เสน่ห์ในงานเขียนของพลูพลวง
พลูหลวง มีผลงานด้านโหราศาสตร์จัดพิมพ์ไม่น้อยกว่า 30 เล่ม ต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี งานเขียนด้านโหราศาสตร์ของท่านจัดเป็นงานเขียนเชิงวิพากษ์ ชวนมาให้วิจารณ์ ทั้งสืบทอดของเก่า ทั้งท้าทาย ดัดแปลง แก้ไข ของเก่า ที่หนุนด้วยประสบการณ์การค้นคว้าและสถิติ จนกลายเป็นของใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าการนำเสนอแนวคิดเรื่องดาวแบคคัส รวมถึงดาวเกษตร์แบบเรือนเดียว ที่ใช้ดาววงนอกเสาร์อย่างยูเรนัส เนปจูน พลูโต เป็นดาวเจ้าเกษตร์ หนุนด้วยสถิติดวงชะตามากมาย บ่อยครั้งที่งานเขียนเชิงวิพากษ์วิจารณ์ของท่าน มักตรงไปตรงมา ทันสมัย และสร้างแรงบันดาลใจ เพียงพอต่อการทำให้คนอ่านที่มีใจเปิดใจกว้างรู้สึกว่าอ่านแล้วฉลาดขึ้น
ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างบางส่วนจาก คำนำ ในหนังสือ “โหราศาสตร์ไทยสมัยใหม่” ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ในปี 2509 ซึ่งเข้าใจว่าเป็นงานเขียนเล่มแรกของท่านที่นำบทความที่เคยตีพิมพ์ในหนังสือพยากรณ์สาร ช่อฟ้าและยานเกราะ มาจัดพิมพ์รวมเล่ม ดังนี้
1. โหราศาสตร์เป็นวิชาซึ่งเรียนกันไม่รู้จบสิ้น แม้ว่าจะมีตำรับตำรามากมายแต่งโดยหลายอาจารย์ผู้รอบรู้ เราก็คงต้องแสวงหาความรู้แปลกๆอีกต่อไป ยังไม่เคยมีตำราเล่มใดให้ความรู้โดยสมบูรณ์แม้แต่เล่มเดียว ส่วนมากมักจะคัดลอกจากหนังสือเล่มโน้นมาผสมกับเล่มนี้ รวบรวมจนพิมพ์เป็นเล่มใหญ่ขึ้นมาได้ ดูๆไปก็มีที่มาจากแห่งเดียวกันด้วยกันทั้งนั้น
2. เหตุที่ตำราต่างๆไม่อาจขจัดปัญหาอันมีอยู่มากมายเหลือคณนาในวิชาโหราศาสตร์ ก็เพราะว่าวิชานี้เป็นสถิติซึ่งบวกกับความจัดเจนเฉพาะตัวประการหนึ่ง อีกประการที่สำคัญก็คือ โหราจารย์แต่ละท่านส่วนมากเมื่อมีคนนับหน้าถือตา มอบตัวเป็นลูกศิษย์ลูกหามากขึ้น ก็มัวจะวางตัวเขื่องและอวดเก่ง ที่สุดก็อยู่ในสภาพอันจมไม่ลง ต่างไม่ยอมรับว่าตนยังไม่รู้ในบางสิ่งบางอย่าง อันทิฐิมานะนี้เมื่อพอกพูนแก่กล้าเข้า ย่อมเป็นอันตรายแก่การค้นคว้าในวิชาโหราศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง ผลที่สุดก็พลอยทำให้เกิดตำรับตำรายกเมฆอวดรู้ไปต่างๆนาๆ หาได้กระทำตนเป็นนักสถิติและนักค้นคว้า ผู้ใคร่แสวงหาความจริงดังที่ได้ตั้งปณิธานไว้แต่เดิมไม่
3. วิชาโหราศาสตร์นี้ย่อมเกี่ยวพันกับการโคจรของดวงดาวบนท้องฟ้า มีระบบความเป็นไปอันแน่นอน หากบันทึกจดจำสถิติอย่างละเอียดประณีต เฝ้าเพียรสอบทานกันเป็นเวลานาน โดยไม่รีบด่วนสรุปผลตราบที่สถิติยังไม่ลงตัว
4. แม้กระนั้นใช่ว่าเราจะประสบเป้าหมายอันสมบูรณ์ก็หามิได้ ผลของการวินิจฉัยจากสถิติและความจัดเจนของตนเองนั้นเป็นแต่เพียงข้อคิดเห็นซึ่งใกล้เคียงกับประสบการณ์อันเคยผ่านมาเท่านั้น หาใช่ข้อเท็จจริงหรือสูตรตายตัวแต่ประการใดไม่
5. ผู้เคยเอือมระอากับโยคเกณฑ์ต่างๆอันมากมายของอาจารย์โหรชาวอินเดีย ซึ่งได้วางกฏเกณฑ์ไว้จนจำกันแทบไม่หวาดไหว หลายคนนำเอากฏเกณฑ์เหล่านั้นมาใช้ บางครั้งได้ผล บางครั้งก็ไม่ได้ผล ไม่เห็นมีอนะไรแน่นอนลงตัวไปได้ นั่นก็เพราะว่ามันมีทางแปรปรวน จะถือเป็นสูตรสำเร็จหาได้ไม่ แม้กฏเกณฑ์แบบไทยของเราเองก็เถิด บางครั้งเกิดมีดวงชะตาพิสดาร ฝืนกฏเกณฑ์นั้นๆขึ้นมา เลยพลอยทำให้ผู้ศึกษาซึ่งผ่านพบเห็นอะไรมาน้อยพลอยสาปส่งไม่ขอยึดถืออีกต่อไป
6. บางคนมั่นใจในตำราถึงแก่ท้าทาย เผาตำรากับผู้รับคำพยากรณ์ ผลที่สุดมันไม่เป็นไปตามคำพยากรณ์นั้น ก็เลยเผาตำราจริงๆ แล้วเลิกนับถืออาจารย์นั้นๆส่งไปเลย เรื่องชนิดนี้มีมามากและเกิดขึ้นบ่อยๆ เชื่อว่านักโหราศาสตร์ทุกคนคงจะผ่านความรู้สึกเช่นนี้มาด้วยกันแทบทุกคน
7. หากว่าผู้ใดไม่เสื่อมศรัทธาต่อวิชาโหราศาสตร์ไปเสียก่อน โดยพยายามขะมักเขม้นศึกษาหาความจริงอีกต่อไป ในไม่ช้าความจัดเจนต่อการที่ผ่านดวงชะตามากเข้าจะทำให้สติปัญญาเริ่มสว่างไสว เกิดญาณทัศนะแก่กล้าขึ้นจนหยั่งถึงความจริง ล่วงรู้ว่าอันกฏเกณฑ์ต่างๆที่ตนเคยสบประมาทเพราะใช้ไม่ได้ผลมาก่อนนั้น แท้จริงมันเป็นกฏเกณฑ์อันมีค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ควรยึดถือไว้ แล้วนำความรอบรู้หลายๆทางมาประมวลวินิจฉัย จนอ่านดวงชะตาเบื้อหน้าทะลุปรุโปร่งหมด ต่อจากนั้นจึงถอดคำพยากรณ์อันแม่นยำออกมา
8. เมื่อศึกษาค้นคว้าในวิชาโหราศาสตร์นานเข้า เราจะรู้ความจริงอันหนึ่งว่าไม่ว่ากฏเกณฑ์ใดๆเราจะนำมาใช้อย่างโดดๆแล้วกล่าวคำทำนายตามตำราที่ว่าไว้นั้นหาได้ไม่ อันกฏเกณฑ์เป็นเพียงเครื่องมือชี้ทางซึ่งนำสติปัญญาของเราดำเนินไปบนมรรคาอันนั้น ต่อจากนั้นเราจะเลี้ยวลดไปทางไหนย่อมขึ้นกับน้ำหนักสัมพันธภาพของดวงดาว อันมีแง่มุมต่อกันต้องหักลบจุดเบียนและจุดอันจะให้คุณ ซึ่งจำเป็นจะต้องนำกฎเกณฑ์อีกหลายต่อหลายกฏเกณฑ์ขึ้นมาใช้พร้อมกัน ดูออกจะเป็นเรื่องสลับซับซ้อนมิใช่น้อย กล่าวคือเราจะต้องผ่านพบเห็นมาก และประสบพบเห็นจำเจต่อสิ่งนั้นๆ จากการค้นคว้าทดสอบด้วยตนเองมานาน พอสมควรจนมั่นใจ แล้วก็นำเคล็ดอันมั่นใจนี้ออกมาใช้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเรียกว่าให้เป็นไปโดยวสีหรือความพิชาญแบบที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
9. ดวงชะตาอันวางอยู่เบื้องหน้านักพยากรณ์ทางโหราศษสตร์นั้นเหมือนตัวปัญหา แม้ว่าจะมีราศ๊เพียง 12 ราศี และดาวพระเคราะห์จำนวนเท่าราศีนั้นซึ่งดูไม่มากนัก แต่การอ่านดวงชะตากลับเป็นเรื่องสลับซับซ้อนน่าเวียนหัว หากผู้ใดขาดความจัดเจนและมีความรอบรู้เพียงวงแคบๆย่อมเป็นของธรรมดาจะทำนายให้ลึกซึ้งวิจิตรพิสดารไม่ได้ จริงอยู่หลักเกณฑ์หลายอย่างของโหราศาสตร์ เราอาจจะนำมาทำนายได้อย่างง่ายๆโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้อันแตกฉานแต่ประการใดไม่
10. บางท่านเพียงรู้ว่าอาทิตย์สถิตอยู่ราศีใดก็อาจจะทำนายออกมาได้อย่างน้ำไหลไฟดับทีเดียว ซึ่งก็ไม่ผิดเสียด้วย หรือบางคนเห็นดวงชะตาดวงนั้นมีดาวศุกร์และจันทร์เป็นนิจ ก็โพล่งพยากรณ์ออกไปว่าความรักไม่สมหวังมักรับความขมขื่นจากสตรี จะเดือนร้อนเพราะสิ่งนี้ กล่าวแบบนี้แน่นอนทีเดียวย่อมไม่ผิด เพราะดวงดาวอันมีอานุภาพครอบงำเกี่ยวกับเรื่องนี้ อยู่ในสภาพเสื่อมไม่ให้คุณประโยชน์อะไร คำพยากรณ์แบบนี้ถือว่าเป็นเพียงชั้นประถมเท่านั้นเอง ใครท่องตำราคล่องหน่อยก็ว่าได้
หากนักพยากรณ์ผู้นั้นโดนซักถามจากคนเจ้าปัญหาสักหน่อยว่าคู่ผมไม่ดีอย่างไร ตอนนี้แหละเขาจะจนปัญญาทันที ผู้ที่ตอบได้จะต้องรู้อะไรให้ลึกซึ้งยิ่งไปกว่านั้น เพราะอาจเป็นไปได้ว่า คู่ครองของเขาเป็นคนชั้นต่ำ หรือเป็นคนนิสัยไม่ดี นอกใจ หรือว่าขี้โรค หรืออายุสั้น หรือต้องตายเพราะอุบัติเหตุ ฯลฯ เราจะบอกได้ว่าเพราะอะไรก็ต่อเมื่อดูละเอียดลออถึงดาวปัตนิ และจุดสัมพันธ์ของลัคนา ตลอดจนสมผุสของดาวพระเคราะห์ต่างๆ จากภพใดเข้ามาเบียน หรือให้คุณกับดาวปัตนินั้นๆ ทั้งเจ้าเรือนปัตนิไปสถิตอยู่ในตำแหน่งมีคุณหรือโทษประการใด นอกจากนี้ยังต้องนำภพอื่นมาเทียบเคียงกันอีก ซึ่งเห็นแล้วว่าเป็นเรื่องอันมิใช่สุกเอาเผากินเสียแล้ว ต้องดูกันนานๆใช้เวลาพิจารณากันให้สุขุม จะใช้วิธีพอจับดวงก็ว่าเป็นนกแก้วไปเลย แบบนี้มีส่วนเข้าป่าเข้ารกเสียมากกว่าวจะวิจารณ์ถูกเป้าหมาย
โหราทาส
21 มกราคม 2563
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
