Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Ordinarility
•
ติดตาม
8 ก.พ. 2020 เวลา 00:30 • ปรัชญา
6 ถ้อยคำกระตุ้นตื่น
6 Waking Up Sentences
6 ถ้อยคำนี้เป็น Ep.1 ของซีรีส์ เพราะเป็นถ้อยคำที่ทำให้คนที่ใกล้จะเบ่งบานแล้ว พิจารณาตามก็สามารถเห็นจิตของตัวเองได้โดยไม่ต้องอธิบาย
แต่ถ้าใครที่พิจารณาตามถ้อยคำแล้วยังไม่สามารถเห็นจิตของตัวเองได้ก็ไม่ต้องท้อ ตามอ่านคำอธิบายและ Ep. อื่นๆกันต่อไป
เมื่อตามอ่าน Ep. อื่นไปได้สักระยะ เข้าใจมากขึ้นแล้ว แนะนำให้กลับมาอ่าน 6 ถ้อยคำนี้ใหม่เรื่อยๆ อาจจะเห็นผลเร็วขึ้น
ถ้อยคำแต่ละถ้อยคำนี้ ใช้ในการทำสมาธิได้
นำไปพิจาณาขณะอยู่ในสมาธิอาจจะทำให้เจอกับจิตเดิมแท้ของตัวเองได้
1. ธรรมะเกิดที่ปัจจุบันขณะ
The Truth Born Out Of The Present
เพียงแค่เรามองให้เห็นปัจจุบันให้ทัน
จริงๆแล้ว ธรรมะหรือเนื้อธรรมนั้นมันเป็นไปตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่เราไม่ว่างพอ (too busy) ที่จะมองให้ทันเห็นปัจจุบันแค่นั้น ตราบใดที่เรายังมองไม่ทันเห็น ธรรมะก็เหมือนกับว่ายังไม่เกิด แต่พอเห็นแล้ว มันก็อยู่ตรงนั้นเสมอ ไม่เคยไปไหน
2. จิตกับปัจจุบันอยู่ที่เดียวกัน
ผู้ใดพบปัจจุบัน ผู้นั้นพบจิต
True Mind is in the same place of the present
หากคราวที่แล้วใครลองพยายามเข้าถึงปัจจุบันตามถ้อยคำที่ 1 ได้จะเข้าใจถ้อยคำของคราวนี้
ใครเห็นแล้วคนนั้นจะเข้าใจเอง
ความพยายามที่จะอธิบายมีแต่จะพาให้คุณไกลห่างมันออกไปกว่าเดิม
3. จิตรู้ความดับของธรรมที่ปัจจุบันขณะ
The Conscious Mind knows the Ending state of the observation
ธรรมเป็นแค่เจตสิก
สิ่งที่เราเห็นเพียงผิวเผินเป็นแค่เจตสิก
เราแค่ไปลูบคลำเปลือกหัวหอม
ของแท้มันยังอยู่ข้างใน
แต่ก็ให้รู้ตอนที่มันหายไป
4. ดูเนื้อธรรมที่ปัจจุบันขณะ
Focus the observation of the change in the precious present
เนื้อธรรมไม่ใช่ความคิด
เนื้อธรรมคือความรู้สึก
ถ้าจะชี้เฉพาะให้เห็นชัดๆ ตรงนี้คือเวทนานุปัสนาสติปัฏฐาน
ดูความรู้สึกที่เรากำลังรับรู้อยู่ที่ปัจจุบันขณะ
5. ธรรมที่ปัจจุบันขณะคือธรรมที่เดียวกันกับจิต
The Changing state at the Observation is the same at the True Mind
สิ่งที่เรากำลังรับรู้อยู่ที่ "ปัจจุบันขณะ" เกิดที่จิต
เรารู้แต่สิ่งที่เรารับรู้แต่เราไม่เคยเห็นตัวจิต
ง่ายๆคือเรารู้แต่เวทนาที่กำลังดู แต่ลืมไปว่าจิตนั้นแหล่ะที่กำลังรับรู้เวทนานั้นอยู่
ดังนั้นตัวจิตจะถูกเราสังเกตเห็นได้เมื่อเรากำลังดูเนื้อธรรมที่ปัจจุบันขณะ
ตรงนี้เป็นจิตตานุปัสนาสติปัฏฐาน
6. จิต ปรากฏ ณ ขณะแห่งความดับของธรรม
The True Mind appears with the focused observation gone
คุณติดตามมาตั้งแต่ถ้อยคำที่ 1
ทำความรู้สึกตามถ้อยคำทุกคำ
เมื่อคุณสังเกตปัจจุบันขณะมาถึงตรงนี้แล้ว คุณจะเห็นความรู้สึกอะไรบางอย่างที่คุณยังไม่ได้เอาความคิดที่เป็นคำพูดไปกำกับใส่ไว้ให้ความรู้สึกนั้นๆ
สิ่งที่คุณเห็นนั้นคือเนื้อธรรม
มันเป็นธรรมเพราะมันคือธรรมชาติของความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น ดำเนินอยู่ และเปลี่ยนแปลง ภายในความสำนึกรู้ของคุณ
นั่นเป็นสิ่งรู้ของจิต
ขณะที่คุณกำลังรู้ "สิ่งรู้"
คุณเลยไม่เห็น "จิต"
แต่คุณจะเห็นธรรมะที่สิ่งรู้ของจิตแสดงให้เห็น
นั่นคือ "ความเปลี่ยนแปลง"
ที่มันเปลี่ยนแปลง เพราะมัน "ทนอยู่ไม่ได้"
นั่นคือทุกข์อริยสัจ
เมื่อถึงที่สุดแห่งความทนอยู่ไม่ได้ มันก็เปลี่ยนสเตท (state)
คุณจะเห็นความดับไปของสิ่งรู้นั้น
นั่นคือ ความดับของธรรม
ซึ่งก็คือนิโรธ
สิ่งรู้ของจิต คือ "ของในห้อง"
จิต ก็คือ "ห้อง"
ถ้อยคำที่ 6 จิต ปรากฏ ณ ขณะแห่งความดับของธรรม หมายถึง
ขณะที่ที่คุณสนใจ "ของในห้อง"
คุณเลยไม่เห็น "ห้อง"
เพราะห้องห้องนี้ไม่มีขอบเขต
ซึ่งก็คือ "ที่ว่าง"
นั่นคือ จิตเดิมแท้สภาวะประภัสสร
เมื่อ "ของในห้อง" หายไป
"ห้อง" จะปรากฏ
ดังนั้น
ณ ขณะที่ "สิ่งรู้ของจิต" หายไป
"จิต" จะปรากฏ
คำว่าปรากฏคือจริงๆแล้วมันไม่เคยหายไปไหน เพียงแต่คุณไม่เคยสังเกตเห็น
เพราะปกติคุณจะสังเกตเห็นทันเฉพาะตอนที่มัน "รู้ไปแล้ว" กับ "หลงไปแล้ว"
ดังนั้นหากคุณเฝ้าดูเนื้อธรรมที่ปัจจุบันขณะ คุณจะมีโอกาสได้เห็นจิตของตัวเองถ้าคุณสังเกตทันตอนที่จิตรู้ความดับของธรรม ก่อนที่มันจะไปรู้สิ่งอื่นต่อไป
ที่บางคนฝึกดูจิตมานาน จริงๆแล้วอาจไม่เคยเห็นจิตเดิมในสภาวะประภัสสรเลย เพียงแค่เห็นสิ่งรู้ของจิตและตัวเนื้อธรรมเท่านั้น
ซึ่งก็คือเจตสิกเท่านั้น แค่เปลือกหัวหอม
ความอัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อคุณเห็นห้องว่างพิเศษไร้ขอบเขตที่บรรจุได้ตั้งแต่สิ่งที่เล็กยิ่งกว่าหัวเข็มหมุดไปจนถึงสิ่งใหญ่กว่าจักรวาล ที่เรียกว่า "จิต"
6 ถ้อยคำที่ทำให้คุณได้เห็นจิตตัวเองนี้
จริงๆแล้ว
ไม่ต้องเรียงลำดับ
สำหรับใครที่สเตทใกล้มากๆแล้ว อ่านเพียงถ้อยคำใดถ้อยคำหนึ่งก็สามารถเห็นจิตตัวเองได้
แต่ Ordinarility เรียงไว้เป็นลำดับเพื่อคนที่ยังไม่เคยเห็นจิตตัวเอง
ขอให้โชคดี
ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง
หมายเหตุ
จริงๆแล้วนิโรธมันละเอียดกว่าแค่ความดับ มันจึงไม่ใช่ความดับ เพราะมันเป็นคนละสิ่ง เหมือนกับที่ นม ไม่ใช่ เนย เพราะความละเอียดไม่เท่ากัน แต่ก็มาจากต้นทางเดียวกัน ดังนั้นให้เข้าใจว่าเป็นความดับไปก่อน
บทความถัดไป
blockdit.com
Ordinarility
ธรรมะที่เรารู้ เป็นตัวขวางกั้นเราเองจากความจริง (บทความนี้ต่อเนื่องจากบทความเรื่อง #ถ้อยคำที่ 6 ครับ)
1 บันทึก
9
8
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ธรรมะสำหรับผู้ไม่รู้ (ผู้รู้จึงไม่ควรเข้ามาอ่าน)
1
9
8
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย