Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คิดจากเพลง
•
ติดตาม
5 ก.พ. 2020 เวลา 09:38 • บันเทิง
Ed Sheeran - Lego House
ความสัมพันธ์ที่พังลงก็แค่เริ่มใหม่?
ความรักคือการให้?
Lego House เป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้ม + (Plus) ซึ่งเป็นอัลบั้มเปิดตัวแรกที่ Ed ทำกับ สตูดิโอ โดยปล่อยมันออกสู่สาธารณะเมื่อปี 2011
เนื้อเพลงของ Lego House เป็นการกล่าวถึงความสัมพันธ์ โดยการอุปมาว่าความสัมพันธ์นั้นเหมือนกับบ้านตัวต่อเลโก้
5
คือคุณใช้เวลานานในการต่อมันที่ละชิ้นจนเป็นหลังแต่สามารถพังมันในเพียงเวลาไม่กี่วินาทีเพียงคุณโยนมันลงสู่พื้น ซึ่งเหมือนกับความสัมพันธ์ มันใช้เวลานานมากในการสร้าง แต่มันก็สามารถแหลกสลายได้ในพริบตา
และนอกจาก Ed จะใช้คำอุปมานี้เพื่ออธิบายถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ เขายังคิดว่าความสัมพันธ์ยังเหมือนกับบ้านตัวต่อเลโก้ในแง่ที่ ถ้าคุณเห็นว่าความสัมพันธ์นั้นเริ่มดูไม่ดีหรือว่าความสัมพันธ์นั้นพังลง คุณก็ยังสามารถต่อมันขึ้นมาใหม่ได้เสมอ
บ้านตัวต่อเลโก้ (Lego House)
I'm gonna pick up the pieces
And build a LEGO house
If things go wrong, we can knock it down
ท่อนแรกของเพลงเป็นการกล่าวถึง การเริ่มสร้างความสัมพันธ์โดยการต่อตัวต่อทีละชิ้น ซึ่งถ้ามีอะไรผิดพลาดเราก็แค่พังมันและเริ่มใหม่
My three words have two meanings
There’s one thing on my mind
It’s all for you
ท่อนนี้เป็นการเล่นคำกับตัวเลขที่สวยงาม Three words, Two meaning, one thing และ fo(u)r you (3, 2, 1 และ 4)
โดยคำว่า คำสามคำนั้นมีสองความหมาย (My three words have two meanings) เป็นการบอกเป็นนัยยะให้สามารถตีความได้หลายรูปแบบ
แต่จากที่ผู้เขียนตีความจะได้ว่า คำสามคำคือคำว่า"ฉันรักเธอ" สามารถหมายความได้ว่าฉันรักเธอที่พูดเพื่อแสดงว่าเป็นผู้ให้ที่พร้อมจะมอบทุกอย่างให้
กับคำว่าฉันรักเธอที่พูดเพื่อแสดงว่าฉันอยากจะได้รับความรักตอบ
แต่สำหรับเขา ฉันรักคุณคือการให้ทั้งหมดแก่คุณเท่านั้น
And it’s dark in a cold December
But I’ve got you to keep me warm
ในความมืดและหนาวของเดือนธันวาคมฉันก็ได้เธอที่มาทำให้ฉันอบอุ่น
And if you’re broken
I’ll mend you
And keep you sheltered from the storm that’s raging on now
และถ้าเธอรู้สึกไม่ดีฉันจะเยียวยาเธอและป้องกันเธอจากพายุ
โดย Ed ได้เปรียบเปรยความสัมพันธ์หรือความรู้สึกกับสภาพอากาศหรือฤดูต่าง ๆ ที่มีทั้งความหนาวเหน็บ อบอุ่น หรือพายุ รวมถึงประโยคที่บอกว่าป้องกันเธอจากพายุ นั้นหมายถึงการปกป้องด้วยบ้านตัวต่อหรือว่าก็คือความสัมพันธ์ที่เขาสร้างมา
I’m out of touch, I’m out of love
I’ll pick you up when you’re getting down
And out of all these things I’ve done
I think I love you better now
I’m out of sight, I’m out of mind
I’ll do it all for you in time
And out of all these things I’ve done
I think I love you better now
ฉันไม่เคยอยู่ในสายตา ไม่เคยได้รับการห่วงใย
แต่ทุกสิ่งที่ฉันทำลงไป
ฉันคิดว่าฉันรักเธอมากขึ้นแล้ว
ฉันไม่รับการสานสัมพันธ์ ฉันไม่ได้รับความรัก
แต่ฉันจะซ่อมมันถ้ามันพังลง
และจำทุกสิ่งที่ทำไป
ฉันคิดว่าฉันรักเธอมากขึ้นแล้ว
ท่อนคอรัสนี้ค่อนข้างเศร้านะครับ การที่บอกเล่าความรักของเขาว่าคำว่าฉันรักคุณคือการให้ทั้งหมดแก่คุณเท่านั้น แม้ว่าทุกสิ่งที่ทำลงไปจะไม่ได้รับอะไรตอบกลับมาเลย
ภาพจาก Official M/V ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฝ่ายเดียวที่ตัวเอกของ M/V มีให้แก่ Ed Sheeran โดยที่ Ed ไม่แม้แต่รู้สึกถึงตัวตนของเขาด้วยซ้ำ
I'm gonna paint you by numbers
And colour you in
If things go right we can frame it
And put you on a wall
And it's so hard to say it
But I've been here before
Now I'll surrender up my heart
And swap it for yours
ฉันจะทาสีเป็นรูปเธอตามตัวเลข
และถ้ามันออกมาดูดี ฉันจะใส่กรอบมันและแขวนไว้ที่ผนัง
มันยากที่จะพูดออกไป แต่ฉันเคยอยู่ตรงนี้มาก่อน
ตอนนี้ฉันจะยอมหัวใจของฉัน และแลกมันกับของคุณ
Paint by numbers เป็นงานศิลป์ประเภทหนึ่งที่ใช้วิธีการลงสีบนกระดาษตามตัวเลขที่เขียนไว้ ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างมากแต่ไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ โดยนัยยะที่จะบอกของเพลงคือเขาจะใช้ความอดทนทำลงไปเพื่อความสัมพันธ์นี้อย่างไม่คิดอะไร และหวังว่ามันจะออกมาดีสำหรับทั้งคู่
ตัวอย่างภาพสำหรับทำ Paint by numbers
เพลงนี้เป็นเพลงที่ให้ข้อคิดกับหลายคนในมุมที่แตกต่างกันตามประสบกาณ์ของแต่ละคนครับ มันจึงทำให้แต่ละคนที่ฟังได้รับความรู้สึกที่ต่างกัน
อย่างในตัวของเนื้อเพลงที่บอกว่าความสัมพันธ์เหมือน Lego House ถ้ามันเริ่มจะดูไม่ดี ก็แค่ล้มมันลง แล้วเริ่มต่อมันใหม่ แต่สำรับบางคนอาจจะมองว่าความสัมพันธ์ที่พังลงไปแล้วต่อยังไงก็ไม่เหมือนเดิม
อย่างในตัว M/V เองที่ตัวเอกคิดว่าความรักคือการให้ แต่พอเมื่อถึงเวลาที่เขาให้ไปแล้วไม่เคยได้รับอะไรกลับมา เขาก็เริ่มคิดว่าเขาต่อตัวต่อผิดและเริ่มที่จะพังทุกอย่างที่ทำมาทิ้งไป
ซึ่งพอช่วงใกล้จบเพลงก็จะเป็นการวนกลับไปท่อนคอรัส ซึ่งจากความหมายของท่อนคอรัส ยิ่งฟังก็ยิ่งให้ความรู้สึกว่า ถึงแม่ว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมลงไป เข้าก็ยังคงไม่อยู่ในสายตา ไม่ได้รับความรักอยู่เหมือนเดิม
M/V ทิ้งไว้เป็นปลายเปิดเหมือนข้อคิดที่ได้จากเพลงคือเวลาเกือบทั้ง M/V แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการต่อตัวต่อของความสัมพันธ์ และใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการจบลงที่ตัวเอกคิดว่าความสัมพันธ์ของเขามันผิดทางและเริ่มพังมัน และไม่ได้เล่าต่อว่าตัวเอกของ M/V คิดจะทำอย่างไรต่อไป
ความรักเหมือนกับตัวต่อที่พอมันดูไปไม่รอดก็แค่พังมันแล้วเริ่มต่อใหม่หรือเราควรทิ้งมันไปแล้วไปเริ่มต่อบ้านหลังใหม่?
ความรักคือการให้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับกลับมา?
แต่ละคนคงมีคำตอบในใจ
ก็จบแล้วนะครับสำหรับการคิดจากเพลง
ของเพลง Lego House – Ed Sheeran
ถ้าใครมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องเพลง มีนิยามที่แตกต่างไป
หรือมีประสบการณ์ในสถานการณ์ใกล้เคียงกับเพลงนี้ ก็มาพิมพ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันที่ช่องคอมเม้นด้านล่างนะครับ
จะได้เป็นแนวความคิดให้คนอื่น ๆ นำไปต่อยอด หรือเอาไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ที่พบเจอ หรือแนะนำเพลงอะไรที่ให้ข้อคิดดี ๆ ที่คุณอยากให้เรานำมาแชร์ก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณครับ และฝากกดติดตามและกดไลค์ให้กำลังใจด้วยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
บันทึก
20
9
4
20
9
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย