4 ก.พ. 2020 เวลา 07:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องเล่าจากห้วงมหาสมุทรแปซิฟิกอันแสนลึกลับ!!???
หากออกไปยังอวกาศแล้วหันมองกลับมายังโลก สิ่งแรก ที่เราจะมองเห็นได้ก็คือมหาสมุทรแปซิฟิกนี่หละ
มหาสมุทรแปซิฟิกนั้นนับว่าเป็นที่สุดในแทบทุกๆ ด้านทั้งกว้างใหญ่ที่สุดและลึกที่สุด มีปริมาณน้ำราวครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำทั้งหมดบนโลก
มีเกาะและหมู่เกาะมากมาวกว่า 25,000 เกาะกระจายอยู่เหนือน้้ำและจมอยู่ใต้นํ้า เป็นดินแดนเวิ้งว้างกว้างใหญ่ที่มนุษย์เราใช้เวลาศึกษามาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายร้อยปีเลย
โลกอีกใบที่ยังไม่พบจุดสิ้นสุด!!???
มหาสมุทรแปซิฟิกนั้นลึกล้ำเหลือกำหนดแค่ไหน วัดได้จากความลึกของ " ร่องลึกมหาสมุทรมาเรียนา (Mariana Trench) " ซึ่งเกิดจากการที่แผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นมุดเข้าหากัน จนกลายเป็นรอยแยกใต้มหาสมุทรทอดตัวเป็นแนวยาวกว่า 2,500 กิโลเมตร!! กว้างถึง 69 กิโลเมตร!! จุดที่ลึกที่สุดเรียกว่า " แชลเลนเจอร์ ดีป (Challenger Deep) " ซึ่งมีความลึก 11 กิโลเมตร ลึกแค่ไหนลองนึกภาพว่าถ้านำยอดเขาเอเวอเรสต์หย่อนลงไป ส่วนปลายของยอดเขาก็จะโผล่พ้นออกมาจากรอยแยกแค่ประมาณ 1.6 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
ภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ตั้งอยู่ลึกลงไป 2 กิโลเมตรใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ชื่อว่า " ทามู แมสซีฟ (Tamu Massif) " มีขนาด 310,000 ตารางกิโลเมตร เทียบเท่าภูเขาไฟ " โอลิมปัสมอนส์ (Olympus Mons) " บนดาวอังคาร ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ และเชื่อกันว่ายังมีภูเขาไฟขนาดใหญ่ยักษ์อีกมากซ่อนตัวอยู่ใต้มหาสมุทร อย่าลืมว่านี่เป็นเพียง 5% ที่เราเข้าถึงจากพื้นที่ทั้งหมดของมหาสมุทรทั้งหมดเท่านั้นเอง
เสียงปริศนาใต้ห้วงทะเลลึก!!!????
The Bloop ถูกค้นพบในฤดูร้อนปี 1997 องค์กรสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้จับคลื่นเสียงความถี่ที่ต่ำมาก บริเวณเส้นศูนย์สูตรของโลก ในมหาสมุทรแปซิฟิก
เสียงดังกล่าวดังอยู่นานราวหนึ่งนาที แต่มีรัศมีคลื่นสัญญาณกระจายวงกว้างเป็นระยะทางไกลกว่า 5,000 กิโลเมตร จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ว่า ต้นกำเนิดเสียงที่ส่งไปได้ไกลขนาดนั้นจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าปลาวาฬสีน้ำเงินที่หลายเท่าตัว ไม่ก็อาจเป็นเสียงที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของภูเขาน้ำแข็ง แต่หลายคนก็แย้งขึ้นว่าภูเขาน้ำแข็งไม่น่าเกิดขึ้นในฤดูร้อนได้ เถียงกันไปเถียงกันมาเป็นสิบปี พฤศจิกายน 2012 ปริศนาทุกอย่างก็กระจ่างว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นเสียงของธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกานั่นแหละ เหตุที่หลายคนเชื่อ และ ‘อยากเชื่อ’ ว่ามันอาจจะมีสัตว์ประหลาดตัวยักษ์อย่างในตำนานก็เพราะมหาสมุทรเป็นเหมือนมิติลี้ลับที่เรายังไม่รู้จักดี จึงกลายเป็นพื้นที่สำหรับให้จินตนาการโลดแล่นได้อย่างไม่รู้จบ
โฆษณา