เล่าให้ฟังเฉยๆ (เหงาไม่มีอะไรทำ เลยจะเขียนอะไรให้อ่านเล่นๆละกัน😀😀😀)
เนื่องจากเป็นวันหยุดของผมเองเมื่อตอนวันพุธกันวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นานๆจะได้เข้าดูหนังในโรงสักที เลยจัดไปวันละเรื่องตามที่เขียนรีวิวไป
เรื่องแรกกับวันแรก
1917
เรื่องนี้หมายมั่นปั้นมือที่อยากจะดูมาก เตรียมตัวดูโปรแกรมไว้ (ดูในเน็ตนะ)ตอนแรกจะดูโรงประจำ คือ SF ตอนดูทีแรกอ่ะไม่มีหนังเรื่องนี้ในโปรแกรมก็รู้สึกเฟลๆแล้ว พอข้ามมาอีกวันลองเข้าดูใหม่อีกที ปรากฏว่าเจอแฮะ ก็เลยกะว่าเดี๋ยวจะไปซื้อตั๋วหน้าโรงเลยละกัน วันพุธด้วย ตั๋วหนังลดราคา ไปกันสามคน เรารับอาสาไปซื้อตัว พอไปถึงก็ไปยืนดูใบปิดหนังหน้าโรง ยืนส่องอยู่สักพัก ไม่มีหนังเรื่อง 1917 อ่าว ไหงเป็นงั้นคิดในใจ ตกลงไม่มีฉายใช่ไหมหนังเรื่องนี้ ตกลงยังไง ก็เลยไปยืนดูจอที่มันรันเวลารอบฉายของแต่ละเรื่อง ก็ไม่มีอีก (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเรายืนดูแป๊บเดียว แล้วโปรแกรมยังไม่รันขึ้นให้เห็นหรือเปล่า) พอไม่เห็นก็เลยเดินดูใบปิดหนังที่เป็นกระดาษ A4 เล็กๆ ปรากฎว่ามี อ้าว อะไรว่ะเนี่ย ตกลงมีหรือไม่มีว่ะ5555
พอเห็นดังนั้นก็เลยไปถามพนักงานขายตั๋วที่สแตนบายรอจิ้มจอทัชสกรีนเวลาเราเลือกรอบหนังเลือกที่นั่ง
พนง: สวัสดีค่าา ดูเรื่องอะไรคะ
ผมเอง: 1917 ครับ (จากนั้นน้อง พนง. ก็เอาไปนิ้วไปจิ้มที่จอ
เลื่อนๆขึ้นก็เจอเรื่องนี้ อ่าว ก็มีนี่หว่า คิดในใจอีกแล้ว)
พนง: ลูกค้าจะดูรอบไหนคะ
ผมเอง: รอบเที่ยงครับ (น่าจะเป็นรอบแรกของหนังเรื่องนี้)
พนง: คุณลูกค้าค่ะ เรื่องนี้เป็นซาวด์แทรคนะคะ
(ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับหนังซาวด์แทรค ปกติถ้าไปคนเดียวแล้วมีซาวด์แทรคให้เลือก ก็จะดูซาวด์แทรคอยู่แล้วแต่ไม่ได้มาดูคนเดียวไง กลัวคนอื่นเขาไม่สะดวก แต่ด้วยความอยากดูมากก็บอกไม่เป็นไร จัดมาเลยน้อง ตั๋วสามใบ บังคับดูเลย555 พอเลือกที่นั่งเสร็จปุ๊บ ก็ถามน้องละกันที่ยืนสงสัยยืนงงอยู่ตอนแรก)
ผมเอง: น้องครับ ทำไมหนังเรื่องนี้ไม่มีใบปิดให้ลูกค้าได้เห็นละครับ?
พนง: อ๋อ หนังเรื่องนี้ไม่มีใบปิดมาให้ค่ะ เรื่องอื่นมีหมด ยกเว้นเรื่องนี้
ผมเอง: *คิดในใจ ห๊ะ!??มีงี้ด้วยเหรอ สมมติว่าใครก็ตามจะมาดูหนังแบบไม่วางแผนมา คือมาแบบเลือกดูที่หน้าโรงเลยเรื่องนี้ก็หมดสิทธิ์ขายสิ อ่ะๆๆไม่มีก็ไม่มี
(ในความคิดผมคือหนังเขาออกจะดี กระแสชื่นชมก็เยอะ รางวัลที่หนังได้ก่อนเข้าฉายในบ้านเราเขาก็ได้ แต่ทำไมปฎิบัติกับหนังเรื่องนี้เหมือนลูกเมียน้อยเลย มันน่าน้อยใจ ผมไม่ได้เวอร์ไปนะ555)
อ่ะ จบเรื่องตอนหน้าโรง ทีนี้ก็เป็นตอนหนังฉายในโรงบ้าง อันนี้ก็มีกรณีที่ทำให้เสียความรู้สึกและก็เหวอไปบ้างเหมือนกัน
หนังเริ่มฉายตัวอย่าง โฆษณา โน่นนี่นั่น ทุกอย่างเพอร์เฟค เสียงดิจิตอลเซอร์ราว อลังการมาก ยิ่งตอนอิซูซุซาวด์เชคเนี่ยแหม่ กระหึ่มมาทุกทิศทางเลย เสร็จปุ๊บ หนังก็เริ่มฉายจ้า ภาพสวยมาก แต่ก็เริ่มรู้สึกมีอะไรแปลกๆ คือเวลาตอนตัวละครมันคุยกันทำไมไม่มีเสียงหว่า เสียงบรรยากาศ เสียงทุกอย่างมีหมด แต่เสียงคนพูดไม่มี เอ๊ะ หรือว่า หนังเขาเล่นกับคนดู? หนังใบ้รึ? ก็ไม่น่าจะใช่ ดูไปสักพักผ่านไปเกือบๆสิบนาทีก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แระ ฉันจะดูหนังที่ไม่ได้ยินเสียงพูดแบบนี้ไม่ได้!! ดีนะที่มีซับขึ้นข้างล่างให้ดู ยังพอได้รู้เรื่องบ้าง ก็หันไปหันมา กระซิบถามกัน เอาไงดี ในโรงคนดูก็น้อย ไอ้ครั้นจะตะโกนถามคนฉายหนังข้างบนก็ไม่กล้า จะตะโกนถามเพื่อนร่วมชะตากรรมในโรงที่มีอันน้อยนิดว่าพี่ๆเราเอาไงดีพี่ก็ไม่กล้า 555 มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดมาก จนกระทั่งหนังผ่านไปเกือบๆยี่สิบนาที (อันนี้ไม่แน่ใจนะ ในสถานการณ์นั้นรู้สึกว่ามันนานมาก หนังมันเดินเรื่องไปเรื่อยๆ) นั่นแหละครับ กว่าทางโรงหนังจะรู้ตัวว่าเสียงมีปัญหาหนังก็ไปไกลแล้ว เสียงหนังดับๆไปสองสามครั้ง เหมือนกำลังแก้ไขเรื่องระบบเสียงอยู่ แล้วก็กลับปกติ เห้อออ
เห้อออ จบไปสำหรับหนังเรื่องแรกของวันแรก
หนังเรื่องที่สองกับวันที่สอง
The Gentleman
สำหรับวันนี้ไปกันสามคนเหมือนกับวันแรกเพียงแต่วันนี้แยกกันดู ความคิดเห็นไม่ตรงกัน555 แล้ววันนี้ก็เปลี่ยนสถานที่เป็นที่ เมเจอร์ สองคนเขาไปดู ยิปมัน กัน ส่วนผมอยากดูเรื่องนี้มาก ก็แยกกันไปเลือกรอบหนังใกล้ๆกัน เพื่อที่ตอนหนังจบจะได้ไม่ต้องรอกันนาน ได้รอบหนังฉายห่างกันครึ่งชั่วโมง ผมเข้าช้ากว่า
ก็ไปเลือกที่นั่งเลย ระหว่างที่จ่ายค่าตั๋ว แล้วก็มีน้องพนักงานหญิงมาพูดกับเรา รบกวนช่วยกดไลค์เพจของเมเจอร์ให้ด้วยได้ไหมค่ะ อ่อออ นี่หรือที่เห็นในพันทิปบ่นๆกัน ว่าพนักงานของโรงหนังเอาโทรศัพท์ของลูกค้าไปกดไลค์เพจ แต่ที่นี่ไม่ได้เอาโทรศัพท์เราไปกดเองนะ แค่ขอความกรุณาปรานีจากลูกค้ากดให้ด้วย อ่ะๆๆได้ๆๆ ไม่เป็นไรๆ กดให้แล้วนะจ๊ะ
จนมาถึงไฮไลต์สำคัญของวันนี้ จริงๆแล้วก็สงสัยเรื่องแบบนี้เหมือนกันนะครับ ใครรู้ก็ชี้แจงที คือสงสัยเฉยๆ เล่าต่อละกัน
หลังจากซื้อตั๋วหนังเสร็จ ก็นั่งรอจนถึงเวลาฉาย เราก็เดินเข้าไปแล้วก็ยื่นตั๋วให้น้องพนักงานผู้ชายหน้าทางเข้า น้องพนักงานก็ถามเราเลย
พนง: พี่ครับๆ พี่สะดวกที่จะดูหนังรอบนี้ไหมครับ เรื่องนี้ในโรงมีพี่คนเดียวนะครับ
ผมเอง: ห๊ะ!? อะไรนะ?? คนเดียวเหรอ?
พนง: ใช่ครับพี่
ผมเอง:อ้าว แล้วตอนพี่จิ้มเลือกที่นั่ง ก็เห็นมีที่นั่งที่โดนจิ้มไปก่อนแล้วนี่ (จำได้ว่าสี่ที่นั่งติดกันเลย)
พนง: อ๋อ ไม่ใช่ครับพี่ อันนี้คือเขากันที่นั่งให้ทางสตาฟอ่ะครับ(อันนี้ก็อยากรู้เหตุผลนะ ว่าทำแบบนี้ทำไมคือเคยรู้แต่ลืม555)
ก็ยืนงงแป๊บนึง ยังไงดี ก็สงสัยว่าถ้าดูคนเดียวแล้วจะไม่ฉายหรือไงหว่าา ไอ้เราก็ขี้เกรงใจกลัวเขาจะเปลืองไฟหนังทั้งโรงฉายให้กูดูคนเดียว อันนี้คิดในใจอีกแล้ว555 ก็เลยถามไป
ผมเอง: คือทางโรงจะไม่ฉายหรือครับ ถ้าดูคนเดียว
พนง: ไม่ใช่ครับพี่ ฉายอยู่แล้วครับ แต่กลัวลูกค้าจะไม่สะดวกถ้าต้องดูคนเดียวทั้งโรง
ผมเอง: อ๋อ ไม่มีปัญหาครับ (จริงๆแล้วชอบมาก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไฮโซเหมาปิดโรงหนังดูคนเดียว555)
พนง: งั้นเชิญเลยครับพี่
ก็เดินเข้าโรงไป เออหว่ะมีกูคนเดียวคนเดียวจริงด้วยๆเว้ย 555 โรงหนังเป็นของกู5555 (หัวเราะแบบผู้ยิ่งใหญ่ในใจ)
จริงๆประสบการณ์นี้ก็เคยเจอมาแล้ว แต่นานมาก ไม่นึกว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีก ชอบๆๆ555 ครั้นพอหนังฉายแล้วดูไปสักพักก็รู้สึกแปลกๆนะ ดูคนเดียวเนี่ย ระหว่างดูไปก็หันไปตรงทางเข้าว่าจะมีใครเดินเข้ามาไหม ปรากฎว่ามีครับ มากันสองคนน่าเป็นแฟนกัน ก็เลยทำให้รู้สึกดูหนังได้สบายใจขึ้น ไม่ได้แบบว่ากลัวผีหรืออะไรนะครับ แค่รู้สึกเกรงใจโรงหนัง กลัวเขาเปลืองค่าไฟ 5555
ทีนี้สงสัยอ่ะครับ ว่า ถ้ารอบฉายไหนไม่มีคนดูทางโรงก็ต้องฉายใช่ไหมครับ แต่เดาว่ายังไงก็คงต้องฉาย เพราะด้วยมาตรฐานของโรงหนัง จะทำเหมือนโรงหนังตามตลาดสดแบบเมื่อก่อนไม่ได้เนอะ เห็นเพื่อนเคยโดนสมัยก่อนนานมาแล้วซื้อตั๋วหนังโรงหนังบ้านๆเมื่อก่อนโดนเชิญออกจากโรงและคืนเงินให้
ข้อหาคือ มีมึงคนเดียวทั้งโรงเนี่ย55555
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
