18 ม.ค. 2020 เวลา 09:46 • ไลฟ์สไตล์
ให้ธรรมชาติบำบัดด้วยการวิ่งเทรล🏃🏞
ในปัจจุบันการนอกเหนือจากการวิ่งบนท้องถนนที่กำลังเป็นที่นิยมกันมาก การวิ่งเทรลก็เป็นตัวเลือกที่นักวิ่งอยากจะสัมผัสเช่นเดียวกัน แล้วทำไมนักวิ่งถึงชื่นชอบการวิ่งเทรล การวิ่งเทรลมันดีอย่างไร มีความแตกต่างกับการวิ่งธรรมดาอย่างไร และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน🤔
ขอบคุณภาพจาก : www.pxfuel.com
วิ่งเทรล คือการวิ่งในลักษณะพื้นที่เส้นทางที่เป็นภูเขาที่สามารถขึ้นและลงได้ แล้วแต่ลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เพื่อใช้ในการเดินหรือวิ่งไต่ระดับความชันของภูเขานั้น ๆ ซึ่งจะแตกต่างกับการวิ่งที่ถนน หรือลู่วิ่งทั่วไป
วิ่งเทรล จะวิ่งในเส้นทางที่มีป้ายบอกทางชัดเจน มีจุด Check Point ตลอดเส้นทางการแข่งขัน แต่ละ Check Point จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการ เช่น น้ำ เกลือแร่ อาหาร และหน่วยพยาบาล แล้วแต่ทางผู้จัดจะชี้แจงให้นักวิ่งได้ทราบ โดยรวมแล้วจะคล้ายกับ Hiking หรือ Trekking ขึ้นอยู่กับระยะทางที่เราเลือกแข่งขัน แต่จะมีความท้าทาย ในเรื่องของการแข่งขันเข้ามาเกี่ยวข้อง💪
วิ่งเทรลมีหลายระยะทางให้เลือก ตั้งแต่ระยะสั้น 10 กิโลเมตร จนไปถึงระยะยาว 100 กิโลเมตร และ 100 ไมล์ ทั้งนี้ทั้งนั้น นักวิ่งต้องประเมิณถึงสภาพร่างกายของตนเองก่อนที่จะเลือกระยะแข่งขัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขาซึ่งอาจทำให้การเข้าถึงพยาบาลเป็นไปด้วยความยากลำบาก
นอกเหนือจากเพื่อความปลอดภัยของนักวิ่งเอง การเลือกระยะที่เหมาะสมกับตัวเอง จะทำให้การวิ่งเทรลมีความสนุก และได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่นักวิ่งให้ความสนใจในการวิ่งเทรล🏞
การโหยหาความต้องการธรรมชาติของตัวเรา อาจเป็นผลมาจากความเครียด โดยเฉพาะคนที่อาศัยยู่ในเมือง เราไม่มีทางรู้เลยว่าสภาวะความแออัด มลพิษทั้งกลิ่น และเสียง หรือแม้กระทั้งภาพของตึกปูน โดยปราศจากพื้นที่สีเขียว จะยิ่งส่งผลทำให้สภาวะความเครียดที่ถูกสะสมก่อตัวมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงอาจเป็นสาเหตุทำให้คนเข้าหาธรรมชาติมากขึ้น
เราอยู่กับวัตถุที่สร้าง และใช้วัตถุดิบที่ถูกผ่านการปรุงแต่งขึ้นมามากมาย จนลืมไปแล้วว่าเราก็เกิดขึ้นมา และเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นเดียวกัน และดูเหมือนว่า "คริสโตเฟอร์ ไนต์" จะเชื่ออย่างนั้น คริสโตเฟอร์ พาตัวเองออกจากเมือง ออกจากผู้คน เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าเพียงลำพังถึง 27 ปี เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อ หรือรู้สึกเหงา ในทางกลับกันกับรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ 🌄
เช่นเดียวกับ "ซารา เมตแลนด์" เธอสร้างบ้านโดยที่หน้าบ้านของเธอ สามารถมองเห็นออกไปยังธรรมชาติที่สวยงามได้ เธออาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยปลีกตัวเองให้ออกห่างจากผู้คน เธอพอใจกับชีวิตที่มีแค่ตัวเธอกับธรรมชาติที่เงียบสงบเท่านั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นเหมือน คริสโตเฟอร์ และ ซารา บางคนอาจจะแค่ขึ้นไปมองวิวกว้างบนดาดฟ้าสูง ๆ ได้อยู่กับตัวเองเพียงลำพังแค่ราว ๆ 1-2 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว บางคนอาจจะแค่พอใจกับการกิน การใช้ ของที่ทำมาจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี บางคนอาจจะรู้สึกดีเมื่อได้ทำบางอย่างให้ธรรมชาติดีขึ้น เช่นการเก็บขยะที่ชายหาด การดำน้ำเพื่อตัดอวนประมง เป็นต้น🌅
ขอบคุณภาพจาก : www.pxfuel.com
ไม่ว่าเราจะเลือกเข้าหาธรรมชาติด้วยรูปแบบใด แต่สิ่งที่สำคัญคือเราได้ตัดขาดจากโลกภายนอกจริงหรือเปล่า
ผมชอบการวิ่งเทรล เพราะในขณะวิ่งมันทำให้เราอยู่กับตัวเองจริง ๆ ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องงาน หรือเรื่องรบกวนใด ๆ โฟกัสอยู่กับแค่เส้นทาง และตัวเราที่สัมผัสกับธรรมชาติ ด้วยร่างกายที่รู้สึกปลดปล่อย ระบายความเครียดไปกับความเหนื่อย เมื่อยล้า ที่เราเดินทางผ่านภูเขา และต้นไม้ที่กว้างขวางไร้ขอบเขต ฟังเสียงสายลม ฟังเสียงใบไม้ และกิ่งไม้กระทบกัน ฟังเสียงของนกร้องที่ราวเหมือนกับกำลังทักทายตัวเรา สูดกลิ่นของภูเขา ไอดิน และไอหมอก ทุก ๆ บรรยากาศเราสามารถสัมผัสได้ด้วยการวิ่งเทรล🌳⛰🦜
ลึก ๆ แล้วเราทุกคนต่างโหยหาธรรมชาติด้วยกันทั้งสิ้น การวิ่งเทรลก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ไม่ว่าเราจะเลือกการใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยวิธีใด การอนุรักษ์ และการรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเช่นเดียวกัน การทำในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการรับผิดชอบต่อขยะของตัวเอง เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ง่ายที่สุด ขอบคุณผู้คนที่ช่วยให้ธรรมชาติยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ธรรมชาติที่ไว้เป็นที่พักกาย และใจของพวกเรา💓
อ้างอิง
- ทำไมเหนื่อยล้าต้องเดินเข้าป่า เพราะธรรมชาติบำบัดจิตใจเราได้จริงๆ | R U OK EP.123
โฆษณา