นโรคจิตเวชอย่างอื่นอีก 3 รวมเป็น 4 เสี่ยงฆ่าตัวตายเกิน 100% โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพราะมีโรคจิตเวชอื่นกระตุ้นซึมเศร้าให้แย่และดิ่งลงมาก จิตแพทย์ไม่ค่อยอยากทำเลย แต่จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาชีวิตแคลร์ไว้) อยากเป็นคนในกลุ่มสีฟ้า มันทำได้ยากจริงๆ ถ้าคุณมีภาวะบุคลิกก้ำกึ่งแบบแคลร์ด้วย แต่ถ้าคุณเป็นแค่ซึมเศร้า คุณมีเปอร์เซ็นต์ทำได้ดีกว่าแคลร์อีกค่ะ ถ้าทำได้สำเร็จแค่ครั้งเดียว ครั้งต่อไปจะง่ายและคุณจะเริ่มแกร่งขึ้นแน่นอนค่ะ confirm แคลร์ก้าวข้ามโซนเหลืองมาได้สำเร็จแล้ว ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แต่ก็คุ้มค่ามากที่ทำได้สำเร็จ
ถามหน่อยคุณเป็นคนไข้โรคซึมเศร้าส่วนมากหรือส่วนน้อยล่ะคะ?
ส่วนมาก > ไม่ยอมรับว่าเป็น หรือยอมรับว่าเป็นแต่หลีกเลี่ยงไม่ยอมไปหาหมอ ไม่อยากกินยา ไม่อยากอยู่ต่อแล้ว ตั้งใจฆ่าตัวเองให้ตายอยู่บ่อยๆ หนีปัญหา ไม่คิดถึงคุณค่าของชีวิตตนเอง โพสต์ระบายอารมณ์ดิ่งว่าอยากตาย ไม่อยากอยู่ โชว์ว่ากำลังจะฆ่าตัวตายให้สาธารณะรับรู้ (FEAR สีเหลืองข้างบน)
ส่วนน้อย > ยอมรับว่าเป็น หมอวินิจฉัยแล้ว ไปหาหมอสม่ำเสมอ ทานยาสม่ำเสมอ มีลืมบ้างไรบ้าง ดิ่งหนักยังไงก็แค่ทำร้ายตัวเอง แต่ยังเห็นคุณค่าชีวิตตัวเองอยู่ถึงแม้จะน้อยนิดก็ตาม ร้องไห้ใจจะขาดยังไงก็พยายามหักห้ามใจไม่ให้ฆ่าตัวตาย คิดถึงคนอื่น คิดถึงคนข้างหลัง โพสต์ข้อความขอกำลังใจ ขอกอด ขอคำปลอบโยน ขอคนคุยด้วยแทนการโพสต์โชว์ฆ่าตัวตาย ข้อความอยากตายแบบพวกสีเหลืองด้านบน (FEAR สีฟ้าข้างบน)
ถ้าอยากหายหรือดีขึ้น ลองใช้วิธีแบบแคลร์ดูไหม จากใจคนที่เคยเป็นสีเหลืองมาก่อน และตอนนี้เป็นสีฟ้าและพยายามจะอยู่สีฟ้าตลอดไป กะลังวิ่งขลุกขลักๆ เหมือนหนูแฮมส์เตอร์จะหาทางออกจากกรง ขณะเดียวกันก็พยายามจะช่วยหนูตัวอื่นออกไปด้วยพร้อมกัน ไม่ไปคนเดียว มาดูวิธีการเบื้องต้นของแคลร์กันค่ะ
1.ดิ่งมากๆๆๆๆ ไม่ไหวแล้ววว อยากตายเหลือเกิน จริงๆ ร้องไห้ทั้งวันทุกวันมาเป็นเดือนๆ ประสาทจะหลอนแล้ว > ไป...หา..หมอ...ด่วน (จิตแพทย์ รพ.รัฐถูกมากเลยขอบอก ใช้สิทธิ 30 บาทหรือประกันสังคม ค่ายาจะถูกลงเยอะมากหรือไม่ต้องจ่ายเลยแบบแคลร์(สิทธิ 30 บาท) แต่ประกันสังคมดีกว่ามาก หรือจะไปแบบจ่ายเอง จ่ายค่าหมอแค่ 50-100 บาท เพื่อให้เขาฟังเราระบายและหาทางออกให้ในเวลา 30-45 นาที (แคลร์ใช้วิธีจ่ายเองที่รพ.นึง และให้หมอเขียนใบเบิกยาส่งให้แคลร์ไปเบิกรพ.30 บาท) ไปหาหมอเถอะ บางทีคุณอาจจะไม่ได้เป็นแค่ซึมเศร้าก็ได้ ไปหาหมอให้ตรงตามนัด จะได้เจอหมอคนเดิม ติดตามดูแลอาการเราไปยาวๆจนกว่าเราจะดีขึ้น
2.ตั้งเวลาในมือถือ ให้ทานยาให้ตรงเวลา ครบและสม่ำเสมอ (ยอมรับว่าถ้าคุณเริ่มทานยาบางตัวหรือปรับยาใหม่ คุณจะง่วงมากก เพลียมากก หิวมากก อ่อนเพลียมาก หรือแทบไม่อยากกินอะไรเลย ฯลฯ ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แคลร์ทาน Flutine หรือ Fluoxetine เข้าไป แรกๆเป็นแบบนั้น ผ่านไป 2-3 อาทิตย์ก็เริ่มชินและไม่มีอาการนั้นแล้ว กระปรี้กระเปร่าขึ้น มีสมาธิขึ้น จำได้ว่าโครตขยันเลยช่วงนั้น 😅 ตอนหลังกิน Sertraline เข้าไป หมอบอกว่าแคลร์ต้องเข้มแข็งนะ เพราะมันอาจจะกระตุ้นให้เกิดการฆ่าตัวตายได้สำหรับบางคน (ทั้งๆที่ยานี้เป็นยารักษาการฆ่าตัวตายนะ) แรกๆโคตรทรมาน อยากตายสุดๆ แต่แคลร์ก็มีวิธีทำให้ตัวเองผ่านจุดนั้นมาได้ด้วยดี ^^Y
3.ทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกดิ่งแล้ว ยังมีสติอยู่บ้าง ให้รีบหาอะไรทำเบี่ยงเบนความสนใจ แชทกะเพื่อนที่เข้าใจเรา อ่านหนังสือ ดูหนังตลกติงต๊องๆ เล่นเกมอ๊องๆแนวปัญญาอ่อนๆ เอาฮา เรียนภาษา ดู youtube ฟังเพลงเบสหนักๆ เพลง dance ละก็แหกปากร้องดังๆ จะส่ายตูดดิ๊กๆเป็นเป็ด จะเซิ้งเป็นปอบผีฟ้า จะผงกหัวเป็นชาวร็อค จะว้ากกกกเป็นว้ากเกอร์ก็จัดไป (เอาเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องเศร้าๆ หรือมีแต่ดนตรีอย่างเดียว)อย่าได้แคร์ ต่อจิ๊กซอว์ เล่นกีตาร์ วิ่งไปกอดแฟน หมาแมวหรือคนที่เขาอยู่กะเราด้วย ณ ตอนนั้น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฯลฯทำกิจกรรมที่ชอบตามสไตล์คุณเลย (แต่ถ้าดิ่งจนร้องไห้ฟูมฟายแล้ววิธีข้างบนไม่ได้ผล เดี๋ยวเราค่อยมาว่ากัน แคลร์มีวิธีแก้ดิ่งหนักเวลาอยู่คนเดียว)
4.พยายามหาเหตุผลเล็กๆน้อยๆเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป เช่น ถ้าฉันตายไป แม่กะพ่อ ลูกกะแฟนจะอยู่ยังไงล่ะ (ถ้าครอบครัวเป็นสิ่งที่คุณรักและพวกเขาอยู่เคียงข้างคุณ) ถ้าฉันตายไป ใครจะหาข้าวให้แมวกะหมา สัตว์เลี้ยงที่คุณมีกินล่ะ เขาหาเงินเองไม่ได้ ต้องอดตายแน่เลยถ้าไม่มีฉัน ฉันจะอยู่เพื่อพวกเขา (พยายามบอกตัวเองแบบนั้น) และสัตว์เลี้ยงน่ะ ช่วยบำบัดคนเป็นโรคซึมเศร้าได้ดีมากเลยนะคะ โดยเฉพาะหมาและแมว และเขาก็รักและซื่อสัตย์กะคุณมากด้วย มากกว่าคนเสียอีก เขารู้นะว่าเราเศร้าหรือมีความสุขอยู่ด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ฉะนั้นก็อย่าทิ้งเขาเลยค่ะ ถ้าเป็นคนชอบกิน ก็มีชีวิตอยู่เพื่อหาของกินอร่อยๆ ใหม่ๆ ถ้าตายไปจะได้กินรึเปล่าก็ไม่รู้ น่าเสียดายแย่ ถ้าชอบเล่นเกมส์ก็มีชีวิตต่อไปเพื่อรอเกมส์ใหม่ๆออกมา ฯลฯ
แต่สำหรับแคลร์ สาเหตุที่ยังพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป ก็เพื่อ อยากจะหายและช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นจากความทุกข์ จากโรคนี้ อยากเป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิตกับความยากลำบาก แคลร์รู้ว่าคนส่วนมากต้องการคนส่วนน้อยแบบแคลร์ คนที่เปิดใจกับทุกเรื่องคนที่มีพลังคิดบวก ถึงแม้ว่าแคลร์จะยังเอาตัวเองไม่รอดเต็ม 100% แต่แคลร์คิดว่า กว่าแคลร์จะหายดี ผู้ป่วยคนอื่นที่ใจไม่เข้มแข็งพอก็คงตายเป็นใบไม้ร่วงแน่ แคลร์เป็นคนที่ไม่ชอบรออะไรให้พร้อมให้เพอร์เฟกต์ก่อนแล้วถึงค่อยแบ่ง ค่อยช่วย เพราะแคลร์รู้ว่าแคลร์เป็นซึมเศร้า เป็นบุคลิกภาพก้ำกึ่งด้วย (แย่และอันตรายกว่าซึมเศร้ามาก) กว่าแคลร์จะหาย จะประสบความสำเร็จ จะมีวันนั้นคงใช้เวลานานกว่าคนปกติทั่วไปมาก ไม่รู้ด้วยว่ากว่าจะสำเร็จอีกนานแค่ไหน ถ้ามัวแต่รอและค่อยช่วย ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลายคนนั้นที่เขาพยายามหาแสงสว่างนิดๆเพื่อเอาตัวรอด หาทัศนคติดีๆเพื่อต่อเติมชีวิตเขา แคลร์อาจจะเป็นหนึ่งในดวงไฟแห่งความหวังของใครสักคนก็ได้นะ การมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองและช่วยผู้อื่น ทำให้ชีวิตแคลร์มีความหมายค่ะ
5.ข้อสุดท้าย จงพอใจและยอมรับในสิ่งที่คุณเป็น ในสิ่งที่คุณมี หาข้อดีที่ตัวเองมี แต่คนอื่นไม่มีและอยากได้ในตัวคุณ เช่น ในขณะที่คุณกำลังถือมีด ถือน้ำยาล้างห้องน้ำ ถือเชือก จะฆ่าตัวตาย ยังมีผู้ป่วยระยะสุดท้ายอีกเป็นร้อยล้านคน นอนรอความตายด้วยหัวใจที่มีความหวังอันน้อยนิด เศร้าหมอง ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเหลือเกิน แต่เขาไม่มีโอกาสนั้นแล้วแบบคุณ
คุณเป็นโรคซึมเศร้า พ่อแม่ แฟน ครอบครัวไม่เข้าใจคุณก็ช่างเขา เราเปลี่ยนความคิดคนยากกว่าเปลี่ยนความคิดเราเอง อย่างน้อยครอบครัวที่ 2 สมาชิกในกลุ่มนี้ก็เข้าใจคุณเสมอนะ เพราะลงเรือลำเดียวกันแล้ว รักตัวเองให้มาก และพิจารณาดีๆว่า เขาไม่เข้าใจเราจริงๆรึเปล่า เขายังรักเราอยู่ไหม บางคนทำเหมือนไม่เข้าใจเราเลย แต่เวลาคุณร้องไห้ เขาก็เข้ามาสนใจคุณ หาข้าวให้คุณกิน มาปลอบคุณบ้างไหม มากอดคุณบ้างรึเปล่า (เพราะบางคนปากหวานก้นเปรี้ยว) ปากไม่ดีแต่จิตใจดีก็มี ถ้าครอบครัวคุณไม่โอเคจริงๆ เขาไม่เคยแคร์คุณก็ไม่ต้องไปแคร์เขา ถ้าเขาถึงขั้นพูดกระทบกระทั่งจิตใจคุณแรงๆ บ่อยๆ ตลอดเวลา คุณมีสิทธิ์ที่จะย้ายออกมาอยู่เองคนเดียวนะ แคลร์เองก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวมาตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นซึมเศร้าแล้ว จริงๆแคลร์มีป้ากับน้านะ แต่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่เคยเลี้ยงแคลร์ด้วย โดยเฉพาะน้านี่แหละ เหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆ ทารุณทั้งร่างกายและจิตใจแคลร์ตอนเด็กๆ จิตแพทย์สั่งมาว่าห้ามอยู่รวมกันกับป้าเด็ดขาด เพราะเขาเป็น bipolar ขั้นรุนแรง และไม่ยอมรักษาต่อ ก็ให้เขาไปอยู่กับน้า แคลร์มาเช่าห้องอยู่คนเดียว หางานทำ ค่อนข้างลำบากหน่อย แต่ก็ดีกว่าเสียสุขภาพจิตแย่ลง แคลร์เคยมีครอบครัวคือแม่บุญธรรมคนเดียว รักมากกว่าแม่แท้ๆ รักสุดหัวใจ แต่เขาตายไปแล้ว แคลร์เป็นคนที่สู้กับปัญหา มีพลังชีวิตบวกในการแก้ปัญหาตั้งแต่เด็กเพราะวิธีการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนใครของแม่บุญธรรม แต่ที่มาเป็นโรคซึมเศร้า โรคหลายบุคลิก โรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง และโรคอารมณ์ทางเพศสูงเกินปกติ เพราะสภาพแวดล้อม สถานการณ์อันตราย ถูกทารุณกรรมซ้ำๆโดยคนอื่น (โดยเฉพาะถูกล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายจิตใจบ่อยๆ) โชคไม่ดีเอามากๆ และเจอความสัมพันธ์แย่ๆกับเพื่อนและแฟน แม่บุญธรรมเองก็เป็นคนใจดีนะคะ แต่เวลาโกรธหรือโมโห ทำโทษแคลร์ทีนึงก็ถึงกับเลือดตกยางออกแต่ก็หายามาทาให้ และบอกเหตุผลก่อนทำโทษด้วยนะหรือไม่ก็ทีหลัง แคลร์เข้าใจแกค่ะ ^^ ส่วนมากเพราะเรื่องแย่ๆกระทบจิตใจสะสมนานปีมาตั้งแต่เด็กเข้าโดยไม่รู้ตัว ก็เลยกลายเป็นแบบนี้ค่ะ แต่แคลร์ก็พยายามแก้ไปทีละปัญหา อันไหนแก้ไม่ได้จริงๆก็ทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุด หาข้อดีของสิ่งที่มีอยู่แทนค่ะ พยายามไม่คิดลบ มีสติให้มากที่สุด
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ สู้ไปด้วยกันนะ 😊
ขอให้ทุกคนก้าวผ่านความเจ็บปวด ความทุกข์ใจทุกข์กายด้วยพลังใจที่เข้มแข็งนะคะ ✌
I got no money but I have positive energies for you all.FREE! Take as many as you need!!!
แคลร์ไม่มีเงินแต่แคลร์มีพลังใจด้านบวกให้ทุกคนค่ะ ฟรีนะตัวเอง เอาไปได้เท่าที่ต้องการเล้ย!!!
สุขสันต์วันเด็กนะคะ
แคลร์
1 บันทึก
4
2
2
1
4
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย