30 ม.ค. 2020 เวลา 14:33 • ปรัชญา
บนโลกนี้มันทั้งกว้างและแคบมาก...
มากจนทำให้รู้สึกเคว้ง
บ่อยครั้งที่ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่ว่า
"ตื่นมาอีกแล้วหรอ?"
"ต้องใช้ชีวิตวนเวียนนี้ต่อแล้วใช่ไหม?"
เมื่อไหร่จะจบ?
ไม่ได้หมายถึงตายนะ
เพราะสำหรับฉันความตายมันไม่ใช่จุดจบ
มันเป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่ของอีกความทุกข์หนึ่งก็แค่นั้น
และสำหรับฉัน ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือตาย
มันก็ยังคือการวนเวียนในความทุกข์อยู่ดี
ไม่รู้หรอกว่าทุกข์อะไร มันแค่รู้สึกถึงทุกข์ก็แค่นั้น
แล้วความทุกข์นั่น มันบีบคั้นทุกครั้งที่ฉันมีสติ
ฉันเบื่อหน่ายกับความรู้สึกทั้งหมดที่มากระทบ
ฉันรำคาญทุกสภาวะอารมณ์
เลยเลือกที่จะหลงไปกับสิ่งต่างๆเพื่อให้ลืมๆมันไป
แต่ก็นะ เมื่อหลงมากๆ ฟุ้งซ่านมากๆ ความเศร้าโศกในใจที่ไม่รู้มาจากไหน ไม่มีสาเหตุ ก็ถาโถมเข้ามาใส่
เหมือนพยายามปลุกให้ฉันตื่น
"เฮ้ย ตื่นมาทุกข์ต่อเดี๋ยวนี้!"
อะไรทำนองนั้น
ก็อย่างที่บอกแหละ
มันแค่ความรู้สึกทุกข์อยู่ลึกๆในหัวใจ
ทุกข์โดยไม่รู้ว่าทุกข์อะไร
แต่ก็นะ ฉันกลับพอใจที่ได้เห็นทุกข์
ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดฆ่าตัวตาย จากความทุกข์ใจทางโลกแบบที่หลายๆคนเจอกันนั่นแหละ
แต่พอฉันได้ฟังธรรมจากหลวงพ่อองค์หนึ่ง
ท่านชื่อ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช
ท่านเป็นพระสอนกรรมฐาน สอนให้คนดูจิต ดูกายแล้วแต่จริตของแต่ละคน
มีทุกข์ เห็นทุกข์ มองเข้าไปตรงๆ อย่าคร่ำครวญ
และตั้งแต่นั้น ฉันก็มองความทุกข์ต่างออกไปจากเดิม
มองโลกในมุมของคนที่ตื่นแล้ว
ตื่นจากความหลง ความโง่ และความเชื่อผิดๆ
แต่ยังติดอยู่กับโลก ติดอยู่กับความหลง และติดอยู่กับความโง่อยู่ดี
ฉันไม่กล้าพูดว่าฉันคือลูกศิษย์หลวงพ่อท่านหรอกนะ เพราะฉันยังขี้ขลาดเกินกว่าจะเป็นได้
เอาเป็นว่าที่อยากมาแชร์ในวันนี้ คือใครที่รู้สึกว่าโลกมันทุกข์โลกมันโหดร้ายกับคุณเกินจะทนแล้ว
หรือใครที่มีใจเปิดกว้างมากพอจะรับฟังอะไรใหม่ๆได้
ฉันอยากให้คุณลองฟังหลวงพ่อท่านเทศน์ดูนะ
ฟังรอบเดียวไม่เข้าใจ เปิดใจอีกนิด ฟังรอบสองรอบสาม
กล้าพูดเลยว่า มุมมองต่อสิ่งต่างๆของคุณมันจะแตกต่างไปจากเดิม
เหมือนปลุกคนที่นอนหลับฝันร้ายให้ตื่นขึ้นมาพบกับความจริงในเช้าวันใหม่ที่สดใส
และแน่นอนว่าโลกที่มีแต่ทุกข์มันดีกว่าที่คิด
โฆษณา