2 ก.พ. 2020 เวลา 10:04 • ข่าว
ข่าวด่วน!!! หมอไทยสุดยอด! "รพ.ราชวิถี" ค้นพบสูตรยาต้านไวรัสโคโรน่าสำเร็จที่แรกของโลก!
- วิธีการให้การรักษาโดย ให้ "ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่" ร่วมกับ "ยาต้านไวรัสเอดส์" ในผู้ป่วยชาวจีนอาการโคม่า พบว่าดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง !
โดยรายชื่อทีมแพทย์มีดังนี้
1. นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช อายุรแพทรย์โรคปอด นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี
2. รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ รพ.ราชวิถี
ข้อความจากทีมแพทย์
นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช
1. "ผู้ป่วยชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น อายุ 70 กว่าปี ประวัติมีโรคประจำตัวเป็นความดัน แต่จากที่ตรวจเข้าใจว่ามีหัวใจโตด้วย ตอนรับคนไข้เข้ามาอาการหนักมาก มีภาวะปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด และค่าการอักเสบในเลือดเพิ่มขึ้นทุกวัน จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงรีบให้ยารักษาโดยเร็ว ปรากฏว่าภายในไม่ถึง 12 ชั่วโมง จากคนไข้ที่ดูอ่อนเพลีย ลุกไม่ได้ กลับมาลุกนั่งได้และไข้ลดลง"
2. เบื้องต้นศึกษาจากข้อมูลรายงานการรักษาที่ได้ผล คือ ยาต้านไวรัส HIV แต่เมื่อคนไข้ที่มีอาการหนักได้รับยานี้จากรพ.แรกไปแล้วเป็นเวลา 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น แย่ลงเรื่อย ๆ จึงใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่โอเซลทามิเวียร์ โดยใช้ในขนาดที่สูงเพราะคนไข้มีอาการหนัก ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ายาตัวนี้ใช้ได้ผลในการรักษาโรคเมอร์ส ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มโคโรน่าเช่นเดียวกัน จึงตัดสินใจให้ยาทั้ง 2 ตัว แล้วคอยติดตามอาการคนไข้ทุกวัน โดยให้ยาตั้งแต่วันแรกที่รับเข้ารักษาที่รพ.ราชวิถี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2563
1
ขอบคุณภาพจาก https://www.bangkokbiznews.com
3. สัดส่วนการให้ยาทั้ง 2 กลุ่ม โดยยาต้านไวรัสเอชไอวีที่เป็นยาสูตรผสมโลพินาเวียร์ + ลิโทนาเวียร์ ในเม็ดเดียวกัน ให้ครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น ร่วมกับการให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่โอเซลทามิเวียร์ 75 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 เม็ด เช้า-เย็น
4. มีอีกหนึ่งรายที่รักษาตามสูตรยานี้ ซึ่งเป็นคนไทย อายุ 33 ปี มีอาการปอดอัดเสบ แต่ติดเชื้อและมีอาการที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่มีประวัติสัมผัสคนจีน โดยหลังจากได้รับยาสสูตรนี้แล้ว อาการดีขึ้นมาก แต่ยังไม่อยากเปิดเผยเพราะต้องรอให้ผลแล็บตรวจเชื้อระบุเป็นลบก่อน
รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี
กล่าวว่า "วิธีการรักษาในประเทศต่างๆนั้น ทางการจีนและประเทศอื่นมีการรายงานออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือของแพทย์ทั่วโลกจะทำการพัฒนาการรรักษาร่วมกัน โดยไทยจะเป็นประเทศหนึ่งร่วมช่วยกัน"
สถานการณ์และอาการคนไข้ปัจจุบันเป็นอย่างไร ?
1. "คนไข้" ยังไม่ได้หาย แต่อาการดีขึ้นอย่าง "ชัดเจน"
2. ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่าในห้องแล็บก่อนหน้านี้ 10 กว่าวันเป็นบวกมาตลอด
3. หลังจากได้สูตรยาปรากฏว่าผลตรวจเชื้อเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง
** ผลการตรวจยืนยันจากห้องแล็บของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ **
เพิ่มเติม
- แนวโน้มการรักษาด้วยสูตรยานี้ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น แต่ยังต้องรอผลการศึกษาที่ยืนยันว่าวิธีนี้เป็นมาตรฐานการรักษา ซึ่งในจีนที่แนะนำการรักษาก่อนหน้านี้ คือใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างเดียว ไม่ได้ให้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่โอเซลทามิเวียร์
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/Daily-World-Update-1939191182998958
อัพเดตข่าวในภาพรวม
1. ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ายอดติดเชื้อรวม 14,628 ราย เสียชีวิต 305 ราย รักษาหายแล้ว 345 ราย
2.สถานการณ์ในไทย มีผู้ป่วยติดเชื้อ 19 ราย หายป่วยแล้ว 8 ราย และนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 11 ราย
3.นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการรายงานกรณีศึกษาการรักษาผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยใช้รักษาวิธีนี้ 3 ราย แต่ 1 รายแพ้ยาโอเซลทามิเวียร์จึงหยุดการให้ยาที่แพ้ ส่วนอีก 2 ราย เมื่อได้รับสูตรยานี้ก็อาการดีขึ้น
4. หลักแนวทางในการรักษา ยึดจากมาตรฐานรายงานทั่วโลก โดยเฉพาะของจีน แต่แพทย์รพ.ราชวิถีได้เพิ่มการให้ยาโอเซลทามิเวียร์ด้วย
5. ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 จะมีการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทย จะมีการนำวิธีการรักษาเช่นนี้เข้าหารือและพิจารณาร่วมกัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา