ความเสียสละกับความเห็นแก่ตัว
สังคมทุกวันนี้คนเราเริ่มที่จะมีความเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ขาดจิตสำนึกต่อสังคม กระทำต่อตนเองเพื่อให้เกิดความสุขแต่เอาความสุขที่ตนได้รับไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น โดยไม่ได้สนใจว่าเขาเหล่านั้นจะได้รับผิดกระทบจากเรามากน้อยเพียงใด
ความคิดที่แล่นอยู่ในหัวที่ว่าทำไมคนเราในสังคมถึงกล้าที่จะทำอะไรอันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่คนที่ทำทั้งที่จริงแล้วมันไม่ควรด้วยซ้ำ เพราะสถานที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ใครจะมาทิ้งขยะกันได้ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นแต่อย่างน้อยควรรู้จักคำว่าละอายใจ
การรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติถือว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เราทุกคนควรนำกลับไปคิด และพากันอนุรักษ์ไว้ เพราะตอนนี้โลกเริ่มที่จะเปลี่ยนไปมาก หันกลับมาทำร้ายมนุษย์แล้ว ก็เพราะความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
จริงอยู่ที่ธรรมชาติถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้สอยทรัพยากรนั้น ซึ่งมันไม่ผิดแต่ที่ผิดคือเราไม่เพียงแค่ใช้แต่เรากับทำลายธรรมชาติไปด้วย การทิ้งขยะ การปล่อยน้ำเสีย การสร้างมลพิษทางอากาศ ที่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนธรรมชาติเองไม่สามารถที่จะช่วยมนุษย์ได้
การเสียสละเรื่องที่หลายคนบอกว่าไร้สาระ ไม่มีความสำคัญ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำ มันเป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมเราทำคนเดียวไม่ได้ โดยบอกว่าต้องให้เจ้าหน้าที่มาดูแล มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หน้าที่ของทุกคนในชุมชน หน้าที่ของรัฐบาลต้องรับผิดชอบ
ประโยคที่ว่าเราทำไม่ได้เป็นแค่การปฏิเสธทั้งที่เราทำได้ ทุกคนสามารถช่วยได้ในการรักษาธรรมชาติ การเริ่มที่ตัวเราด้วยการไม่ทิ้งขยะที่เป็นพิษลงในน้ำ ในป่าไม้ ง่ายแค่นี้เอง แค่เราเสียสละทิ้งขยะให้ถูกที่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากสำหรับคนๆ หนึ่งจะทำได้
ความเห็นแก่ตัวของแต่ละคนจะแตกต่างกัน มีมากน้อยไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยควรที่จะมีจิตสำนึกในการสร้างความดีเสียสละต่อสังคม ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครเข้ามาช่วยเพียงแค่เราเริ่มทำแล้วสิ่งที่ดีๆ จะตามมาเอง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ก็เพราะน้ำมือของมนุษย์ ไฟป่าออสเตรเลีย, ฝุ่น PM. 2.5 , ไวรัสโคโรน่า อู่ฮั่น, ภัยแล้ง, น้ำปะปาเค็ม, น้ำท่วมอินโดนีเซีย, ภูเขาไฟทะลุ ที่ฟิลิปปินส์, หิมะถล่ม แคชเมียร์, แผ่นดินไหว ตุรกี, ฝูงตั๊กแตน แอฟริกา, ไข้ลาสซา ไนจีเรีย, น้ำท่วม บราซิล, และอีกอื่นๆ ในเฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมี 3-4 เหตุการณ์ที่เราเองสามารถช่วยได้ เช่น การบริจาคช่วยเหลือไฟป่าที่ออสเตรเลีย, โครงการปลูกป่าเพื่อลดฝุ่น PM. 2.5 ในอากาศ, การประหยัดน้ำ และปลูกต้นไม้เพื่อลดโลกร้อน ไม่ให้เกิดภัยแล้ง ที่ส่งผลให้ปะปาเค็ม, การบริจาคสิ่งของที่สามารถช่วยได้ในการช่วยเหลือคนที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น เป็นต้น
ผมเองได้ตระหนักถึงสิ่งนี้จึงเริ่มปลูกต้นไม้ด้วยการเข้าร่วมโครงการปลูกป่าในเนื้อที่ 15 ไร่ โดยได้ขอต้นกล้าจากสวนเพาะพันธุ์กล้าไม้จากพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 1000 ต้น แบ่งเป็นไม้สักทอง 100 ต้น, ไม้ประดู่ 150 ต้น ,ไม้ยางนา 100 ต้น, ไม้มะค่า 150 ต้น, ไม้พยูง 400 ต้น, ไม้ตะเคียนทอง 50 ต้น และไม้ไผ่ 50 ต้น
ตอนนี้ตามร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ในที่ต่าง เริ่มที่จะปรับภูมิทัศให้ดูดีด้วยการหาต้นไม้ ไม้ประดับนำมาตกแต่งเพื่อให้เกิดความร่มรื่น ให้ความเย็นสบายช่วยดึงดูดลูกค้า สำหรับผมเองตลาดที่มีค่ามหาศาลคงหนีไม่พ้นเกี่ยวกับทรัพยากรทางธรรมชาติแน่นอน
ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นพื้นที่ๆ อุดมสมบูรณ์สามารถปลูกข้าวได้ตลอดทั้งปีจะได้ประโยชน์มากมาย เมื่อภัยแล้งมา ผู้ที่จัดการด้านอาหารได้สามารถต่อรองทางเศรษฐกิจได้ เพราะเหตุนี้เครือโภคภัณฑ์จึงลงทุนทางด้านอาหาร การเกษตร เพราะเขามองการณ์ไกลในอนาคต
ผู้ที่ครอบครองทรัพยากรทางธรรมชาติที่เป็นทั้งยาและอาหารจะได้เปรียบในอนาคต ประเทศไทยเองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงรู้ดีว่าประเทศไทยมีแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกจึงเน้นให้ประชาชนทำเกษตร และสร้างรายได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ดังนั้น เราควรตระหนักว่าโลกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนได้ดำรงอาศัย แต่ไม่ควรที่จะทำลายด้วยความเห็นแก่ตัว ทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติด้วยผลประโยชน์ทางวัตถุ จนลืมที่จะรักษา หรือนำมาทดแทน ถ้าวันหนึ่งอาหารและน้ำมีราคาแพงกว่าทองคำ การสูดดมอากาศดีๆ ที่บริสุทธิ์ก็ต้องไปซื้อเขา มันเป็นสิ่งที่เราต้องคิดว่าจะเสียสละในตอนนี้ หรือเห็นแก่ตัวตอนนี้แล้วอนาคตค่อยหาเงินไว้เยอะๆ เพื่อซื้อเขากิน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ... ฝากกด like และกด share ด้วยนะครับ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
