12 ม.ค. 2020 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
Bond Yied ทำจุดต่ำสุดใหม่ ลงทุนอะไรดี..??
ต้อนรับปีหนูทอง 2563 ด้วย Bond Yied ไทยทำสถิติต่ำสุดในประวัติศาสตร์
1
รูป : za.in.th
Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทย ประเดิมต้นปี 2563 ด้วยการปรับลดลงทุกช่วงอายุโดยเฉพาะรุ่นอายุ 2 ปี 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ที่ลดลงทำสถิติใหม่
ThaiBMA วันที่ 3 ม.ค.
Bond Yield คืออะไร..??
Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล คือผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลตามรุ่นอายุต่างๆ
ซึ่ง Bond Yield จะแปรผกผันกับราคาพันธบัตร กล่าวคือยิ่งราคาพันธบัตรสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการไล่ซื้อ (ฝั่ง Demand) ก็จะทำให้ Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง อารมณ์เหมือนเราซื้อพันธบัตรที่ให้ดอกเบี้ยตามหน้าตั๋วเท่าเดิม แต่เราซื้อในราคาที่แพงกว่าชาวบ้าน
ตรงกันข้ามถ้าราคาพันธบัตรลดลงจากการถูกขาย (ฝั่ง Supply) ก็จะทำให้ Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น
แล้วทำไม Bond Yield ไทยถึงทำ new low..??
2
ความจริงก็คือ มีแรงซื้อพันธบัตรเข้ามานั้นแหละ โดยแรงซื้อรอบนี้ต่างจากรอบก่อนๆ ที่เรามักได้ยินว่าเม็ดเงินต่างชาติ (Fund flow) ไหลเข้าซื้อพันธบัตรไทยทำให้เงินบาทแข็งค่า
ThaiBMA
แต่รอบนี้ค่าเงินบาทกลับไม่แข็งค่าขึ้นทั้งๆที่ Bond Yield ทำจุดต่ำสุดใหม่ เป็นเพราะว่าคนที่เป็นผู้ซื้อหลักกลับกลายเป็นกลุ่มบริษัทจัดการลงทุนภายในประเทศ (AMC) จึงทำให้ค่าเงินบาทไม่ได้ตอบสนองในเชิงแข็งค่าเหมือนกรณีที่ต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ไทยแบบมีนัยยะ
และถ้าเรานำ Bond Yield อายุ 2 ปี มาหาความสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงค์ชาติจะพบว่า
ลงทุนฉบับมืออาชีพ
ดอกเบี้ยนโยบายมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับ Bond Yield อายุ 2 ปีเสมอ ซึ่งการที่ผลตอบแทนปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ 1.08% ลงมารอล่วงหน้านั้น
ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ในการประชุมรอบถัดไป ( จากเดิม 1.25% เหลือ 1.00% )
ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITs ไทย จะมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะส่วนต่างระหว่างเงินปันผลกับผลตอบแทนพันธบัตรที่เรียกว่า (Yield Spread) จะมีค่ามากขึ้นจากมุมของผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดต่ำลงมานั้นเอง
ถ้าชอบ กด like & share  และอย่าลืม กดติดตาม เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ : )
โฆษณา