25 ม.ค. 2020 เวลา 03:00
หลังจากที่ทุกคนรู้จักกองทุนรวม รวมถึงเทคนิคการเลือกกองทุนในบทความก่อนไปแล้ว Easy Invest จึงมีคำถามว่า คุณรู้หรือไม่ว่ากองทุนรวมนั้นมีกี่ประเภทและอะไรบ้าง
สาเหตุที่ต้องทราบก็เพราะว่าเราจะได้เลือกกองทุนให้เหมาะกับแผนการลงทุนของเราเอง เพราะถ้าหากเลือกผิดก็มีโอกาสที่จะทำให้แผนนั้นล้มไม่เป็นท่าเลยก็ได้
ในบทความนี้ Easy Invest จึงอยากพาไปรู้จักกับกองทุนประเภทต่างๆก่อน ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย
กองทุนแบ่งออกเป็น 8 ประเภทด้วยกันตามระดับความเสี่ยง โดยขอเรียงจากความเสี่ยงต่ำไปสูงนะครับ
ความเสี่ยงระดับ 1 : กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
จะลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่อายุไม่เกิน 1 ปี เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือเงินฝากประจำ เป็นต้น เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับต่ำที่สุด เนื่องจากโอกาสที่ลูกหนี้จะเบี้ยวหนี้นั้นแทบจะเป็น 0 เพราะลูกหนี้นั้นมีความน่าเชื่อถือสูงมาก
ความเสี่ยงระดับ 2 : กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
กองทุนนี้ก็จะเหมือนแบบที่ 1 ต่างกันที่จะสามารถนำเงินบางส่วนไปลงทุนต่างประเทศได้ ซึ่งจะมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปกติบางกองทุนจะทำการลดความเสี่ยงค่าเงินไว้อยู่แล้ว
ความเสี่ยงระดับ 3 : กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
ชื่อกองนี้ก็บอกอยู่แล้วว่าจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล คือเหมือนกับเราเอาเงินไปให้รัฐบาลกู้ยืมเลยครับ ระยะเวลาส่วนใหญ่ก็จะมากกว่า 1 ปี
ความเสี่ยงระดับ 4 : กองทุนรวมตราสารหนี้
จะลงทุนในตราสารหนี้เอกชนหรือหุ้นกู้ (คือเงินที่บริษัทเอกชนกู้ยืมเงินจากนักลงทุนเพื่อประกอบธุรกิจ) และมีโอกาสจะถูกเบี้ยวหนี้มากกว่ากองทุนที่มีแต่ตราสารหนี้ภาครัฐล้วนๆ
ความเสี่ยงระดับ 5 : กองทุนรวมผสม
เป็นกองทุนที่รวมระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน(หุ้น) เข้าด้วยกัน โดยคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ล้วนๆ แต่ก็ไม่เสี่ยงสูงเหมือนกับการที่ลงในหุ้นเพียงอย่างเดียว
กองทุนประเภทนี้มักจะมีการจัดสรรส่วนผสมอยู่เป็นระยะ ช่วงไหนที่ตลาดหุ้นดูดี ก็จะเน้นถือหุ้นเยอะ เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ถ้าช่วงไหนตลาดหุ้นร่วงยาวๆ ก็จะเน้นถือตราสารหนี้แทน
ความเสี่ยงระดับ 6 : กองทุนรวมตราสารทุน
แน่นอนว่ากองทุนประเภทนี้จะลงทุนในหุ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแล้วไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
กองทุนตราสารทุนนี้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงถึงสูงมาก โดยเฉพาะในยามที่เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ในทางกลับกันก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงเช่นกัน แต่ในระยะยาวแล้วกำไรของธุรกิจมักจะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว
ความเสี่ยงระดับ 7 : กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
เมื่อดูในตลาดหุ้น จะมีหุ้นแบ่งออกเป็นหมวดอุตสาหดรรม เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น กองทุนประเภทนี้จึงลงทุนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆโดยเฉพาะ
นอกจากนี้บางช่วงเวลา บางกลุ่มอุตสาหกรรมจะอยู่ในช่วงขาขึ้นทำให้หุ้นกลุ่มนี้สร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาดโดยรวมอยู่มาก จึงทำให้กองทุนนี้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนทั่วไป แต่เนื่องด้วยกองทุนนั้นลงทุนกระจุกตัวอยู่แค่อุตสาหกรรมเดียว จึงทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนตราสารทุนทั่วไปนั้นเอง
ความเสี่ยงระดับ 8 : กองทุนรวมทางเลือก
กองทุนนี้ส่วนใหญ่จะลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งราคาจะเปลี่ยนไปตามตลาดโลกที่มีปัจจัยมากมายมาเกี่ยวข้อง ทำให้ยากที่จะคาดเดา กองทุนนี้จึงจัดได้ว่าเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับสูงที่สุด แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงสุดเช่นกัน
ภาพจาก KKP Advice Center
และทั้งหมดนี้ก็เป็นประเภทของกองทุนทั้งหมดที่มีในตลาดนะครับ
หลายๆคนก็คงเริ่มมีคำถามกันแล้วว่า เราควรจะซื้อกองทุนประเภทไหนดี หรือ กองทุนที่เราถืออยู่นั้นเหมาะกับแผนการเงินของเราหรือไม่
ในบทความถัดไป Easy Invest จะมาไขคำตอบเหล่านี้กันครับ อย่าลืมติดตามกันนะครับ
โฆษณา