Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
T
The life of monk
•
ติดตาม
14 ม.ค. 2020 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตพระ
ตอนที่ ๔๖ พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระปัจเจกพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เอง แต่ไม่สั่งสอนใคร เกิดได้ครั้งละหลายๆ พระองค์ ที่มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎกมากที่สุดคือ ๑,๐๐๐ องค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เองด้วย สั่งสอนผู้อื่นได้ด้วย เกิดขึ้นได้ครั้งละ ๑ พระองค์เท่านั้น และกัปหนึ่งๆ จะมีได้ไม่เกิน ๕ พระองค์ อย่างกัปของเราเกิดขึ้นมาแล้ว ๔ พระองค์ คือ พระกกุสันธะ , พระโกนาคมนะ , พระกัสสปะ และองค์ปัจจุบันคือ พระสมณโคดม องค์ต่อไปที่เกิดขึ้นในอนาคตคือพระศรีอริยเมตไตย
กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ก็ต้องสร้างบารมีกันอย่างน้อย ๒๐ อสงไขยกัป กับอีกเศษ แสนกัป
ถ้าจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ต้องสร้างบารมีกันอย่างน้อย ๒ อสงไขยกัป กับอีกเศษ แสนกัป
ตอนนี้ เริ่มมีคำศัพท์ ใหม่ๆ เช่น กัป , อสงไขย มันคืออะไร ก็ขออธิบายไว้ในตอนนี้เลยนะ (ส่วนคำว่า บารมี คืออะไร จะขอหาโอกาสอธิบายให้ฟังในภายหลัง เพราะไม่อย่างนั้นบทความนี้จะยาวเกินไป)
กัป คือ อะไร เอาแบบที่เข้าใจง่ายที่สุด คือ หน่วยเวลา ระยะที่โลก (ความจริงคือเกือบทั้งจักรวาล) เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ถูกไฟบรรลัยกัลป์ เผาผลาญไปจนกลายเป็นหมอกเพลิง แล้วก็เย็นตัวรวมกันกลับมาเป็นโลกอีกครั้ง ระยะเวลานี้เรียกว่า ๑ กัป ยาวนานมาก ไม่สามารถวัดเป็น วัน เดือน ปี ศตวรรษ หรือ สหัสสวรรษ ได้
ได้แต่อุปมาว่า มีภูเขาแท่งทึบรูปทรงเป็นลูกเต๋า กว้าง ๑๖ กิโลเมตร ยาว ๑๖ กิโลเมตร สูง ๑๖ กิโลเมตร ทุกๆ ๑๐๐ ปี จะมีเทวดาที่เอาผ้าบางๆ ยิ่งกว่าควันไฟ มาลูบเบาๆ ๑ ครั้ง
ทุก ๑๐๐ ปี ก็เอาผ้านี้ลูบ ๑ ครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนภูเขาลูกนี้ สึกราบเรียบเสมอพื้นดิน นั่นแหละคือระยะเวลา ๑ กัป
1
ส่วนอสงไขย คือ จำนวน ที่เขียนด้วย ๑ แล้วตามด้วย ๐ อีก ๑๔๐ ตัว หรือ ๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐
1
การสร้างบารมีหรือสร้างความดีกว่าจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย ๒๐ อสงไขยกัป กับ อีกเศษแสนกัป
ก็ให้นึกภาพภูเขาลูกที่ว่ามาจำนวน ๒๐ คูณด้วย ๑๐ ยกกำลัง ๑๔๐ ลูก แล้วบวกอีก ๑ แสนลูก ก็แล้วกัน
ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเกิด-ตาย-เกิด-ตาย อีกกี่ชาติ ครูบาอาจารย์ท่านใช้คำว่า “นับภพนับชาติไม่ถ้วน”
1
ส่วนการสร้างบารมีเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า น้อยกว่า คือ ๒ อสงไขยกัป กับอีก เศษแสนกัป
หากจะสร้างบารมีปรารถนาจะเป็นพระอัครสาวก เช่น พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ก็น้อยกว่า คือ แค่ ๑ อสงไขยกัป กับอีกเศษแสนกัป
หากจะสร้างบารมีเป็นพระอรหันต์ ผู้เป็นเลิศทางด้านต่างๆ เช่นพระอานนท์ (อ่านรายละเอียดได้ในตอนที่ ๓๒) จะต้องสร้างบารมีอย่างน้อย ๑ แสนกัป
เพราะเหตุนี้แหละในตอนที่แล้ว (ตอนที่ ๔๕) จึงได้บอกว่า พระเทวทัตนั้น มีบารมีมากกว่าพระอัครสาวกทั้งสองเสียอีก เพราะสร้างบารมีมาแล้ว ๒ อสงไขยกัป เหลืออีกแค่ แสน กัป เท่านั้น
เรื่องของการกำเนิดและดับของจักรวาลในทางพระพุทธศาสนา จะยาวนานกว่าของวิทยาศาสตร์ หากจะอธิบายเรื่องนี้กันจริงๆ จังๆ คงใช้เวลาอีกไม่น้อย
ความจริงคิดจะผ่านเรื่องนี้ไปก่อน แต่กลับมาคิดอีกที อธิบายสักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านเจอบทความแบบนี้แล้วจะคิดว่า เป็นเรื่องงมงาย แล้วก็เลิกอ่านบทความของผู้เขียนไปเลย ตอนต่อไป (ตอนที่ ๔๗) จะเขียนเรื่องนิยาม ๕ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นว่า วิทยาศาสตร์ ยังตามหลัง พุทธศาสตร์อีกเยอะ … จบตอนที่ ๔๗
7 บันทึก
46
16
21
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชีวิตพระ ภาค ๑ ตอนที่ ๑ - ๕๐
7
46
16
21
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย