Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มัมน้อยขอร้องเล่า
•
ติดตาม
10 ก.พ. 2020 เวลา 13:18 • ข่าว
ปกป้องเหยื่อ รอบด้าน แม้แต่พ่อแม่คนร้ายหรือผู้เกี่ยวข้อง
กรณีศึกษาเด็ก5ขวบถูกจับเป็นตัวประกัน
..ต่อจากบทความที่แล้ว
ใครยังไม่อ่าน อ่านก่อนลงเมื่อเช้า..
ความรุนแรงเป็นไวรัสอย่างหนึ่ง
และควรสร้างสังคมพลังบวกให้กระเพื่อมมากขึ้นเพื่อขจัดความรุนแรง อันเป็นพลังลบออกไป
และแก้ปัญหาที่รากของสังคม คือครอบครัว
สื่อมวลชนคือส่วนสำคัญในการปกป้องสังคมด้วย
ตัวอย่างข้างล่างที่จะยกมานี้ อาจทำได้ง่ายในยุคนั้น ที่ไม่มีโซเชียลที่คุมยากมาก แต่ก็ใช่จะปิดข่าวกันได้ง่ายๆ ..เป็นกรณีศึกษาได้ เพื่อเราจะตระหนักถึงผลกระทบต่อเหยื่อ ต่อครอบครัวเหยื่อด้วย
ต้องยุติความรุนแรง และผลกระทบที่อาจบานปลาย
นอกจากปกป้องเหยื่อ ผู้สูญเสีย เราควรให้ความเมตาต่อผู้รับผลกระทบอย่างรอบด้านด้วย และยังต้องการความร่วมมือของสื่อ ที่จะไม่ขยายความเกินความจำเป็น ไม่ให้ค่ากับสิ่งที่เป็นผลลบต่อคนอื่นๆทุกฝ่าย
เราอาจลืมนึกถึงจิตใจของ พ่อแม่พี่น้องของคนร้าย หรือฆาตรกรด้วย ที่ปวดร้าวบวกรู้สึกผิดเกาะกินใจ หัวใจสลายที่ลูกตัวเอง เป็นโจรปล้นทอง ทำผิดกฎหมาย หรือกรณีทำร้ายคนอื่นรุนแรงถึงขนาดเสียชีวิต และหลายชีวิต อย่างกรณีกราดยิงที่โคราช
และหัวใจแทบแดดิ้นที่ลูกต้องถูกสังคมประนามและถูกวิสามัญถึงชีวิตตามกันไป
ช้ำ ระกำ ซ้ำซาก ยากที่จะทำใจ ใครไม่เป็นพ่อแม่ คงเข้าใจยาก
ต่อไปเขาจะอยู่อย่างไร นึกขึ้นมาแล้วก็เห็นใจแต่ก็สะท้อนการเลี้ยงดูของพ่อแม่ด้วยไม่มากก็น้อย แต่ลูกตายไปแล้ว สื่อกรุณาอย่าไปเกาะติดขุดคุ้ยขีวิตฆาตรกรหรือครอบครัวเขาอีก
และควรมีใครคอยดูแลจิตใจพวกท่านด้วย
เรื่องที่จะยกมาให้อ่านต่อไปนี้ คือเรื่องจริงที่มุ่งเน้นปกปัองเหยื่อ ที่เป็นเด็ก คนร้ายปล้นทองและจับเด็กเป็นตัวประกัน
ลองอ่านเรื่องราวที่จะยกมาต่อไปนี้
เป็นเรื่องเล่าจาก Prasarn Marukpitak
📓ที่ธนาคารในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอเมริกาโจรปล้นธนาคาร แล้วไม่ได้เงินโจรจึงจับเด็กชายวัย5ขวบคนหนึ่งเป็นตัวประกัน และบอกกับตำรวจที่ล้อมอยู่ข้างนอกให้หาเงินจำนวน5แสนดอลล่าร์พร้อมกับรถยนต์หนึ่งคัน ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเด็ก
เมื่อเนลสันนักจิตวิทยามาถึง เขาพยายามดึงเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆประจำในจุดที่จะคุ้มครองตัวประกันทั้งหมดได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าโจรกำลังจะลงมือฆ่าเด็ก จึงยิงปืนใส่หัวของคนร้ายจนล้มลงไปกองกับพื้น เด็กชายล้มลงไปพร้อมกับเลือดของคนร้ายที่สาดกระเด็นมาเปื้อนใบหน้าและเสื้อผ้า เสียงร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีดของเด็กน้อยดังขึ้น พร้อมกับช่วงที่เนลสันวิ่งเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจพอดี
ในช่วงชุลมุนของนักข่าวที่ต่างพากันถือทั้งกล้องและไมค์กรูเข้ามาทำข่าวและถ่ายภาพ จู่ๆ เนลสันก็ตะโกนขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า
“จบการฝึกซ้อม ทุกคนช่วยกันเคลียร์พื้นที่!”
ทุกคนในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงในสิ่งที่เนลสันตะโกนออกมา รวมทั้งเด็กน้อยวัย5ขวบก็หยุดร้องไห้และมองไปที่ใบหน้าของเนลสันอย่างฉงน
“แม่ครับ เขาฝึกซ้อมกันเหรอครับ?” เด็กน้อยถามออกไป
“ใช่จ้าลูก!”แม่ของเขาพยักหน้าตอบทั้งน้ำตา
ตำรวจหลายคนเดินเข้ามาชื่นชมเด็ก
“เจ้าหนู นายเก่งมาก นายแสดงได้ดีมากๆ!” พร้อมกับพากันยกนิ้วให้
วันต่อมา ไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับใดลงข่าวโจรปล้นธนาคารเมื่อวานเลยแม้แต่ฉบับเดียว ต่างก็พากันปกป้องความรู้สึกของเด็กน้อยไม่ให้มีความหวาดผวาในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
หลายสิบปีผ่านไป ชายวัยทำงานคนหนึ่ง เดินทางมาขอพบเนลสัน และเอ่ยถึงเหตุการณ์โจรปล้นธนาคารเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เขาถามเนลสันด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงตะโกนประโยคนั้นออกมา
“ตอนที่ผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ผมคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ คงฝังใจให้เด็กน้อยคนนี้ผวาและหวาดกลัวจนไม่อาจมีความมั่นใจในชีวิตได้อีกต่อไป และเมื่อผมวิ่งเข้าไปใกล้เด็กน้อยคนนั้น พระผู้เป็นเจ้าก็ให้สติกับผมและให้ผมพูดคำว่าจบการฝึกซ้อมทุกคนช่วยกันเคลียร์พื้นที่”
เมื่อเนลสันพูดจบ ชายคนนั้นก็เข้ามากอดเนลสันซึ่งตอนนี้ก็แก่ชราลงมากแล้ว
“ผมถูกหลอกมา30ปี แม่เพิ่งบอกความจริงให้ผมทราบเมื่อไม่นานมานี้ ขอบพระคุณมากๆครับคุณลุงเนลสัน ขอบคุณที่ทำให้ผมมีชีวิตเป็นปกติเหมือนคนทั่วๆไป” เขาร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ
“คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก หากจะขอบคุณ ก็จงขอบคุณนักข่าวและทุกคนในเมืองนั้นที่ช่วยกันโกหกคุณ” 📚
นี่คือ โกหกสีขาว โดยความร่วมมือของทุกฝ่าย เพื่อเด็ก คนเดียว ที่มีค่ายิ่ง
หากครอบครัวเลี้ยงดูลูกหลานอย่างมีคุณภาพ ปลูกฝั่งคุณธรรม ผู้ใหญ่โดยรอบ ดูแล สนับสนุน ปกป้องเด็ก อย่างถูกต้อง เขาคงเติบโตมาใช้สิทธิเสรีโดย เลือกสิ่งถูกต้อง มากกว่า เลือกสิ่งผิด
และคำถามแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น
“Why should I apologize for the monster I have become? No one ever apologized for making me this way.”
“ทำไมฉันต้องขอโทษที่ตัวเองกลายเป็นปีศาจ ทั้งที่ไม่เคยมีใครขอโทษที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” (#NityaPrakash)
จริงๆ แอดอยากจะบอกว่า
ถ้าพ่อแม่ ผู้ใหญ่ทำดีที่สุดแล้ว
เขาโตแล้ว เลือกเอง คงโทษใครไม่ได้อีก
ฝากไว้จากMomNoi
ขอบคุณที่รับฝาก😃
10/2/2020
www.blockdit.com/momnoi19
6 บันทึก
103
46
14
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
กระเพิ่อมพลังบวกยุติความรุนแรง ซึ่งเป็นไวรัสตัวหนึ่งที่น่ากลัว
6
103
46
14
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย