Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ความสุขของลูกฟุตบอล
•
ติดตาม
22 ม.ค. 2020 เวลา 07:55 • ท่องเที่ยว
ประเทศเวียดนาม Vietnam
เวียดนามประเทศที่สวยงามที่พวกเรามองข้ามกันไปหรือเปล่านะ
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ทำพาสปอร์ตครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกครับ ตื่นเต้นมากๆ ตลอดอายุ 21 ปี ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้ขึ้นเครื่องเนื่องจากเราก็เป็นคนไม่ชอบเที่ยวไหน กลุกอยู่แต่กับบ้าน อีกอย่างก็กลัวเครื่องบินเป็นการส่วนตัวตั้งแต่เด็กๆ แต่อีกใจก็อยากลองนั่งดูสักครั้งเลยตัดสินใจไปก็ไปครับ ไปกันประมาณ 6-7 คนนี่คือการเที่ยวแบบลุยๆ และเน้นประหยัดควบคู่กันไป
ทำไมถึงเลือกเวียดนามเพราะว่า เพื่อนๆที่ไปค่อนข้างชำนาญในการท่องเที่ยวต่างประเทศแบบงบประหยัด จึงเป็นตัวตั้งตัวตีในการหาคนไปเที่ยวด้วยกัน ประจวบกับความคิดเห็นของทุกๆคนเลือกประเทศเวียดนามแบบพร้อมเพรียง เลยตกลงปลงใจไปเยือนต่างแดนครั้งแรกในชีวิตของผมเลย
จะขอเล่าตั้งแต่ก่อนไปสนามบินเลยนะครับ เพราะนี่คือการออกต่างประเทศครั้งแรกผมจึงตื่นเต้นกับการไปสนามบินมากครับ
วันที่ 1 โฮจิมินห์ เครื่องออกเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ผมนี่แทบจะนอนไม่หลับเลยครับ นอนแค่ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้ เพราะต้องรีบมาเช็คอินก่อนเครื่องออกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินกันเกือบตี 5 เลยครับกลัวตกเครื่องอย่างมาก ความสุดยอดของสนามบินทุกๆที่คือเป็นสถานที่ที่ไม่เคยหลับไหล มีแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา ทุกคนทำงานกันตลอดเวลา การบริการผู้โดยสารตลอดทั้งวันทั้งคืน เห็นผู้คนเดินไปเดินมากันขวักไขว่ราวกับกองทัพมด มันดูน่าสนุกมากกับการทำงานในสนามบินไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนแผนกไหนก็คงจะสนุกไม่แพ้กันผมเชื่อแบบนั้นนะ
การตรวจสอบต่างๆ การเข้าเกต การเลือกซื้อปลอดภาษีในนั้น มันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผมมากครับ ทุกอย่างคือครั้งแรกของผมทั้งสิ้น ทุกวันนี้ยังคิดถึงบรรยากาศแบบนั้นอยู่เลยนะครับ
ต่อมาก็นั่งรถจากเกตไปขึ้นเครื่อง สุดตื่นเต้นเลยครับขึ้นเครื่องไปนั่งครั้งแรกบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกครับ ทั้งกลัวและดีใจไปพร้อมกัน ยิ่งตอน Take off นี้กระชากใจมากครับ แล้วก็มานึกในใจนี่เราอยู่กลางอากาศแล้วนะเนี่ย จะถอยก็คงไม่ทันแล้ว และก็ภาวนาให้เป็นไฟลท์ที่ดีและปลอดภัยครับ จากนั้นก็หลับยาวจนถึงเวียดนามเลยครับผม
ช่วงสายๆของวันถึงแล้วโฮจิมินห์มาถึงแบบงงๆ แต่บรรยากาศที่นั้นให้ความรู้สึกคล้ายกับประเทศไทยมากๆ ทั้งความร้อนและการจราจร (ขอเหน็บนิดหน่อยไม่โกรธกันนะ)
นครโฮจิมินห์ คือเมืองเก่าแก่ แต่ความทันสมัยไม่แพ้ที่ฮานอยแน่นอน ดั้งนั้นความเจริญต่างๆก็ยังมีให้เห็นอยู่มากมาย ตึกสูงระฟ้า บ้านช่องที่ทันสมัย ร้านขายของต่างๆ ห้างสรรพสินค้าที่มีแทบจะคล้ายกรุงเทพมหานครอะไรประมาณนั้นเลย แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าการจราจรที่นี่ค่อนข้างแออัดมากๆ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่เรียกได้ว่าเป็นรถประจำชาติของที่นั้นก็ว่าได้ ทุกคนก็คงได้เห็นกันมาบ้างแล้วล่ะผมว่านะ จักรยานยนต์ที่วิ่งราวกับสายน้ำที่ไม่อยากหยุด
การข้ามถนนที่นั้นต้องบอกเลยว่าอันตรายมากๆ พวกเขาจะไม่หยุดให้คุณ ทำให้แค่ชะลอให้เท่านั้นถ้าคุณไม่เดินทำกล้าๆกลัวๆ ก็ต้องบอกเลยว่า ”อดข้าม” เขาจะผ่านหน้าคุณแบบคุณเองก็ยังต้องอึ้งว่านี่ฉันกำลังข้ามเลยนะไม่เบรคหน่อยหรือ คำถามต่างๆจะถาโถมเข้ามาแน่นอน ซึ่งผมก็ต้องพบเจอกับมันทั้งวันเต็มๆ มันก็เป็นความท้าทายในต่างแดนที่ดีนะครับเพราะแต่ละประเทศย่อมมีการดำเนินสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งมันก็ถูกยอมรับในประเทศของเขา นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าสิ่งใหม่ๆของการเดินทาง
วันแรกยังคงไม่จบนะครับพวกเราเดินเที่ยวกันจนเย็นเพราะพวกเราไม่ได้จองโรงแรมไว้ที่โฮจิมินห์ครับ แต่จองรถนอนที่จะพาพวกเราไปที่เมืองญาจาง เมืองแห่งความสวยงามของท้องทะเลที่รอพวกเราอยู่ ใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมงครับ เพราะนี่คือทริปแบบประหยัดแบบสุดขีดจึงไม่ต้องการเดินทาง ด้วยเครื่องบินครับ การนอนบนรถนอนนี่ค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อยนะครับ ถ้าคุณสูงละก็คงต้องชันขานอนกันเลยทีเดียว ความสะอาดค่อนข้างโอเค เลยนะครับ เว้นแต่ว่าใครสักคนบนรถดันเท้าเหม็นอับขึ้นมาเมื่อไหร่คุณก็ต้องนอนไปกับกลิ่นเหล่านั้นทั้งคืนเลยนะครับ วันแรกจบลงไปก็ไม่มีอะไรมากนัก เดินเล่นหาสิ่งแปลกใหม่ที่ต่างจากบ้านเรา มองดูวิถีชีวิต และจบที่รถนอนของเวียดนามที่เป็นการนอนครั้งแรกเช่นกันครับ แต่ก็หลับยาวเหมือนเคยครับ
วันที่ 2 ญาจาง วันแห่งสวนสนุกที่ญางจาง เป็นเมืองการท่องเที่ยวทางทะเลที่ทุกคนอาจจะมองข้ามความสวยงามเหล่านี้ไป ญาจางเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้มีพื้นที่ติดกับทะเล มีชายหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม
สวนสนุก Vinpearl Land ที่ต้องนั่งกระเช้าหรือเรือข้ามฝากไปสู่ที่นั้น ซึ่งการขึ้นกระเช้าคือจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาที่นี่เพราะมันข้ามทะเลไปสู่เกาะ ความสวยงามมันก็อยู่ตอนข้ามนี่แหละครับ การมองเห็นน้ำทะเลสีคราม การได้นั่งมองวิวทิวทัศน์ และความตื่นเต้นของการขึ้นกระเช้า นั้นเป็น เหตุผลทำให้กระเช้าทำรอบไม่ทันต่อการแบกรับคนที่เยอะขนาดนั้นได้ พวกผมทั้งหมดจึงต้องไปขึ้นเรือข้ามฝากแทน ต้องบอกก่อนว่าที่นั้นนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควรนะครับหรือผมไปช่วงเทศกาลคริสต์มาสหรือเปล่าก็ไม่ทราบ น่าจะใช่นะ
สวนสนุกชื่อก็ตรงตัวนะครับเพราะมันสนุกจริงๆ ถ้าให้เปรียบกับในไทยก็คงต้อง ดรีมเวิลด์ไม่ก็สวนสยามทำนองนั้นเลยครับ มีทั้งสวนน้ำแบบติดทะเลจริงเครื่องเล่นอันทันสมัย ปลอดภัยหายห่วง มีทุกอย่างให้เล่นตามต้องการเลย แต่ก็เดินไกลหน่อยเพราะที่นั้นมันใหญ่มากๆ เครื่องเล่นก็อยู่ไม่ได้ใกล้กันสักเท่าไหร่ จริงๆแล้วที่สวนสนุกแห่งนี้ยังมี สวนสัตว์ สวนนก สวนพืชพรรณไม้ สวนดอกไม้ เรียกได้ว่าแทบจะครบจบในที่เดียวเลยครับ
จุดพีคของที่นี้คือชิงช้าสวรรค์ครับ มันอยู่สูงจากเกาะไปอีกไปนะครับต้องเดินขึ้นเขา ไปอีกทอดหนึ่ง ชิงช้าว่าสูงใหญ่แล้ว ยังดันมาตั้งบนจุดสูงสุดของเกาะทำให้เพิ่มความระทึกใจกับความสูงที่สูงมากๆ จนแทบไม่กล้ามองวิวรอบๆเลยครับ ขานี่สั่นไปหมดแทบอยากจะลงให้ไวที่สุด อย่างว่าเป็นคนกลัวความสูงแต่มาทั้งทีก็อยากจะลองผลมันก็แบบนี้แหละครับ
เครื่องเล่นที่สนุกที่สุดสำหรับผมเลยนะคือ Roller Coaster ที่มันจะเป็นรถไฟรางแบบมีเชือกดึงขึ้นลง และเราสามารถบังคับความเร็ว เบรค ได้ตามใจของเรา ที่เชียงใหม่ก็มีนะแบบนี้แต่ผมยังไม่เคยลองเลยไม่รู้จะเปรียบเทียบกันได้หรือเปล่า แต่ที่นี่ผมให้อันดับหนึ่งเลยนะ การไต่ขึ้นเขาที่ระยะการไต่มันไกลมากจนน่ากลัวถ้าได้มองจากข้างล่าง แต่การได้มองทิวทัศน์จากบนภูเขา มองเห็นทะเลบนรถไฟที่ดึงเราขึ้นไปแบบช้าๆ ผมแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนั้น ไม่อยากทำอะไรอีกแล้วขอแค่มีวิวดีๆ เหล่านี้อยู่ด้วยในทุกๆวัน มันก็คงจะเป็นกำลังใจที่ดีในการทำงานไม่น้อย
ในช่วงหัวค่ำก็จะมีงานแสดงต่างๆของแต่ละจุด แต่มันจะเปิดเป็นรอบๆ คุณต้องบริหารเวลากันให้ดีๆ ก่อนที่จะไปดูเพราะบางทีอาจจะพลาดอีกการแสดงที่สนุกไม่แพ้กันเลย
ตอนดึกของญาจางเราจองโรงแรมกันแล้วครับ นอนค้าง 1 คืน และแน่นอนก็ต้องทำอาหารกินกันเองสิถึงจะฟิน และที่ขาดไม่ได้ในการมาทะเลก็คืออาหารทะเล เราได้ออกตามหาของทะเลมาทำกินกันเองนะครับ ไม่ได้ไปนั่งตามร้านแต่อย่างไร ก็งบประหยัดอะเนอะ แต่ของที่กินมันก็ไม่ได้ประหยัดขนาดนั้นนะครับ หรืออาจะเป็นของกินที่เวียดนามอาจจะมีราคาถูกกว่าไทย ทำให้เราได้ของทะเลมาเยอะมากๆ กุ้ง หอย ปู ปลา ครบจบในมื้อเดียว ถ้าเปรียบราคาที่ไทยมื้อนี้ผมให้ 3 พันกว่าๆ แต่ที่นี่ตกประมาณ 2 พันนิดๆ ก็ถือว่าแพงนะ แต่ก็ห่างกันกับที่ไทยเกือบพันเลยนะครับ
จบวันที่ 2 ที่เป็นวันแห่งความประทับใจอะไรหลายๆอย่างจากเวียดนาม ด้านธรรมชาติ ด้านการท่องเที่ยว ด้านการบริการ คือเขามีครบจริงๆ เขาคือประเทศที่น่ากลัวมากสำหรับไทยในอนาคตอันใกล้ในเรื่องการท่องเที่ยว เพราะจากที่เห็นจากที่สวนสนุกแล้ว เห็นการบริหารจัดการผังเมืองแล้ว ต้องบอกจริงๆว่า ความเจริญของเขาไม่ได้ห่างไกลจากเราเลยครับ
ขอจบพาร์ท 1 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไม่งั้นอาจจะยาวเกินไป
ส่วนวันที่ 2 และ 3 ที่ลุย ดาลัดและมุยเน่ จะมาในวันพรุ่งนี้นะครับถ้าสนใจตามอ่านกันได้นะครับ แบ่งปันทุกคนครับ
นิว
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย