28 ม.ค. 2020 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
สรุปจากงาน CTC2020 | Design Thinking
“Design thinking ไม่ใช่กระบวนการ แต่เป็นทักษะ”
ปีที่ผ่านนี้หลายคนคงคุ้นเคยกับ Design thinking กระบวนการคิดเชิงออกแบบเพื่อเข้าใจปัญหา Session นี้เป็นการฉีกกรอบเดิมๆ ของ Design thinking ที่เราเคยเข้าใจ โดยพี่ต้อง กวีวุฒิ เจ้าของเพจ 8บรรทัดครึ่ง
มักจะมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ Design thinking
- Design thinking มี 5 ขั้นตอน เริ่มจาก Empathy, Define, Ideate, Prototype, Test
- บอกว่าเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่เวลาส่วนมากหมดไปกับการประชุม Stop meeting and get outside the buiding
- ผู้นำหรือหัวหน้ามักบอกว่าให้คิดนอกกรอบ แต่หลายครั้งกลับเป็นคนสร้างกรอบขึ้นมา
ซึ่งจริงๆ แล้วมีหลักการที่สำคัญ 3 อย่าง ที่เป็นแก่นของการคิดเชิงออกแบบ
• Ask เพื่อให้รู้ Pain point ของลูกค้า
• Think คิดนอกกรอบ ริเริ่ม Idea ใหม่ๆ
• Act กล้าที่จะลงมือทำ
ทั้ง 3 ทักษะนี้จะต้องฝึกฝนและลองทำ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือนวัตกรรมใหม่ๆ และนี่คือแนวทางสำหรับ Design thinking
1) Define the right problem to slove
ต้องตั้งคำถามให้ถูก เพื่อหา Pain point ที่แท้จริงของลูกค้า เพราะลูกค้ามักไม่รู้ความต้องการของตัวเอง เหมือนที่ Henry Ford พูดไว้ว่า "ถ้าคุณไปถามลูกค้าว่าต้องการอะไร ก็จะมีแต่คนบอกว่าอยากจะได้ม้าที่วิ่งเร็วขึ้น ไม่มีใครตอบว่าอยากได้รถ"
2) Empathy
ความหมายที่ตรงที่สุดของคำนี้คือ "Feel what others feel" รู้สึกให้เหมือนที่คนอื่นรู้สึก โดยมีหลักการ 3 ข้อ
- Observe สังเกตในสิ่งที่ลูกค้าไม่ได้บอก
- Immerse ลองใช้บริการหรือสินค้าของตัวเอง
- Interview ต้องตั้งคำถามที่ดี "Start with why" และทีสำคัญคือต้อง "Reframe your question" ปรับคำถามเพียงนิดเดียว คำตอบอาจแตกต่างได้มหาศาล
3) Ideate
เป็นการรวบรวมไอเดียให้มากที่สุด ไม่ว่าไอเดียนั้นจะดูตลกแค่ไหนก็ตาม เพราะไอเดียที่ดีคือไอเดียที่มีปริมาณมากๆ "Good idea is a lot of ideas"
4) Prototype & Test
ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้งบประมาณ เพราะต้องสร้างไอเดียนั้นออกมาจริงๆ แล้วรับ Feedback จากลูกค้า ซึ่งผู้นำหรือหัวหน้าต้องสนับสนุน เหมือนประโยคลาสสิคว่า "Fail fast Fail cheap Fail forward" ซึ่งหลายครั้งที่ประโยคนี้เป็นเพียงแค่คำโปรย ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อให้มีไอเดียเป็นร้อย ก็ไม่ช่วยให้เกิด Innovation !!
โฆษณา