17 ม.ค. 2020 เวลา 05:12 • ธุรกิจ
Pinduoduo : จะเกิดอะไรถ้าเอา Disneyland มารวมกับ Makro ครับ ???
ถ้าเอา 2 อย่างที่ไม่น่าเข้ากันได้ มารวมกัน จะเกิดอะไรขึ้นครับ ???
ตอนนี้ E-commerce หรือ Shopping Online กำลังโตมากทั่วโลก
และประเทศนึงที่โตมากๆก็คือประเทศจีน
แต่เรารู้กันไหมว่า E-commerce ในประเทศจีนมีอะไรกันบ้างครับ ???
Tmall
Taobao
AliExpress
บางคนอาจจะตอบ Shopee ด้วยเพราะเป็นของ Tencent
อย่าถามว่า E-commerce ในจีนมีกี่เจ้า ถามว่าเรารู้จักกี่เจ้าดีกว่า = ="
ซึ่งนั่นก็ถูกต้องทั้งหมดครับ
แต่รู้ไหมว่าคำตอบในนี้ไม่มีชื่อของ E-commerce อันดับ 2 ของประเทศจีนเลย
อันดับ 1 คือ Taobao ของ Alibaba
แล้วอันดับที่ 2 ล่ะคือใคร ???
บางคนอาจจะคิดว่าก็ JD.com ยังไงล่ะ
แต่คำตอบคือไม่ใช่ครับ
JD.com เป็นอันดับที่ 2 นั้นเป็นอดีตไปแล้ว
อันดับที่ 2 ก็คือ Pinduoduo(PDD) หรือพินตั๋วตั๋วนั่นเอง
(ถ้าผมออกเสียงผิดต้องขออภัยด้วย)
ซึ่งทั้ง active buyer และ GMV(Gross Merchandise Volume) หรือมูลค่าสินค้าที่ขายได้
เกิน JD.com ไปเรียบร้อยแล้ว
logo ของ Pinduoduo E-commerce no.2 ของจีน
GMV ของ Pinduoduo อยู่ที่ 840,000 ล้านหยวน(เกือบๆ 4 ล้านล้านบาท)ใน 4 ไตรมาสย้อนหลัง
ในขณะที่ JD.com ไม่ได้ประกาศตัวเลข GMV รายไตรมาส
แต่ปิดปี 2018 GMV ของ JD.com อยู่ที่ 514,000 ล้านหยวน
ซึ่งด้วยการเติบโตที่มหาศาลของ Pinduoduo
ทำให้คาดการณ์ว่า GMV ของ Pinduoduo น่าจะแซง JD.com ขึ้นเป็นที่ 2 ไปแล้ว
Pinduoduo มี active buyer 483 ล้านคน
ในขณะที่ JD.com มี active buyer 321 ล้านคน
(ข้อมูลในเดือนมิถุนายน 2019)
เรียกว่า Pinduoduo ขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของจีนอย่างสมบูรณ์แบบ
แล้ว Pinduoduo คือใครกัน ???
ทำไมถึงมาเบียดแย่งที่ 2 จากสงครามของยักษ์ใหญ่ E-commerce เหล่านี้ได้
และธุรกิจของ Pinduoduo มีความสนใจมากน้อยแค่ไหน
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
ผู้ก่อตั้ง Pinduoduo คือ Colin Huang หรือหวงเจิง
หวงเจิงเกิดที่เมืองหางโจว
(เมืองเดียวกับบ้านเกิดของ Jack Ma)
หวงเจิงเคยทำงานกับ Google มาก่อนและลาออกออกมาทำ Startup ของตัวเอง
หวงเจิง เศรษฐีหน้าใหม่อีกคนที่มาสะเทือนบัลลังก์ E-commerce
Pinduoduo เพิ่งก่อตั้งในปี 2015 นี้เอง
ใช้เวลาเพียง 2 ปีกว่าๆในการเข้าตลาดหุ้น NASDAQ ด้วยมูลค่าถึง 20,000 ล้านเหรียญ
(ก็คือเป็นโคตร Unicorn ตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดแล้ว)
และใช้เวลาเพียง 4 ปีเท่านั้นในการก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาด E-commerce ของจีน
(เพราะ Pinduoduo ขึ้นเป็นที่ 2 ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว)
ท่ามกลางสงครามการค้าที่ดุเดือดในกลุ่ม E-commerce
หวงเจิงก็คิดว่าเราจะขายของ E-commerce อย่างไรให้แตกต่างดี
คำตอบเลยออกมาเป็น
"ขายของถูกมาก ให้คนจนมาก"
เวลาเพียง 2 ปีกว่าๆ ก็เข้าตลาดหุ้นได้แล้ว ระ เร็ว !!!
Alibaba หรือ JD.com เลือกที่จะขายของให้คนชั้นกลางหรือบน
พวกเขาก็เปรียบเสมือนห้างสะดวกซื้อหรือ 7-11
Pinduoduo เลยเลือกจับตลาดคนชั้นล่าง(คนจนมาก)
ซึ่งมีสัดส่วนถึง 65% ของประเทศจีน !!!
ในขณะที่ตลาดที่ Alibaba แข่งกับ JD.com นั้นมีสัดส่วนเพียง 35% เท่านั้น
แต่นอกจากไอเดียขายของให้ถูกแล้ว
อีกกลยุทธ์นึงของ Pinduoduo ก็คือขายของให้สนุกด้วย
หวงเจิงบอกว่า Pinduoduo ของเค้านั้นเปรียบเสมือน Costco + Disney
(Costco คือร้านในสะดวกซื้อในอเมริกาที่ขายของถูกมาก ก็คือเหมือน Makro บ้านเรานั่นเอง)
Costco หรือ Makro บ้านเราครับ
ทีนี้ถามว่าขายของให้ถูกและสนุกทำอย่างไร
หวงเจิงบอกแบบนี้ครับ
1. Group Buy
จะซื้อของให้ถูกก็ต้องขายแบบ Group Buy หรือขายส่งครับ
ก็คือซื้อเป็น pack ถูกกว่านั่นเอง
โดยกลยุทธ์ของ Pinduoduo คือถ้าชวนเพื่อนมาซื้อของรวมกันได้
ก็จะได้ของในราคาที่ถูกลง
อย่างในรูปคือถ้าซื้อคนเดียวจะได้ราคา 89 หยวน
ในขณะที่ถ้าซื้อแบบ Group Buy จะได้ราคา 68 หยวน
ประหยัดไปถึง 24% เลยทีเดียว
ซื้อเป็น Group ถูกกว่า !!!
ซึ่งราคาเฉลี่ยของสินค้าของ Pinduoduo อยู่ที่ราวๆ 30-50 หยวน
ในขณะที่ราคาสินค้าเฉลี่ยของ Alibaba อยู่ที่ 214 หยวน
ส่วน JD.com อยู่ที่ 417 หยวน
2. เป็น Social E-commerce อย่างแท้จริง
Pinduoduo ถูก back up โดย tencent
(บริษัทใหญ่ๆในจีนถ้าไม่ back up โดย tencent ก็มักจะต้อง back up โดย Alibaba)
ทำให้ Pinduoduo สามารถใช้งานร่วมกับ wechat หรือ QQ ได้
เมื่อ Pinduoduo ไปอยู่ใน platform ที่ใหญ่
ก็ทำให้เกิดเป็น social E-commerce ที่ทรงประสิทธิภาพได้
3. ความสนุก
อย่างที่หวงเจิงบอกว่า Pinduoduo คือ Costco กับ Disneyland รวมกัน
ดังนั้นความสนุกจึงเป็นลักษณะอีกอย่างนึงที่ Alibaba และ JD.com ไม่ได้ใส่เข้ามาด้วย
Pinduoduo ใส่เกมเข้ามา
เพื่อให้ผู้เล่นเล่นเพื่อเอาคูปอง, free gift หรือสุ่มกาชา(เกลือกันมั่งไหมหว่า)
ในรูปคือเกมที่เล่นกับ Durex
เล่นเกมก็เป็นอีกกลยุทธ์นึงที่ทำให้ Pinduoduo ดูสนุกและแตกต่าง
ทีนี้เราลองมาดูงบ Pinduoduo กันบ้าง
งบปี 2016
มีรายได้เพียง 504 ล้านหยวน
ขาดทุนไป 297 ล้านหยวน
งบปี 2017
มีรายได้ 1,744 ล้านหยวน
ขาดทุนไป 525 ล้านหยวน
แต่งบปี 2018
มีรายได้ถึง 13,119 ล้านหยวน(รายได้โตจากปีที่แล้วถึง 7.5 เท่า !!!)
แต่ก็ขาดทุนไปถึง 10,297 ล้านหยวน
งบ 9 เดือนปี 2019
มีรายได้ 19,349 ล้านหยวน
ขาดทุนไป 5,215 ล้านหยวน
(เหมือนจะเริ่มดีขึ้น)
โตทุกทาง บางทางโตกัน 3 digit
แม้ว่า Pinduoduo มีรายได้เติบโตสูงมหาศาล
แต่ก็ยังขาดทุนมหาศาลตามฉบับ Startup เช่นกัน
ถึงอย่างนั้นราคาหุ้นก็พุ่งจากตอน IPO ที่ 19 USD
มาอยู่ที่ 39 USD
หรือเพิ่มมาเท่านึงในเวลา 2 ปีกว่าๆ
ตอนหลังๆไม่ค่อยขึ้น แต่นับจาก IPO ก็ถือว่า "ใช้ได้"
แต่การขายของถูกมากให้คนจนมาก
ก็ย่อมมีปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้า
ทั้งของไม่ได้มาตราฐานบ้าง
ของปลอมบ้าง
ซึ่งก็นั่นก็เป็นปัญหาที่ Pinduoduo ต้องตามแก้กันต่อไป
นี่แหละครับ
แม้ในสงคราม e-commerce ที่ดุเดือด
ก็ยังช่องว่างให้ Pinduoduo เข้าไปได้
ผมว่าลองจับตาดู model E-commerce ราคาถูกๆแบบ Pinduoduo ให้ดีนะครับ
ไม่แน่ว่าเร็วๆนี้
อาจจะมีคนทำธุรกิจแบบนี้เข้ามาแข่งกับ Shopee หรือ Lazada ในไทยบ้างก็ได้
โฆษณา