MovieTalk มูฟวี่ตะลอน on the Way:
เดินทางผ่านภาพถ่าย ไหว้พระปีใหม่ไปด้วยกัน ตอนที่ ๑
มูฟวี่ตะลอน on the Way ในโพสต์นี้ เป็นการพาทุกท่านไปตะลอนไหว้พระรับปีใหม่ โดยเราจะเดินทางไหว้พระร่วมกันในรูปแบบให้ภาพถ่ายนำทาง ถือเป็นการทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ของเพจ MovieTalk ครับ ชอบหรือไม่ ติชมกันมาได้
สำหรับวัดที่เราจะตะลอนไห้วเพื่อถือเป็นฤกษ์ชัยให้แก่ชีวิตในปีใหม่ ๒๕๖๓
มีจำนวน ๑๙ วัด ผมใช้เวลาภายใน ๑ วัน ไหว้จนครบ
ถือว่าผมและผู้อ่านทุกท่านได้ทำบุญไหว้พระไปร่วมกัน
ทั้งนี้ภาพถ่ายองค์พระประทาน และพระสำคัญ ๆ ในแต่ละวัดนั้น ผมไม่ได้แปะลายน้ำให้รกตา ทุกท่านสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ได้สักการะได้นะครับ
เป็นประจำอยู่แล้วทุกช่วงขึ้นปีใหม่ ที่ผมจะต้องเดินทางตะลอนไหว้พระ โดยในปีนี้ ๒๕๖๓ ได้เพิ่มจำนวนวัดทั้งหมด ๑๙ วัด
หลักสำคัญของผมในการไหว้พระคือ ต้องกราบสักการะพระประทานที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของทุกวัดครับ (ยกเว้นไปแล้วทางวัดไม่เปิดพระอุโบสถ)
ส่วนวัดไหนที่มีพระดังองค์อื่นก็กราบสักการะเพิ่มได้ตามสะดวกแก่เวลา
ผมได้วางแผนการเดินทางคร่าว ๆ ไว้ก่อน เพื่อบริหารเวลาให้ได้ตามที่ตั้งปณิธานไว้ แล้วค่อยไปปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ถ้าพร้อมแล้วเราออกเดินทางกันเลย
วัดที่ ๑ ศาลหลักเมือง เวลา ๗.๑๐ น.
เพื่อเสริมหลักความมั่นคงให้แก่ชีวิต เหมือนตัดเคราะห์ต่อดวงชะตา มีหลักชัยนำชีวิต สำหรับท่านที่เดินทางมา ทางศาลหลักเมืองได้เตรียมชุดสักการะไว้ให้บริการ ซึ่งมีขั้นตอนการสักการะดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ ๑ หอพระพุทธรูป
กราบสักการะพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ โดยถวายดอกบัว 1 ดอกเท่านั้น แล้วทำบุญพระพระจำวัดเกิด เกิดวันไหนท่านก็ทำตามกำลังวันของท่าน ส่วนธูปเทียนที่ให้มาเอาไว้ในถาดก่อน
ขั้นตอนที่ ๒ สักการะองค์พระหลักเมืองจำลอง
ธูปเทียนจะมาใช้กราบ ณ จุดนี้ แล้วสามสีไปผูกรอบองค์พระหลักเมืองจำลอง โดยผูกพร้อมกันทั้งสามผืน
ขั้นตอนที่ ๓ สักการะองค์พระหลักเมือง
เข้าไปกราบสักการะองค์พระหลักเมืองที่อยู่ภายในโบสถ์ โดยนำพวงมาลัยเท่านั้นที่เข้าไปถวายเบื้องหน้า
ขั้นตอนที่ ๔ กราบสักการะศาลเทพารักษ์
กราบไหว้องค์เทพารักษ์ทั้ง ๕ โดยถวายพวงมาลัย ๕ พวง ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง, เจ้าพ่อเจตคุปต์, พระทรงเมือง, เจ้าพ่อหอกลอง และ พระกาฬไชยศรี
ขั้นตอนสุดท้าย เติมน้ำมันตะเกียง
นำน้ำมันตะเกียงมาเติมใส่ในพระประจำวันเกิดของเรา เกิดวันไหนให้เทวันนั้น ครึ่งขวด เหลืออีกครึ่งขวดเทลงในอ่างสะเดาะเคราะห์
วัดที่ ๒ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลา ๗.๓๕ น.
วัดคู่บ้านคู่เมืองที่เรารู้จักกันในนาม ‘วัดพระแก้ว’ กราบสักการะเพื่อให้มีจิตใจบริสุทธิ์ดุจแก้วสามประการ และให้มีแก้วแหวนเงินทองตลอดปี ทั้งนี้ทางวัดไม่อนุญาตให้บันทึกภาพทุกรูปแบบภายในพระอุโบสถนะครับ ผมนำภาพมาให้เป็นการถ่ายจากระยะไกลด้านนอก
ระหว่างทางเดินผ่าน เราจะได้มีโอกาสสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๔
พระที่นั่งสีหบัญชรที่ในหลวงทรงเสด็จออกมหาสมาคม
หอกลอง
วัดที่ ๓ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เวลา ๘.๐๐ น.
เดินเท้าเลียบถนนมาถึง ‘วัดโพธิ์’ ซึ่งเราจะไปสักการะเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข เมื่อมาถึงเราต้องกราบสักการะองค์พระประทานของวัด คือพระพุทธเทวปฏิมากร
พระพุทธเทวปฏิมากร
แต่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าพระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน คือพระประทาน ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่ผมเดินทางไปถึง ทางวัดยังไม่เปิดพระอุโบสถพระนอน รูปที่นำมาลงจึงเป็นขอปีก่อนครับ
พระพุทธไสยาสน์
ฤษีดัดตน
เดินออกมาด้านหลังของวัด เราจะลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนครับ ค่าเรือ ๔.-
วัดที่ ๔ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร เวลา ๘.๒๐ น.
รู้จักกันในนาม ‘วัดอรุณ’ หรือ ‘วัดแจ้ง’ การสักการะเพื่อความรุ่งโรจน์ของชีวิต ดุจดั่งรุ่งอรุณ สำหรับวัดอรุณจะเป็นวัดที่ผมต้องมาขอสายสิญจน์ผูกข้อมือเป็นประจำทุกปี มาถึงปีนี้เป็นเส้นที่ ๕ ครับ ยังไม่มีเส้นใดขาด
พระพุทธธรรมมิศราช โลกธาตุดิลก
พระประทานของวัดอยู่ที่พระอุโบสถด้านใน พระประทานคือ พระพุทธธรรมมิศราช โลกธาตุดิลก
หลวงพ่อรุ่งมงคล
พระบรมสารีริกธาตุ
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
นอกจากนี้ ที่ต้องสักการะพระบรมสารีริกธาตุ, หลวงพ่อรุ่งมงคลที่อยู่ด้านใน, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และที่พระวิหาร สักการะ พระอรุณหรือพระแจ้ง และ พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
พระแท่นในหลวงรัชกาลที่ ๒
ด้านหน้าของวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๒
แวะพักทานข้าวเช้าที่ร้าน ‘หมูทอดวัดอรุณ’ เดินออกมาด้านหลังวัด ผมสั่งข้าวกระเพราหมูทอด + ไข่ดาว กับโค้ก 1 ขวด ราคาเบา ๆ ๕๐.- ร้านนี้จะมีน้ำซุปผักกาดดองให้ซดแก้เลี่ยนด้วยครับ เติมพลังก่อนครับ เดี๋ยวไปต่อ
ผมเดินกลับเข้ามาในวัดอรุณไปตรงท่าน้ำ ที่นี่จะมีท่าเรือวิ่ง ๓ วัด ให้บริการตลอดวัน ซื้อตั๋วครั้งเดียว ๓๐.- จะลงกี่เที่ยวก็ได้
เพราะวัดต่อไปเราจะต้องนั่งเรือเพื่อความสะดวกครับ ลงเรือที่ท่าวัดอรุณ
เรือจะวิ่งเลยไปวัดกัลยาณมิตร ซึ่งจะเป็นจุดต่อไป
วัดที่ ๕ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เวลา ๙.๒๐ น.
ที่นี่เราจะกราบสักการะเพื่อเดินทางปลอดภัย มีมิตรสหายที่ดี ดังคำที่ว่า ‘กัลยาณมิตร’
พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต
พระประทานคือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต แต่ชาวบ้านจะเรียกกันในชื่อ หลวงพ่อซำปอกง
ที่นี่มาแล้วจุดเทียนใหญ่สองเล่ม ปักไว้ที่กระถาง ธูปที่เหลือปักกระถางเทพเจ้ากะถางละ ๓ ดอก
มาแล้วอย่าลืมตีระฆังยักษ์ที่นี่ เพื่อเสริมสิริมงคล แต่ไม่ต้องตีแรงนะครับ
ขากลับแวะซื้อขนมฝั่งกุฎีจีนได้ ห่อละ ๓๕.- สามห่อ ๑๐๐.-
เดี๋ยวลงเรือจะมาพาเราไปไหว้พระวัดถัดไป
ระหว่างนั่งในเรือ เราจะได้ชมทัศนียภาพสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
วัดที่ ๖ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เวลา ๑๐.๐๐ น.
มาถึงวัดระฆัง ด้านหน้าจะมีพระรูปของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เดินเข้ามาด้านซ้ายจะมีลานระฆัง
ผ่านซุ้มประตูพรหมรังสี เราสักการะที่นี่เพื่อเสริมเรื่องชื่อเสียง ให้โด่งดัง มีคนนิยมชมชอบ ดุจตีระฆังดังก้อง
หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า
พระประทานคือ หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า มาวัดนี้ก็ต้องสวดชินบัญชร ๑ จบ และตีระฆังครับ
กลับมารอเรืออีกครั้ง คราวนี้ผมจะนั่งยาวไปขึ้นที่ท่าวัดกัลยาณมิตรอีกรอบหนึ่ง
แล้วเดินเท้าต่อไปตามทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่นี่มีสถานที่สำคัญ ย่านเก่า ถิ่นเดิม รู้จักกันในนาม ‘ชุมชนกุฎจีน’ เป็นย่านเก่าแก่ที่ผสมผสานทั้งความเป็นจีน และฝรั่งโปรตุเกส มีสถานที่สำคัญได้แก่ ศาลเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งภายในห้ามถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่ดุมาก
หลังจากนั้นเราจะผ่านวัดซางตาครู้ส เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ ‘ซางตาครู้ส’ แปลว่า ‘กางเขนศักดิ์สิทธิ์’ โบสถ์จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสิกและเรเนอซองซ์ ภายในโบสถ์มีความสวยงามครับ มาแล้วอย่าลืมแวะเข้ามาชม โบสถ์ซางตาครู้สถ้าใครจำได้ เป้ยเป้ยเคยถ่ายรูปและแนะนำมาแล้วรอบหนึ่ง
เรากลับออกมาเดินตามทางเลียบแม่น้ำ ไปเกือบสุดเลี้ยวซ้ายวัดถัดไปคือจุดหมายครับ
วัดที่ ๗ วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร เวลา ๑๐.๕๐ น.
เป็นพระอารามหลวงชั้นโท อยู่เชิงสะพานพุทธฝั่งธนบุรี พระประทานในอุโบสถคือ พระพุทธรรมวิเชฎฐศาสดา แต่ทางวัดไม่เปิดให้เข้ากราบสักการะครับ ผมจึงกราบสักการะพระพุทธนาคศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพระวิหารแทน
ส่วนรูปพระพุทธรรมวิเชฎฐศาสดาที่นำมาลงประกอบ มาจากเมื่อครั้งไหว้วันสงกรานต์ครับ
พระพุทธนาคศักดิ์สิทธิ์
เขามอ
ที่วัดนี้จะมีพระบรมธาตุมหาเจดีย์ และเขามอ เป็นพระมณฑปทรงโกธิค สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อแขก แวะดูเต่าที่นี่ครับ คนจะนำเต่ามาปล่อยกันที่นี่ ช่วงนี้ถึงคืนวันที่ ๑๓ ทางวัดจัดงาสมโภชพระอาราม ๑๙๒ ปี แวะมาได้ครับ ที่วัดนี้ผมค้นหาข้อมูลไม่พบว่าสักการะเพื่อเสริมมงคลด้านใด แต่การมากราบพระบรมธาตุก็นับเป็นมงคลชีวิตอยู่แล้ว
นอกจากนี้ สำหรับท่านที่เกิดในธาตุน้ำ การไหว้พระวัดที่อยู่ติดแม่น้ำคือหนึ่งในมงคลแก่ตัวท่านครับ ผมเกิดธาตุน้ำจึงเลือกสักการะวัดนี้ด้วย
ผ่านไปแล้ว ๗ วัด เราจะเดินข้ามสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สะพานประวัติศาสตร์ สร้างสำเร็จเมื่อ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๕ ด้านหน้าของสะพานเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมราชนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ ๑
เพื่อไม่ให้บทความยาวจนเกินไป ในตอนที่ ๒ ผมจะพาทุกท่านไปไหว้พระฝั่งพระนครครับ ขอได้โปรดติดตามครับ
เรื่อง และ ภาพ: มูฟวี่
ขอบคุณที่มาข้อมูล: Wikipedia, ททท.
Camera: Samsung, Sony Smartphone
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
