26 ม.ค. 2020 เวลา 05:15 • ท่องเที่ยว
2019: Phú Quốc (Ep. 0) | เตรียมตัวไปสโลวไลฟ์กันในเกาะฟูก๊วก
"เกาะฟูก๊วก ... มันอยู่ส่วนไหนของโลกกันเนี่ย?"
นี่คือคำถามแรกที่คุณภรรยาถามผมเมื่อวันที่ผมเสนอไอเดียว่าจะไปเที่ยวไหนกันดีในช่วงวันหยุดปีใหม่ เพราะเกิดมาเค้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเกาะนี้เป็นยังไง และอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก
เชื่อเลยครับว่าหลายคนได้ยินชื่อนี้ครั้งแรกก็คงจะถามเหมือนกันแน่ๆ ดังนั้นผมอยากจะแนะนำให้รู้จักที่มาที่ไปของเกาะแห่งนี้กันก่อน
หน้าตาของเกาะฟูก๊วกจาก Google Maps
เปิดแผนที่ภาพนี้แล้วอาจจะยังแอบงงกัน เห็นแต่หน้าตาของเกาะแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของโลก เดี๋ยวไปดูภาพถัดไปกันครับ ...
ซูมออกมาให้เห็นตำแหน่งที่ตั้งกันสักหน่อย จาก Google Maps
มองไกลๆแล้วเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเป็นเกาะน้อยๆในอ่าวไทยนี่เองครับ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเวียดนาม แต่ดูจากในแผนที่แล้วจะอยู่ใต้กัมพูชาลงไปนิดนึง
ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ใน Wikipedia เลยครับ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้ก็คือว่า ... คุณภรรยาเค้าอยากไปเที่ยวทะเล ไปอาบแดดในที่ต่างแดน อะไรประมาณนั้นครับ ไม่ได้มีแพลนที่ชัดเจนว่าอยากไปไหน
ซึ่งตอนแรกเลยเนี่ยเค้าเสนอความคิดมาว่าอยากไป "บาหลี" ก่อนครับ
แต่ช่วงนั้นผมเองก็เอียนบาหลี อินโดนีเซีย สุดๆเลยเหมือนกัน คือเห็นมีคนไปเที่ยวมาเยอะจากโพสต์ต่างๆผ่านทั้ง Facebook และ Instagram รวมถึงมีคนพูดถึงตลอดในช่วงนั้น (ไตรมาสสุดท้ายปลายปี 2019)
ผมก็เลยเสนอเกาะฟูก๊วกไป เพราะว่าไม่ชอบไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเจอคนไทยในต่างแดนเยอะๆ (รู้สึกวุ่นวายแล้วจะสัมผัสไม่ถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นนั้นจริงๆ)
อีกอย่างคืออยากไปสำรวจสถานทีท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง หรือเป็นกระแสด้วยแหละครับ ได้ความรู้สึกว่าเป็นนักผจญภัยดีนะ 😄 ว่างั้นมั้ยครับ?
ตัวอย่างการค้นหาผ่าน Google ด้วยคีย์เวิร์ด Phu Quoc
อย่างที่เห็นในรูปเลยครับ ... จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยมีคนไทยพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สักเท่าไรนัก ผมเลยคิดว่าอย่ารอเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง (อันใดพี่เอย 😜) ไปลุยกันให้รู้แล้วรู้รอดกันเลยดีกว่า
จุดประสงค์ของการไปเที่ยวที่นี่ ครั้งนี้ก็คือ "ชิล" ฉะนั้นก็เลยกำหนดจำนวนวันที่จะไปเป็นชาวเกาะกันแบบพอดีๆอยู่ที่ 5 วัน 4 คืน นะครับ
หลังจากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka โดยขาไปเนี่ยต้องไปต่อเครื่องรอบนึง ซึ่งผมได้สายการบิน AirAsia จากดอนเมืองไปโฮจิมินห์ และสายการบิน VietJet จากโฮจิมินห์ไปเกาะฟูก๊วก
ส่วนขากลับผมได้เที่ยวบินตรงจากเกาะฟูก๊วกมาสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Bangkok Airways ครับ 😊 อันนี้ง่ายดี ไม่ต้องมีการต่อเครื่องให้เหนื่อย
แอพเพื่อนรักเลยครับ! เปลี่ยนให้การจองตั๋วเครื่องบินเป็นเรื่องง่ายสุดๆ
สำหรับค่าเครื่องบินที่ผมจองได้อยู่ที่คนละประมาณ 7,000 บาท (รวมทั้งไปและกลับนะครับ)
จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกันเสร็จแล้ว ผมก็ลองหาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวดูว่าในเกาะฟูก๊วกมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่พักด้วย
ตอนแรกอยากได้ที่พักริมหาดมาก แต่แล้ว .. ไปๆมาๆ เลือกที่พักอยู่ในตลาดกลางคืน ตัวเมืองของเกาะซะงั้น 🤣 เน้นไม่อดตายไว้ก่อนดีกว่า ฮ่าๆๆ
ในส่วนของโรงแรมนี้ผมจองผ่าน Agoda ไปครับ เพราะว่าเทียบจากหลายๆเอเจนซี่แล้ว ช่วงนั้นจองผ่าน Agoda ได้ราคาดีสุด ก็เลยจัดทันทีเลย
อีกหนึ่งแอพเพื่อนรักที่ผมมักจะได้ที่พักราคาดีอยู่เสมอ
ผมได้โรงแรม Hotel Phu Quoc Ngoc Viet มาในราคาคืนละประมาณ 300 บาทปลายๆ รวมแล้วจองทั้งหมด 4 คืนก็ประมาณ 1,500 บาท (รวมค่าธรรมเนียมแล้ว)
หน้าตาโอเค พออยู่ได้มั้ยครับ? 😄 ส่องมาจากใน Agoda นี่แหละ
ตอนผมเห็นภาพคือที่นี่เป็นโรมแรม 1 ดาวที่ผมโอเคมากที่สุดในเกาะฟูก๊วกแล้วก็ว่าได้ จากภาพที่ผมส่องมาแล้วทั้งหมด รีวิวต่างๆ และทำเลของโรงแรม ผมแฮปปี้มากครับกับราคานี้
ใครจะไปเที่ยวที่นี่ แล้วอยากประหยัด ผมแนะนำโรงแรมนี้เลยครับ!
นอกจากค่าเที่ยวบิน และที่พักแล้ว สิ่งที่ต้องคำนวณในส่วนถัดมานั่นก็คือค่ากิน, ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันระหว่างท่องเที่ยวพักผ่อนนั่นเอง
เนื่องจากค่าครองชีพที่เวียดนามก็ไม่ได้สูงมากมาย รวมถึงผมและคุณภรรยาก็ไม่ใช่คนซีเรียสเรื่องกินอยู่ขนาดนั้น เลยกำหนดงบจำกัดไว้ที่ 5,000 บาท สำหรับ 5 วัน 4 คืน
อัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้นอยู่ที่ 200 บาท = 150,000 ด่ง (คิดแบบหน่วยย่อยสุดๆก็จะได้ 2 บาท = 1,500 ด่ง) โดยประมาณ
💵 หน้าตาธนบัตรเวียดนามฉบับละ 500,000 ด่ง
สุดท้ายไปแลกเงินที่ Superrich ได้มาทั้งสิ้น 3.5 ล้านด่ง และเงินทอน 300 กว่าบาทครับ (ปกติ Superrich จะให้แลกเงินจำนวนถ้วนๆของสกุลเงินที่ต้องการแลกเป็นหลัก)
รู้สึกรวยขึ้นทันตาเห็น! จับเงินล้านง่ายๆ แค่เปลี่ยนสกุลเงิน 🤣 แต่ค่าครองชีพนี่อีกเรื่องนึงนะครับ แหะๆ
เอาล่ะครับ ... เมื่อเตรียมพร้อมกับเรื่องหลักๆในการท่องโลกเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เก็บกระเป๋าไปลุยกันได้เลย
2 คนกับ 1 กระเป๋าใหญ่ และเป้สะพายหลังอีก 1 ใบ 😊 น้ำหนักรวมไม่เกิน 15 กิโลกรัม
อ้อ.. อย่าลืมพาสปอร์ตด้วยล่ะ! (ส่วนใครที่มีพาสปอร์ตอยู่แล้วแต่เหลือไม่ถึง 6 เดือน แนะนำให้ไปต่ออายุก่อนครับ)
เตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ!
เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อใน Ep ถัดไปนะครับว่า 5 วัน 4 คืนของผมบนเกาะฟูก๊วกจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
เพื่อนๆชาว Blockdit เชิญติดตามไว้ได้เลยครับ 😁 เดี๋ยวผมพาทัวร์เอง!
แล้วพบกันใน Ep ถัดไปครับ
Photography and more ...
- GolFz Journey
โฆษณา