27 ม.ค. 2020 เวลา 11:54 • บันเทิง
เซ็นโงคุแห่งพระพุทธองค์
2
อดีตจอมพลแห่งกองทัพเรือที่ตอนนี้ลาออกจากกองทัพเรือแล้ว แต่ยังสามารถไปไหนมาไหนในกองทัพเรือได้อยู่ เพื่อคอยช่วยฝึกฝนทหารเรือรุ่นใหม่หรือที่เขาเรียกกันว่า จเรแห่งกองทัพเรือครับ
โดยนิสัยของเซ็นโงคุนั้นเป็นคนขยันและเข้มงวดกับตัวเองมาตั้งแต่ตัวเขาเด็กๆแล้ว แต่พอออกจากตำแหน่งจอมพลกองทัพเรือแล้ว เขาก็เป็นเพียงชายชราที่อารมณ์ดีคนนึงเลยทีเดียว 😊
อาจจะเป็นเพราะด้วยเส้นทางที่เขาเลือกเดินในการเป็นทหารเรือนั้น ทำให้เขาต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเองเป็นอย่างมาก
เซ็นโงคุชอบไว้ผมทรงเอฟโฟรทรงเดิมที่เราเห็นๆกัน มาตั้งแต่เขาเด็กๆแล้วเช่นกัน
มีบ้านเกิดอยู่ที่ทะเลเซาท์บลู
เขาทำงานอย่างหนักในการตามไล่ล่าและจัดการเหล่าโจรสลัด ทำให้เขาได้เลื่อนยศไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นพลเรือโท, พลเรือเอกและตำแหน่งจอมพลแห่งกองทัพเรือได้ในที่สุด
โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เขาถูกเลือกให้ขึ้นเป็นจอมพลแห่งกองทัพเรือนั้นก็เพราะ ทักษะในการวางแผนและกลยุทธ์ในการรบของเซ็นโงคุนั้นจัดว่าเข้าขั้นเซียนคนนึงของกองทัพเรือเลยก็ว่าได้
โจรสลัดในอดีตหลายกลุ่มต่อหลายกลุ่มถูกจับได้เพราะการวางกลยุทธ์ในการต่อสู้อันหาตัวจับได้ยากของชายที่ไว้ผมทรงเอฟโฟรคนนี้
ตัวอย่างก็เช่น การวางทัพและกลยุทธ์ในมหาสงครามมารีนฟอร์ดที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว
ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นทางจิตวิทยาในการประกาศเวลาประหารเอสให้เร็วขึ้นเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเสียสมาธิและร้อนรน การปิดพื้นที่ในอ่าวของมารีนฟอร์ดและให้แปซิฟิสต้าตีวงล้อมเข้ามาโจมตี การจัดกระบวนทัพโดยจัดตามความสามารถเด่นๆของแต่ละหน่วยในกองทัพเรือ เพื่อจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการรบ
เขารู้ความลับต่างๆของรัฐบาลโลก เพราะตำแหน่งที่เป็นจอมพลแห่งกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ต้องทำลายโอฮาร่าหรือความจริงเบื้องหลังของตระกูล D
นอกจากความสามารถในการบุ๋นสูงแล้ว การบู๊ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อดีตจอมพลคนนี้มีพละกำลังมหาศาลมาก และยังเป็น 1 ในไม่กี่คนที่ใช้ฮาคิได้ทั้ง 3 แบบ คือฮาคิราชันย์ ฮาคิเกราะและฮาคิสังเกต
เป็นผู้ใช้พลังผลฮิโตะ-ฮิโตะ โมเดลพระพุทธรูปยักษ์ เป็นสายโซอนประเภทสัตว์มายา ซึ่งสามารถแปลงเป็นพระพุทธรูปยักษ์ได้
โดยสามารถโจมตีโดยการปล่อยคลื่นกระแทกที่มีพลังรุนแรงมหาศาลหรือชื่อท่าว่า "ลำแสงพระพุทธองค์" ที่เราเคยเห็นในสงครามมารีนฟอร์ด
เซ็นโงคุเจอกับดองกีโฮเต้ โรซินันเต้หรือโคราซอนเมื่อ 31 ปีก่อนและดูแลโคราซอนเยี่ยงลูกชายแท้ๆคนนึง และให้ทำงานในกองทัพเรือ โดยการไปเป็นสปายในดองกีโฮเต้ แฟมมิลี่
และเรื่องราวหลังจากนั้นก็อย่างที่เราเห็นในช่วงย้อนอีดตของลอว์กับคุณโคราซอน...
เขายกย่องการเสียสละของโรซินันเต้ที่เสียสละเพื่อให้ลอว์มีชีวิตรอดต่อไป ตัวเซ็นโงคุเองสงสัยมาตลอดว่าทำไมหมอนั่นต้องช่วยลอว์ถึงขนาดต้องเอาชีวิตตัวเองไปแลก
จนกระทั่งทั้งลอว์กับเซ็นโงคุได้มีโอกาสคุยกันในเดรสโรซ่าเกี่ยวกับโรซินันเต้
ทำให้เซ็นโงคุรู้ว่าทำไมโรซินันเต้ถึงต้องช่วยลอว์ถึงขนาดนี้
เรื่องราวของลอว์กับโรซินันเต้นั้นมีคำว่า "D" มาเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าลอว์นั้นมี "D" อยู่ในชื่อนั่นเอง มันเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้คุณโคราเริ่มที่จะมีความสนใจในตัวลอว์ มันเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น
ลอว์ก็มีความสงสัยเกี่ยวกับ "D" เช่นกัน จึงถามเซ็นโงคุไปว่ารู้อะไรเกี่ยวกับ "D" บ้างมั้ย เพราะลอว์คิดว่าคุณโคราคงอยากช่วยเขาเพราะเขามี "D" อยู่ในชื่อ
ซึ่งเซ็นโงคุก็รู้ถึงเหตุผลนั้นแต่ก็ตอบกลับลอว์ไปว่า
"โรชินันเต้ไม่ได้ช่วยนายเอาไว้เพราะว่านายเป็น "D" ไม่ต้องไปหาเหตุผลสำหรับความรักที่เขามีให้นายหรอกนะ"
ถ้าดูจากการกระทำของคุณโคราที่ฝ่าน้ำลุยไฟไปทุกหนทุกแห่งเพื่อหาทางรักษาลอว์ให้หายจาก "โรคตะกั่วอำพัน" ให้ได้แล้ว
ทำให้เรารู้ได้เลยว่าคุณโครานั้นไม่ได้เอาชีวิตของเขาไปแลกเพราะลอว์นั้นมีชื่อ D แต่เพราะความรักอันบริสุทธิ์ของคุณโคราที่มีต่อลอว์นั้นมันมากมายจริงๆ
บางทีความรักมันก็ไม่มีเหตุผลอย่างงี้แหละครับ 😊
ใครอยากอ่านฉากที่ลอว์คุยกับเซ็นโงคุ กลับไปอ่านได้ที่มังงะตอนที่ 798 เลยครับ^^
ข้อมูลบางส่วนจาก Vivre Card Databook – Vol. 7
Fanart By : AEKMONGKOLART(ภาพปกจากมังงะวันพีซ ตอนที่ 594)
โฆษณา