12 ม.ค. 2020 เวลา 14:13 • ประวัติศาสตร์
มนุษย์กระต่าย The Bunny Man..
1
ตำนาน มนุษย์กระต่าย The Bunny Man หรือ อีกชื่อคือ The Bunny Man Bridge สะพานมนุษย์กระต่าย..
The Bunny Man เป็นตำนานประจำเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์สองเหตุการณ์ในเคาร์ตี้แฟร์เวอร์จิเนียในปี 1970 แต่ได้รับการแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของกรุงวอชิงตันดีซี และมีเรื่องเล่าในหลายรูปแบบ
แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสวมชุดกระต่ายและเขาได้ทำการโจมตีเหยื่อด้วยขวานอันคมกริบ!!
ซึ่งหลายเหตูการณ์ได้เกิดขึ้นบริเวณสะพานลอยในโคลเชสเตอร์หรือสะพานลอยทางรถไฟสายใต้ที่ทอดผ่านถนนโคลเฃสเตอร์ใกล้กับคลิฟตัน
โดยที่สุดแล้วปัจจุบันสะพานลอยแห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น “สะพานมนุษย์กระต่าย (The bunny man bridge)” ไปแทนเป็นที่เรียบร้อย นั้นเอง
ในปี 1904 ที่เมืองแฟร์แฟค เคาท์ตี้, คลิฟตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ ยังเป็นถิ่นทุรกันดารมีโรงพยาบาลจิตเวชที่ควบคุมนักโทษโรคจิตไว้มากมาย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการย้ายโรงพยาบาลจิตเวชไปยังเรือนจำลอร์ตัน
แต่ในขณะที่ขนย้ายนักโทษโรคจิตกลับมีรถขนย้ายนักโทษคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ และมีนักโทษโรคจิต 2 คนสามารถหลบหนีไปได้และยังไม่สามารถตามจับตัวได้คือ มาร์คัส วอลสเตอร์ และ ดักลาส กริฟฟอน
ต่อมาก็มีคนพบซากกระต่ายถูกถลกหนังออกถูกแขวนห้อยลงมาจากต้นไม้มากมาย และบางตัวก็มีรอยถูกกินอีกด้วย หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็พบศพของ มาร์คัส วอลสเตอร์ หนึ่งในนักโทษโรคจิตที่หลบหนีถูกแขวนอยู่ใต้สะพานรางรถไฟในโคสเชสเตอร์
พร้อมทั้งบนตัวมีข้อความเขียนว่า "คุณไม่มีทางหาฉันพบ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม" ดังนั้นทางตำรวจจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของ ดักลาส กริฟฟอน
และต่อมาในปี 1905 ก็มีวัยรุ่น 3 คนไปลองของ แต่กลับต้องกลายเป็นศพไป โดยสภาพศพของพวกเขามีรอยเฉือนยาวมาจนหน้าท้อง คล้ายกับลักษณะการตายของกระต่ายที่ถูกฆ่าในบริเวณนั้น
ในปี 1906 กลับมีวัยรุ่น 7 คนไปจัดปาร์ตี้อยู่ใต้สะพาน และหนึ่งในนั้นคือ "เอเดรียน ฮาตาลา" หญิงสาวที่กลัวฝังใจกับสะพานแห่งนี้ และเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถรอดมาได้ในคืนนั้น โดยเธอเปิดเผยว่าเห็นเงาสลัวๆ เดินเข้ามาใต้สะพาน ตามด้วยเสียงกรีดร้อง
จากนั้นเธอก็พบว่าเพื่อนของเธอทั้งหมดถูถแขวนอยู่ใต้สะพาน แต่หลายคนไม่เชื่อเธอทำให้เธอถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมและนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวช
และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนเย็นของวันที่ 19 ตุลาคม 1970 เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับนายร้อยบ็อบ เบนเนตต์ ซึ่งเป็นนักเรียนของกองทัพอากาศสหรัฐและคู่หมั้นของเขา นั้นเอง
ประมาณเที่ยงคืนขณะที่พวกเขากลับมาจากเกมฟุตบอลบนถนนนิวกินีในเบิร์ค ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ในที่นั่งด้านหน้าในรถของพวกเขาที่กำลังวิ่งอยู่พวกเขาสังเกตุเห็นบางสิ่งบางอย่างข้างนอกหน้าต่างด้านหลังสีขาวๆ และครู่ต่อมาหน้าต่างด้านหน้าก็ถูกทุบและปรากฎชายในชุดขาวยืนอยู่ตรงหน้าต่างทีแตกละเอียด!!
เบนเนตต์รีบหักพวงมาลัยเพื่อหลบออกไปจนกรทั่งเหตุการณ์สงบลง พวกเขาก็พบขวานตกอยู่พื้น เมื่อตำรวจถามหาคำอธิบายของคนร้าย ..
เบนเนตต์ยืนยันว่าเขาได้รับการโจมตีจากคนที่ใส่ชุดสูทสีขาวที่มีหูกระต่ายยาว พวกเขาทั้งสองจำได้และเห็นใบหน้าคนร้ายแต่ด้วยความมืดทำให้พวกเขาจำหน้าตาคนๆนั้นไม่ได้
จากนั้นตำรวจก็พบขวานหลังจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เบนเนตต์รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลับไปยังวิทยาลัยกองทัพอากาศในทันทีหลังจากนั้น
รายงานการพบเห็นอีกครั้งเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 29 ตุลาคม 1970 เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการก่อสร้าง พอล ฟิลลิป เดินไปยังด้านตะวันตกของถนนนิวกินี
ฟิลลิปกล่าวว่าเขาพบคนที่สวมใส่ในชุดสีเทา, สีดำและสีขาว แล้วแต่ ที่มาของเรื่องเล่าแต่ เป็นชุดกระต่ายและอายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 5 ฟุต 8 นิ้ว (1.73 เมตร) เขาได้ถือขวานที่มีด้ามยาว และตะโกนว่า
“ทุกคนที่บุกรุกที่นี่ หากยังไม่ออกไปจากที่นี่ ข้าจะเอาขวานจามหน้าอกและหัวของพวกจ้าวซะให้เละหมดทุกคน!!!”
แล้วใครจะอยู่ล่ะพวกก็วิ่งหนีป่าราบล่ะสิ...
ต่อมาตำรวจชองเคาร์ตี้แฟร์ที่มาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ ทั้งสองคดีจึงถูกปิดในที่สุดเพราะขาดหลักฐาน
แต่ในหลายสัปดาห์ต่อมาก็ได้เกิดอุบัติเหตุมากกว่า 50 รายและทุกๆรายก็ติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยอ้างว่าได้เห็น “มนุษย์กระต่าย” กันแทบทุกคน
หลังจากนั้นเป็นต้นมาตำนานของมนุษย์กระต่ายก็ถูกเล่าในรูปแบบต่างๆ กันออกไป รวมทั้งการอ้างถึงนักโทษคดีร้ายแรงที่ได้หลบหนีออกจากคุกและได้ไปแฝงตัวอยู่ที่นั่น
และในทุกๆวันฮันโลวีนมักจะมีผู้คนที่ชื่นชอบในเรื่องลี้ลับและท้าทายไปลองของกันที่สะพานแห่งนี้กันเสมอ โดยในปัจจุบันนี้ความลึกลับของมนุษย์กระต่ายก็ยังไม่ได้รับการคลี่คลายลงแต่อย่างใด ...
ที่มา : Facebook Fan Page / โรคจิต แบบมีรสนิยม
โฆษณา