“ม้าม” เป็นธาตุดิน กลัวความเย็นมากที่สุด หาก ม้ามทำหน้าที่ส่งอาหารและม้ามให้กับร่างกายและยังให้ควบคุมเลือดอยู่ในเส้นเลือด“ม้าม” ส่งอาหารและน้ำไม่ดีทำให้ม้ามชื้น มีไขมันสะสมที่ท้อง เกิดคอเลสเตอรอลสูง หรือไขมันไปพอกที่ตับ
ม้ามชื้นคืออะไร?
การที่ร่างกายเรามีไขมัน คอเรสเตอรอล เสมหะ ซีสต์ เนื้องอก สะสมอยู่ข้างใน รวมเรียกว่า“เสมหะ” เกิดจากรับประทานอาหารเย็น ของหวานและของมัน อาทิ ไอศรีม น้ำแข็ง น้ำเย็น อาหารที่มีฤทธิ์เย็น ของหวาน ของมันๆ รวมถึงถูกความเย็นกระทบบริเวณท้อง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานบกพร่อง จนอาจกระทบถึงระบบม้ามทำให้ม้ามชื้นได้ ม้ามชื้นน้ำในร่างกายก็ไม่เดินทำให้คั่งทำให้เกิดเสมหะ ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน แบ่งเสมหะออกเป็น2แบบ คือ เสมหะที่มองเห็น และเสมหะที่มองไม่เห็น เสมหะที่มองเห็นจะสัมผัสได้เช่นเสมหะที่ออกยากปอด
เสหมะที่มองไม่เห็น หรืออีกความหมายหนึ่งเป็นเสมหะหรือของเหลวเหนียวที่เกาะอยู่ในอวัยวะข้างใน ถ้าไปเกาะที่มดลูกนานๆ ชนิดนี้จะกลายเป็นซีสต์ หรือเนื้องอก ถ้า “เสมหะ” ไปเกาะที่ตับ นานๆ ไปจะเปลี่ยนเป็นไขมันเกาะตับ หรือมะเร็งต่างๆ เส้นเลือดในสมองตับ ไขมันสูง โรคอ้วน เหล่านี้ จะเรียกว่าเสหมะที่มองไม่เห็น
ม้ามอ่อนแอ มีผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อของร่างกาย จะเกิดอาการคั่งของน้ำ เสมหะอุดตัน บวมน้ำ และนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดหน้า “หน้าท้องป่อง” ในบางรายจะมีอาการปวดตามข้อ แขนขาหนัก ไม่มีแรง ใบหน้าหมองคล้ำ ปวดท้อง รู้สึกเหมือนมีลมในท้อง หากอาการหนักและสะสมเป็นระยะเวลานาน อาจจะเกิดโรคท้องมานขึ้นได้
ม้ามอ่อนแอ หรือพร่อง หมอจีนดูลิ้น ซึ่งวิธีสังเกตม้ามชื้นลิ้นจะใหญ่ มีรอยฟัน มีอาการกัดลิ้นของตัวเอง และฝ้าบนลิ้นมีสีขาวหนา แสดงว่าม้ามชื้น ทั้งนี้ลิ้นปกติต้องไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป
สำหรับอาหารที่แนะนำให้คนเป็นม้ามชื้นรับประทานเป็น ลูกเดือยไม่ขัดสี
การรักษาม้ามชื้นอาจจะดูแลได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นค่อนข้างเยอะแนะนำปรึกษาหมอดีกว่า การรักษาได้ด้วยการฝังเข็มและทานยาจีนบำรุง
เขียนโดย พจ ดร เยาวเกียรติ เยาวพันธุ์กุล