[ลงทุนเกิร์ล] จากช่างทำผม สู่เจ้าของแบรนด์ความงาม Aesop Aesop ไม่ได้อ่านว่า อีสป แต่อ่านว่า “เอสอป” เป็นแบรนด์ความงามชื่อดังจากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ไล่ลงมาจนถึงผิว

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

29 ม.ค. 2020 เวลา 11:27

จากช่างทำผม สู่เจ้าของแบรนด์ความงาม Aesop

Aesop ไม่ได้อ่านว่า อีสป แต่อ่านว่า “เอสอป”

เป็นแบรนด์ความงามชื่อดังจากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

ซึ่งมีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ไล่ลงมาจนถึงผิว

Aesop ก่อตั้งโดยตุณ Dennis Paphitis ในปี 1987

คุณ Paphitis มีอาชีพเป็นช่างทำผม เปิดร้านทำผมชื่อ Armadale

นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมออกมาขายภายใต้แบรนด์ Aesop

Aesop ถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ชูเรื่องการนำสารสกัดจากพืชมาใช้เป็นส่วนผสมหลัก

โดยอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Aesop โดดเด่นออกมาจากแบรนด์อื่นเลยก็คือ บรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะเหมือนขวดยา แปะฉลากเรียบง่าย มีประโยคสร้างแรงบันดาลใจ

เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงคอนเซ็ปต์การออกแบบของแบรนด์เท่านั้น

แต่ขวดสีชา มีส่วนช่วยปกป้องวิตามินในครีมบำรุงจากแสง

ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Aesop ยังรักษาคุณสมบัติเอาไว้ได้

และด้วยจุดนี้เองที่กลายเป็นจุดขายของแบรนด์

Aesop จึงกลายเป็นที่กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงประสบการณ์ที่ได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์

โดยไม่ต้องเน้นการโฆษณารูปแบบเดิมๆ หรือการลดแลกแจกแถม เพื่อทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก

ด้วยคุณภาพสินค้าและเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้ไม่นานหลังจากวางจำหน่าย

Aesop ก็กลายเป็นแบรนด์ความงามที่มียอดขายและยอดส่งออกอันดับต้นๆ ของออสเตรเลีย

ต่อมาในปี 2012 เครือเครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สัญชาติบราซิล Natura & Co.

ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ The Body Shop, AVON และ Natura

ได้เข้าซื้อหุ้นของ Aesop สัดส่วน 65% ด้วยมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย คิดเป็นเงินไทยกว่า 2 พันล้านบาท

ก่อน Natura & Co. จะเข้าถือหุ้น Aesop ทั้งหมดในปี 2016

แล้วผลประกอบการของ Aesop เป็นอย่างไร?

ปี 2017

รายได้ 5,211 ล้านบาท

กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าตัดจำหน่าย 819 ล้านบาท

ปี 2018

รายได้ 7,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51%

กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีและค่าตัดจำหน่าย 1,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47%

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า Aesop เติบโตสูงมาก

ซึ่งปัจจุบันมีจุดจำหน่ายใน 25 ประเทศรวมถึงประเทศไทย

และยังมีแผนที่จะขยายเพิ่มเรื่อยๆ

อ่านมาถึงตรงนี้ Aesop ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

ด้วยการต่อยอดจากสิ่งที่ตัวเองถนัดของคุณ Paphitis

รวมถึงการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ จนเป็นที่จดจำ

ซึ่งก็ตรงกับประโยคที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ Aesop

“อย่าพยายามเป็นคนอื่น แต่เป็นตัวเราในให้สมบูรณ์แบบที่สุด”

References: Aesop, รายงานประจำปี Natura & Co.

โฆษณา