28 ม.ค. 2020 เวลา 00:00
เป้าหมายชีวิต
ตอนที่ 2 ต้องขยัน
หากเรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจ ด้วยการแสวงหาทรัพย์ และใช้จ่ายทรัพย์ ให้มีรายรับ มากกว่ารายจ่าย เราก็ต้องยอมลดทอนเป้าหมายที่จะใช้ชีวิตแบบ ชิว ชิว ออกไปบ้าง เป็นต้น
ยิ่งเรามีเป้าหมายจะพัฒนาคุณภาพชีวิตมากเท่าไหร่ ก็ต้องยอมลดทอนเป้าหมายที่จะไม่พัฒนาคุณภาพชีวิตมากเท่านั้น
ก็อยู่ที่การเลือกของเราแล้วล่ะ ว่า เราต้องการเป้าหมายชีวิตแบบไหน ...
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนให้ชาวพุทธ ที่ยังไม่ใช่นักบวช มีเป้าหมายทางด้านเศรษฐกิจเหมือนกันนะ โดยใช้หลักธรรมที่เรียกว่า “ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์” แปลตามศัพท์ว่า ประโยชน์ในปัจจุบัน
ขอขยายความคำว่า “หลักธรรม” สักนิด “หลักธรรม” ก็คือ “หลักวิชา” หรือ “หลักการ” ที่ใช้ในการดำเนินชีวิตนั่นแหละ แล้วทำไมไม่เรียกว่า “หลักวิชา” หรือ “หลักการ” ล่ะ
ก็เพราะว่า ถ้าเป็น ”หลักวิชา” หรือ “หลักการ” ทางโลก จะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ถ้าเป็นหลักธรรม จะคงอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าโลก หรือ เทคโนโลยี จะเปลี่ยนไปอย่างไร หลักธรรม ก็ยังนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ทุกยุคทุกสมัย เช่นเดียวกับหลักธรรมที่เรียกว่า “ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์” แปลตามศัพท์ว่า ประโยชน์ในปัจจุบันนั่นแหละ หรือครูบาอาจารย์บางท่าน ท่านเรียกหลักธรรมนี้ว่า “หัวใจเศรษฐี” คือถ้าได้ปฏิบัติตามนี้แล้ว จะรวยเป็นเศรษฐีนั่นเอง มีอะไรบ้าง มาดู มาฟังกัน
1 อุฎฐานสัมปทา แปลตามศัพท์ว่า ถึงพร้อมด้วยความหมั่น หมายถึง ให้ขยันนั่นเอง เห็นไหม พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนขี้เกียจนะ พระพุทธองค์สอนให้ชาวพุทธเป็นคนขยันทำมาหากิน แล้วท่านยังสอนเรื่อง ศัตรูของความขยันด้วยนะ ศัตรูของความขยันคืออะไร
ศัตรูของความขยัน คือ “อบายมุข” มีอะไรบ้าง
1 ดื่มสุรา
2 เที่ยวกลางคืน ก็ คือ เที่ยวผู้หญิงนั่นแหละ
3 ดูการละเล่น
4 ติดการพนัน
5 คบคนชั่วเป็นมิตร
6 เกียจคร้านการทำงาน
อบายมุขทั้ง 6 จะเป็นเหตุเป็นผลกันนะ เริ่มจาก
ข้อ 1 ดื่มสุรา คือ พอดื่มสุราแล้ว จะทำให้ขาดสติ พอขาดสติ กิเลสกามจะกำเริบ หรือ ความต้องการทางเพศมันเพิ่มขึ้น คือ ปกติคนเราที่ยังไม่หมดกิเลส มันก็มีเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่มันคุมได้เพราะมีสติ พอกินเหล้าเข้าไป สติก็เลยขาดผึง ควบคุมความต้องการทางเพศไม่ได้ เมื่อควบคุมไม่ได้ ก็ต้องแสวงหา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา