3 ก.พ. 2020 เวลา 02:30 • ธุรกิจ
ลงทุนอะไรดีที่ได้ผลตอบแทนเยอะๆ? หลายคนคงเคยมีคำถามนี้ผุดขึ้นมาแน่นอน บางคนอาจจะทราบคำตอบอยู่แล้ว แต่ใครที่ยังไม่ทราบผมบอกได้เลยครับว่ามันคือการลงทุนใน"หุ้น"
การลงทุนในหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า 10% เลยนะครับ แต่ก่อนที่จะลงทุนได้ก็ต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นกันก่อน
วันนี้ Easy Invest จึงอยากแชร์เทคนิคในการเลือกเปิดบัญชีหุ้นให้ครับ ว่าเราควรพิจารณาอะไรกันบ้าง ทั้งนี้บริษัทที่เราไปเปิดบัญชีด้วยเรียกว่าโบรคเกอร์ หรือเรียกสั้นๆว่าโบรคนะครับ
1.ค่าธรรมเนียม : แน่นอนว่าแต่ละโบรคนั้นคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งค่าธรรมเนียมมาตรฐานที่ส่วนใหญ่คิดกันคือ 0.15% ของมูลค่าซื้อขายของเรา ในกรณีที่เราส่งคำสั่งเองผ่านมือถือ/แอพ และ 0.25% สำหรับการให้มาร์เก็ตติ้งส่งคำสั่งให้
ปัจจุบันหลายที่ก็โปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียม บางที่ถึงกับฟรีค่าธรรมเนียม แต่ยังมีบางที่ที่ยังคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาทต่อวันอยู่ ซึ่งผมไม่แนะนำให้มือใหม่ไปใช้บริการกับเจ้าที่มีขั้นต่ำนะครับ เนื่องจากบางทีเราอาจจะเสียค่าธรรมเนียมที่แพงเกินไป
ดังนั้นสำหรับมือใหม่ Easy Invest จึงแนะนำให้เลือกที่ที่มีค่าธรรมเนียมมาตรฐานไว้ก่อนครับ สาเหตุที่ไม่แนะนำให้เลือกฟรีค่าธรรเนียมเพราะเค้าจะไม่ค่อยมีบริการอะไรให้กับเราเลยหนะสิครับ หรือถ้ามีก็อาจจะมีน้อย
ค่าธรรมเนียมมาตรฐาน(มือใหม่แนะนำให้ดูช่องบัญชีแคชบาลานซ์ครับ)
2.เครื่องมือที่ช่วยนักลงทุน : ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่ทำให้เราซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเทรด หรือโปรแกรมสำหรับดูข้อมูลหุ้นต่างๆ ยิ่งมีบริการเยอะเท่าไรก็ยิ่งดีกับเรามากเท่านั้น
เคยมีวันนึงที่แอพ Streaming (แอพที่ซื้อขายหุ้น) ล่ม ทำให้เพื่อนผมไม่สามารถเข้าไปขายหุ้นได้ทัน ทำให้ขาดทุนเป็นจำนวนมาก แต่โบรคของผมมีแอพอื่นให้ใช้บริการ อย่าง Stockradars และ Efin Trade ก็ทำให้ผมนั้นเข้าไปขายได้ทันก่อนที่มันลงหนักครับ
3.ผู้แนะนำการลงทุน(มาร์) : หน้าที่คือเป็นคนให้คำปรึกษาแก่นักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้นว่าจะซื้อตัวไหนดี ที่ราคาเท่าไร เรื่องการนำเงินเข้า-ออกจากพอร์ต รวมถึงมาร์ยังสามารถส่งคำสั่งซื้อขายแทนเราได้ด้วย
เทคนิคการเลือกมาร์ ผมแนะนำว่าให้ไปเดินดูตามงานมหกรรมการเงินต่างๆ เช่น Money Expo , Set in the city ลองเข้าไปพูดคุยและขอช่องทางการติดต่อ ง่ายสุดคือทางไลน์ หลังจากนั้นลองพูดคุยกับเค้าดูระยะหนึ่ง ถ้าเราคิดว่าเค้าสามารถแนะนำเราได้ดี มีความรู้ ก็สามารถเปิดพอร์ตกับเค้าได้เลยครับ
ภาพบรรยากาศงาน Set in the city (ภาพจาก Ad Addict)
4.บทวิเคราะห์ : แต่ละโบรคจะมีทีม Research เป็นของตัวเอง ซึ่งทีมนี้จะเป็นผู้วิเคราะห์ภาพรวมตลาดทั้งหมด วิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวให้กับเรา รวมถึงให้คำแนะนำในการซื้อขายด้วย
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบอ่านบทวิเคราะห์อยู่แค่ไม่กี่โบรคหรอกครับ คือของบล.หยวนต้า และ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เพราะรู้สึกว่าหุ้นที่เค้าวิเคราะห์ค่อนข้างแม่นยำและถูกต้อง แต่ผมขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าเราอย่าเพิ่งเชื่อบทวิเคราะห์ 100% จนกว่าเราจะนำมาวิเคราะห์เองอีกครั้ง
อ่านมาถึงตรงนี้มือใหม่หลายๆคนคงเริ่มเข้าใจวิธีการเลือกโบรคเกอร์กันแล้วนะครับ ขั้นตอนต่อไปคือการไปเปิดบัญชีนั้นเอง
วิธีการเปิดบัญชีง่ายๆเลยครับ คือเปิดออนไลน์ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของโบรคนั้นๆแล้วเปิดได้เลยครับ หรืออีกวิธีที่ผมแนะนำ เปิดบัญชีตามงานมหกรรมการเงินต่างๆ หรืองานสัมมนาฟรีที่โบรคเกอร์จัดขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสพบกับมาร์เก็ตติ้งและสอบถามข้อมูลได้โดยตรงเลยครับ
หากใครมีบัญชีเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตามบทความถัดๆไปของ Easy Invest ที่จะมาให้เทคนิคต่างๆในการเล่นหุ้นนะครับ อย่าลืมกด Follow กันด้วยนะครับ
โฆษณา