9 ก.พ. 2020 เวลา 07:11 • การศึกษา
ตากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โคราช แม่ตั้มเองก็มีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่าเพราะอะไรถึงทำให้คนหนึ่งคนลุกขึ้นมาฆ่าคนได้มากมายขนาดนี้ และแอบคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าได้มีการพูดคุยกับคนร้ายเพื่อเป็นการศึกษาซักนิดว่าเพราะอะไรถึงลุกมาทำเรื่องแบบนี้ การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม ฯลฯ (มันอาจจะมีมุมอื่นที่เราไม่มีโอกาสรู้เมื่อผู้ก่อเหตุเสียชีวิตแล้ว)
.
เมื่อเช้าอ่านเจอบทความนี้ของคุณหมอปองเลยอยากเอาม่แชร์ให้อ่านกันค่ะ
Active Shooter เมื่อ ผัสสะความเป็น "คน" สูญสลาย
เหตุการณ์ที่โคราชดูเหมือนจะสงบลงแล้ว... ในท่ามกลางความสูญเสีย ที่หมอก็ต้องขอแสดงความเสียใจให้กับครอบครัวของผู้สูญเสียทุกๆ ท่านไว้ด้วยในที่นี้ครับ
เรื่องนี้ หากมีประเด็นอะไรที่หมออยากชี้ให้เห็นในฐานะของหมอในแนวทางการแพทย์มนุษยปรัชญาก็คือ การที่ใครคนหนึ่งลุกขึ้นมายิงคนอื่นๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นั้น มันไม่ได้จบอยู่ที่การจับหรือวิสามัญคนร้ายได้เท่านั้น แต่มันเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งที่แสดงให้เห็นว่า คนทุกคนเป็นเหยื่อของแนวคิด “วัตถุนิยม” ไม่ในมิติใดก็มิติหนึ่งมานานจนเกินไปแล้ว
“มุมมองวัตถุนิยม” คืออะไร?
ถ้าจะตอบก็คือ การที่คนๆ หนึ่ง สูญเสียความสามารถในการมองเห็นคุณค่าของ “ชีวิต” ผัสสะทุกผัสสะชองเขานั้นชาด้านไปหมดด้วยการถูกให้ค่าจากคนรอบข้างผ่านตัวชี้วัดแบบ Objective เสียจนไม่เหลือความภาคภูมิใจในชีวิตที่เหลืออยู่... การป้องกันเรื่องเหล่านี้ จึงต้องกลับไปที่การเลี้ยงดูผัสสะต่างๆ ของทุกๆ คน ให้สัมผัสได้ถึง “ความมีชีวิต”
ในบรรดาผัสสะทั้ง 12 ผัสสะนั้น ผัสสะที่ทำให้เรามีความเข้าอกเข้าใจในบุคคลอื่นมากที่สุดก็คือ ผัสสะของความเป็นมนุษย์ หรือ Sense of “I”
ศาสตร์การพัฒนามนุษย์ในแนวทางของมนุษยปรัชญานั้น เน้นที่การกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เติบโตมามาผัสสะต่อโลกภายนอกที่ดี และผัสสะที่คนเรามีทั้งหมดนั้น.... นอกเหนือไปจากผัสสะที่รับรู้ต่อโลกภายนอก คือ ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กายสัมผัส แล้ว ในส่วนของผัสสะทางใจ การแพทย์มนุษยปรัชญายังแยกย่อยออกไปอีก 7 อย่าง ซึ่งมีผัสสะพิเศษอย่าง Sense of “I” เป็นผัสสะในการเข้าใจมนุษย์ด้วยกันอยู่ด้วย
หากเราถูกเลี้ยงดูทางวัตถุมากเกินไป เราจะมองว่า “พืช”, “สัตว์”, “มนุษย์” นั้นเป็นแค่วัตถุ โมเลกุล อะตอมชนิดหนึ่ง จะใช้มีดตัด ปืนยิงก็ไม่ได้มีความแตกต่างกับการฟันแทงก้อนหินก้อนดิน (ในพุทธกาลถือเป็นลัทธิมิจฉาทิษฐิอย่างหนึ่ง)
Active Shooter เองก็อาจเป็นเหยื่อการถูกรังแกและถูกกระทำเหมือนเป็นเพียงแค่ “วัตถุ” มาก่อนในหลายปีดีดักแบบเงียบๆ ก็ได้ และถ้าเราไม่ทำให้สังคมตระหนัก... ตราบนั้น Active Shooter ที่ร้ายกว่า และวางแผนมาดีกว่า แจกจ่ายความตายให้ได้เยอะกว่าก็จะมีตามมาอีกมากมาย
เราจึงต้องหล่อเลี้ยงดวงจิตของเด็กๆ ทุกคนให้ละเอียดอ่อน เห็นถึงความพยายามของดอกไม้ในการเบ่งบาน เห็นความดีใจของลูกนกที่เพิ่งบินได้ และเห็นคุณค่าของมนุษย์ผู้พิการแต่พยายามเลี้ยงชีพชอบด้วยการเสริฟอาหาร... ทุกๆ การกระทำที่ว่าของทุกชีวิตผ่านผัสสะที่เรารับรู้นั้นจะยังทำให้เรา “มีชีวิตจิตใจ” ภายใน
ที่สำคัญสุดคือการเข้าใจปรัชญาชีวิต และศิลปะ คนถืออาวุธอาจเป็นได้แค่คนฆ่าคน เพราะเขามองไม่เห็นว่าคนนั้นมีคุณค่าต่างจากสัตว์อย่างไร โบราณมา การสอนศิลปะป้องกันตัวหรือการรบ มันจึงมักมาคู่การสอนปรัชญา เพราะท้ายที่สุด สัตว์ย่อมปกป้องตัวเองตามสัญชาติญาณ... แต่วีรบุรุษนั้น เขาทำตามอุดมการณ์ ทั้งหมด คือคนที่มี Sense of ”I” หรือคนที่มองเห็นว่าเขาควรสู้เพื่อปกป้อง “ใคร”
ขอเชิดชูวีรบุรุษเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ที่พลีชีพเพื่อปกป้องประชาชนในครั้งนี้ครับ
#หมอปอง
...............
โฆษณา