3 ก.พ. 2020 เวลา 15:09 • บันเทิง
ให้หนังพาไป...(หาเพลง)
That thing you do! (1996)
ยินดีต้อนรับสู่ซีรีส์ชุดใหม่ของเพจหนังหลายมิติ
นั่นก็คือ แท่น แทน แท๊น ... " หนังหลายมิติจำแลง "
ซีรีส์ชุดนี้จะเป็นการนำหนังมาจับคู่กับเพจที่ผมติดตามอยู่
เนื้อหาในบทความยังเป็นการพูดถึงหนังอยู่เช่นเดิม...แต่มีการปรับสไตล์การเขียนให้เข้ากับเพจนั้นๆที่ยกมา ซึ่งผมรู้ดีว่าต่อให้ทำยังไงก็คงไม่เหมือน...แต่ผมจะลองดันทุรังดู เผื่อจะได้แนวทางใหม่ๆในการเขียนบทความ
หนังที่จะพูดถึงในบทความคงไม่ได้อัดแน่นเหมือนที่ผ่านมา จะเน้นไปที่การแนะนำหนังมากกว่า อยากเขียนบทความแบบสบายๆบ้างครับ...คงไม่บ่อย คงสลับกับบทความแบบปกติของเพจ
ยังไงก็ฝากติดตามซีรีส์ชุดนี้ด้วยนะครับ
ขอประเดิมep.แรกด้วยบทความชื่อ " ให้หนังพาไป...(หาเพลง) "
ในความเห็นส่วนตัวของผม....
ผมถือว่าเพลงที่มีเนื้อร้อง ก็คือบทความรูปแบบหนึ่ง
เพราะหากแยกออกมาเฉพาะเนื้อเพลง เราจะพบว่าเนื้อเพลงเหล่านี้ก็คล้ายกับบทความที่มีการใส่ทำนองเข้าไป
บทความในรูปแบบเพลงมีความโดดเด่นด้านอารมณ์เป็นอย่างมาก
มันคือส่วนผสมของความไพเราะทางภาษา ท่วงทำนองและจินตนาการ
ด้วยความโดดเด่นนี้....ทำให้เพลงเข้ามามีบทบาทในหนัง
หนังจำต้องมีเพลงเข้ามาประกอบเพื่อขับอารมณ์ให้เข้มข้นขึ้น แต่ก็มีบางครั้ง ที่หนังถูกสร้างมาเพื่อขับอารมณ์ให้เพลง...
หนังที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ก็เช่นกัน
เป็นหนังที่ผมมองว่าสร้างมาเพื่อทำให้เพลงโดดเด่น
ทุกเรื่องราวในหนัง ดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับเพลง
เมื่อได้ดูหนัง ก็จะคิดถึงเพลง
และเมื่อกลับไปฟังเพลง...เราจะคิดถึงหนัง
(มีไม่กี่เรื่องหรอกครับ...ที่ทำแบบนี้ได้)
ย้อนกลับไปในปี1996 ขณะที่ผมอายุได้ 15 ปี
(กรุณาอย่านับอายุปัจจุบันของผู้เขียน)
มีหนังเรื่องหนึ่งที่พูดถึงวงดนตรีในยุค 60 (เป็นวงที่ไม่มีอยู่จริง แต่ได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจากวง the beatles) หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า " That thing you do!(ฝันให้เป็นดาว) "
ในตอนนั้นผมประทับใจหนังเรื่องนี้มาก ถึงขนาดเก็บเงินซื้อเทปเพลงประกอบหนังมาฟังต่อที่บ้าน (สมัยนั้นเทปม้วนหนึ่งราคาเกือบร้อย)
That thing you do! (1996)
คือหนังเรื่องแรกของทอม แฮงค์ที่เขาทั้งเขียนบท กำกับ และร่วมแสดง
เป็นเรื่องของวงดนตรี" oneders"ที่กำลังฟอร์มทีมเพื่อประกวดดนตรี
แต่เจ้ากรรม....เมื่อมือกลองของวงดันมาแขนหักก่อนการประกวดเพียงไม่กี่วัน ทำให้สมาชิกในวงต้องหามือกลองคนใหม่เข้ามาแทน
นั่นทำให้พวกเขาก็ได้พบกับกาย แพทเตอร์สัน (Guy Patterson)หนุ่มมือกลองผู้คลั่งไคล้ดนตรีแจ็ส
การมาของแพทเตอร์สัน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงวันเดอร์ ด้วยความที่เขาเป็นมือกลองที่มีเซนส์ทางดนตรีสูงมากๆ เรื่องราวหลังจากนั้นของวง" oneders"จึงเปลี่ยนไป
มันเริ่มต้นจากวันประกวดดนตรีนั่นล่ะ...
อยู่ดีๆแพทเตอร์สันซึ่งเป็นมือกลองและเป็นคนคุมจังหวะของเพลงดันทะลึ่งไปเร่งจังหวะเพลง That thing you do!
เพื่อนในวงก็ดูจะเหวอกันเล็กน้อย เพราะไม่ได้ซ้อมกันไว้แบบนี้ แต่เมื่อลองปรับจังหวะ และเล่นต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาก็พบว่าเพลง That thing you do!ทำให้ทุกคนในงานลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างสนุกสนาน
แพทเตอร์สันได้เปลี่ยนเพลง That thing you do!จากเพลงป๊อปให้กลายเป็นเพลงร็อคแอนด์โรล...
พวกเขาเริ่มมีชื่อเสียงจากเพลงนี้ รวมถึงมีกลุ่มแฟนคลับที่เรียกร้องให้พวกเขาทำแผ่นเสียงออกขาย และคนในวงก็บ้าจี้...ทำแผ่นออกมาขายจริงๆ
นั่นเป็นโอกาสให้วงวันเดอร์ได้รับการทาบทามจากค่ายเพลงแห่งหนึ่ง
จากเดิมที่พวกเขาคิดจะเล่นดนตรีกันสนุกๆเพื่อหารายได้นิดๆหน่อยๆ
กลายเป็นว่าตอนนี้กำลังจะได้เป็นวงมืออาชีพในสังกัดของเพลย์โทน เร็คคอร์ด (Playtone Records)
มีการเปลี่ยนชื่อวงนิดหน่อยเพื่อให้แฟนเพลงเรียกได้ง่ายขึ้น ชื่อ(วัน-เดอร์) " oneders" ที่มักจะถูกเรียกผิดเป็น " นีโอเดอร์ "
จึงถูกเปลี่ยนเป็น เดอะวอนเดอร์ " The Wonders "
จากจุดเริ่มต้นนี้ ทำให้กาย แพทเตอร์สัน ได้รู้จักกับเพื่อนๆในวงมากขึ้น
และทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า การทำวงดนตรีนั้น...ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นี่คือหนังที่มีครบรสไม่ว่าจะเป็น คอมมาดี้ ดราม่า และโรแมนติค แม้ว่าตัวหนังไม่ได้มุ่งไปที่อารมณ์ใดแบบชัดเจน...แต่เมื่อดูจบแล้วจะพบว่าทุกอย่างที่ใส่มานั้นลงตัวเป็นอย่างมาก
หนังสนุก อาหารอร่อย(ซื้อมากินระหว่างดูเอาเอง อยากกินอะไรก็ซื้อมา) ดนตรีไพเราะ ที่สำคัญนางเอกของเรื่องนี้(ลิฟ ไทเลอร์ )น่ารักมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ยิ้มที...ละลายเลย
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยดูหนังหรือฟังเพลงประกอบของเรื่องนี้มาก่อน
ผมขอแนะนำ 3 เพลงโปรดที่ผมคัดมามาให้ทุกคนฟัง
ถ้าฟังแล้วชอบ..แนะนำให้ตามไปฟังในหนังต่อ....จะได้อารมณ์มาก แล้วคุณจะหลงรัก นางเอก...เอ้ยไม่ใช่!!!! หลงรักหนังเรื่องนี้เหมือนผม
เตรียมหูฟังของท่านให้เรียบร้อย...แล้วไปดื่มด่ำกับเพลงประกอบของหนังเรื่องนี้กันได้เลยครับ
1. " All My Only Dreams "
🎵 " If I could only have one wish You'd be the girl whose lips I'd kiss All my only dreams"🎶
ความปราถนาเพียงอย่างเดียวของฉัน คือการได้ประทับรอยจูบบนริมฝีปากคุณ นั่นล่ะ...ความฝันทั้งหมดของฉัน
2. " My world is Over "
"🎶Your love is gone so for me my world is over"🎶
เมื่อรักของคุณจบลง...โลกของฉันก็จบลงด้วยเช่นกัน
3. " That thing you do "
🎵 " And I try and try to forget you girl
But it's just so hard to do
Everytime you do that thing you do"🎶
ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะลืมคุณ แต่มันช่างยากยิ่งนัก
ภาพประกอบจาก : https://www.imdb.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา