12 ม.ค. 2020 เวลา 09:56 • การศึกษา
Atlas Story : หนังสือแผนที่สีจางๆ
สุขสันต์วันเด็ก 2020 ย้อนหลังนะครับ
เผลอแป๊บเดียว เด็กน้อยในช่วงปี 2000s
ในวันนี้ก็คงเติบโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
โลกหมุนเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า
เวลาแค่ 20 ปี
จะทำให้อะไรหลายๆอย่างกลายเป็นของล้าสมัย
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงเป็น “หนังสือแผนที่”
หนังสือเล่มนี้ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2002 แต่ข้อมูลหนังสือส่วนใหญ่เป็นปี 2000
ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช โดยนำข้อมูลมาจากสำนักพิมพ์คิงฟิชเชอร์ของอังกฤษครับ
ในยุคที่การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตยังไม่สะดวก
ก็ได้หนังสือแผนที่นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในวิธีที่จะรู้จักกับประเทศต่างๆรอบโลกได้ดีที่สุด
หนังสือแผนที่สำหรับเยาวชน ที่มีทั้งแผนที่ ข้อมูล และรูปภาพประกอบสีสันสดใส
จึงกลายเป็นเหมือนโลกทั้งใบ
สำหรับคนที่อยากทำความรู้จักกับโลกกว้างใหญ่
โดยเฉพาะเด็กๆ
ในหนังสือจะแบ่งเรื่องราวออกเป็นประเทศ
หรือกลุ่มประเทศต่างๆ
โดยมีกลุ่มละ 2 หน้า
มีแผนที่ ข้อมูล และภาพประกอบสวยงาม เกือบทั้งหมดเป็นรูปวาดครับ
ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในยุคนั้นก็จะมีพื้นที่หน้ามากกว่าประเทศอื่นๆ
เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ(UK) เยอรมนี อิตาลี แคนาดา ญี่ปุ่น มีประเทศละ 2 หน้า
สหรัฐอเมริกา มหาอำนาจมีถึง 6 หน้า
ส่วนจีน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ มองโกเลีย ทั้งหมดรวมกันมีข้อมูลเพียง 2 หน้า
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกประเทศรวมกัน
ก็มีเพียงแค่ 2 หน้า
หนังสือเล่มนี้เปิดโลกให้เด็กๆด้วยข้อมูลที่น่าสนใจหลายๆอย่าง
ซึ่งในเวลานี้หากมองย้อนกลับไป ก็น่าสนใจไม่น้อย
ตัวอย่างเช่น
เมืองรอตเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองท่าทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น
ซึ่งตำแหน่งนี้ตกเป็นของนครเซี่ยงไฮ้มาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว
และในปัจจุบัน รอตเตอร์ดัมไม่ติดแม้แต่ Top 10 เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่กลับเป็นเมืองท่าในประเทศจีนที่คว้าตำแหน่งใน Top10 ไปถึง 7 อันดับ
แสดงถึงสถานะการเป็น “โรงงานของโลก” ในยุค 2020
ทั้งที่ข้อมูลในหนังสือบอกแค่เพียงว่า
ในช่วงเวลานั้น ประเทศจีนเพิ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจากภาคเกษตร
มาเน้นพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม
ท้ายเล่มยังมีข้อมูลสรุปของประเทศต่างๆ
คาดว่าน่าจะเป็นข้อมูลจากปี 1997
ที่น่าสนใจคือ สินค้าส่งออกของประเทศไทย ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และดีบุก
ทุกวันนี้ข้าวกับมันสำปะหลัง ยังคงเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของไทยครับ
แต่ในแง่มูลค่า ยังตามหลังสินค้าอุตสาหกรรมอยู่พอสมควร ทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์
และผลิตภัณฑ์จากปิโตรเคมี
ส่วนดีบุก แร่ธาตุที่ครั้งหนึ่ง
ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเคยส่งออกกันเป็นกอบเป็นกำ
ทุกวันนี้ในไทยแทบจะไม่เหลือเหมืองดีบุกแล้ว
ตำแหน่งผู้ส่งออกดีบุกจึงตกไปอยู่ที่พม่า ออสเตรเลีย และประเทศในโซนแอฟริกาแทน
ส่วนจังหวัดที่เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองดีบุก เช่น ภูเก็ต และพังงา
โดยเฉพาะจังหวัดพังงา ที่มีอำเภอชื่อ “ท้ายเหมือง” เป็นหลักฐานชั้นดี
ว่าครั้งหนึ่งผู้คนในจังหวัดนี้เคยประกอบอาชีพอะไร
ทุกวันนี้ กลับเป็นการท่องเที่ยวและภาคบริการอื่นๆ
ที่สร้างงานและรายได้ให้ทั้ง 2 จังหวัดนี้เป็นกอบเป็นกำ
จนผู้คนเลิกทำเหมือง หันไปทำอาชีพบริการ
เช่น โรงแรม หรือร้านอาหารกันหมดแล้ว
..
เวลาเพียงแค่ 20 ปี ข้อมูลในหนังสือเปลี่ยนไปมาก
เช่นเดียวกับบทบาทของตัวหนังสือเอง
จากหนังสือแผนที่
ที่เคยเปิดโลกกว้างให้กับเด็กๆในช่วงเวลาหนึ่ง
กลับกลายมาเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของช่วงเวลานั้นแทน
แต่สำหรับผู้ใหญ่
ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กน้อย
ที่หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน
หนังสือเล่มนี้ คือ พื้นที่วิเศษ
ที่ทำให้ความสดใสในวัยเด็กย้อนกลับมา
ผมคงถ่ายเนื้อหาให้ดูไม่ได้ เพราะน่าจะผิดเรื่องลิขสิทธิ์
แต่อยากบอกว่า
ภาพประกอบข้างในสวยมากจริงๆครับ 😁
โฆษณา