เปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิต (Mortality Rate) จากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั้งสามสายพันธุ์ MERS SARS และ 2019-nCoV
เมื่อไม่กี่วันก่อนจำนวนผู้ติดเชื้อจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2019-nCoV ได้ทำลายสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อ SARS ซึ่งเคยระบาดในปี ค.ศ. 2002-03 ทั้งนี้ SARS เริ่มระบาดครั้งแรกในเมืองกว้างตุ้ง ประเทศจีน
- ณ ตอนนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อ SARS จนกระทั่งหยุดระบาดมีจำนวนประมาณ 8096 ราย
- มีผู้เสียชีวิต 774 ราย
- หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต (Mortality Rate) ประมาณ 9.56% หรือ ทุก ๆ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ 10 ราย อาจมีโอกาสเสียชีวิตประมาณ 1 ราย
แต่อัตราการเสียชีวิตก็ไม่น่ากลัวเท่า MERS ซึ่งเคยระบาดในปี ค.ศ. 2012
- ซึ่งมีผู้ติดเชื้อประมาณ 2494 ราย
- เสียชีวิต 858 ราย
- อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 34.40% ซึ่งสูงมาก
ณ ช่วงเวลานั้น MERS ได้แพร่ระบาดอย่างหนักในโลกตะวันออกกลาง พบการติดเชื้อได้ทุกกลุ่มอายุ แพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่อาศัยภายในบ้านเดียวกัน หลังจากติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจะล้มเหลวเฉียบพลันภายใน 1 สัปดาห์ ต่างจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2019-nCoV ที่มีระยะเวลาฟักตัว 2 สัปดาห์ นั่นทำให้การแพร่ระบาดของ 2019-nCoV กระจายเป็นวงกว้างกว่าเมื่อเทียบกับ MERS SARS
หรืออาจกล่าวได้ว่าเชื้อรุนแรงจะมีอัตราการแพร่ระบาดต่ำกว่าเชื้อที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ระยะฟักตัวนานทำให้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ บนโลกได้ไกลมากขึ้นด้วย
ถึงแม้ 2019-nCoV จะมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ MERS และ SARS แต่ใครจะรู้ว่าหากเชื้อกลายพันธุ์ไปอีกขั้น การรับมือคงทำได้ยากขึ้น
หวังเพียงว่านักวิจัยที่กำลังพัฒนาวัคซีนอยู่นี้ คงเตรียมการได้ทันก่อนที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์
เรียบเรียงโดย Einstein@min
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
