🎀 เมื่อคนว่ายน้ำไม่เป็นไปดำน้ำ
เพราะทะเลมันกว้าง คนข้างๆ จึงสำคัญ :)
อดีตฉันเคยเป็นคนไม่ชอบเล่นน้ำ เมื่อเพื่อนชวนฉันมักปฏิเสธตลอด หากเพื่อนเล่นน้ำ 5 ครั้ง ฉันจะเล่น
แค่เพียงครั้งเดียว เวลาเล่นต้องใส่เสื้อชูชีพเสมอ
ความสนุกของฉันหายไป ความกลัวเหมือนม่านบาง ๆ ที่ขวางกั้นความสนุกนั้นไว้
สาเหตุที่ฉันไม่ชอบเล่นน้ำเพราะตอนเด็กฉันเล่นน้ำ
กับเพื่อนแล้วเกือบจมน้ำตาย เหตุการณ์ครั้งนั้นยังฝังใจเรื่อยมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันไปติดตาม IG ของช่างภาพใต้น้ำท่านหนึ่งทำให้ฉันได้เห็นภาพใต้น้ำสวย ๆ มากมาย
เห็นแล้วก็แอบอิจฉาในใจ รู้สึกอยากไปเห็นแบบนั้นด้วยตาตัวเองสักครั้งบ้าง
นอกจากรูปภาพสวย ๆ แล้ว ฉันยังเห็น MV เพลงหนึ่ง
ที่เขาเอามาแชร์และวิดีโอนี้ทำให้ฉันตัดสินใจว่า
“ฉันจะต้องไปดำน้ำให้ได้”
“ฉันต้องไปดำน้ำให้ได้”
เมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว ปัญหาแรกของฉัน
คือ “ฉันว่ายน้ำไม่เป็น”
เมื่อว่ายน้ำไม่เป็นแล้วจะไปดำน้ำได้อย่างไร?
ฉันคิดในใจว่า “ไม่เป็นไร ฉันไปเรียนว่ายน้ำก่อนก็ได้”
และฉันจะไม่ยอมล้มเลิกความคิดนี้เด็ดขาด
ฉันเริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าต้องทำอย่างไร?
ต้องไปเรียนที่ไหน? ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
สุดท้ายฉันตัดสินใจเลือกสถานที่หนึ่งในเกาะเต่า
ฉันจึงโทรไปคุย สอบถามข้อมูลเบื้องต้น เมื่อได้ข้อมูล
ครบถ้วนแล้ว ฉันจึงถามคำถามที่ฉันอยากรู้
“พี่คะ ว่ายน้ำไม่เป็น ดำน้ำได้มั้ยคะ?”
“น้องเล่นน้ำได้ปกติมั้ย ลงน้ำแล้วกลัวมั้ยครับ”
“ถ้าใส่เสื้อชูชีพก็ไม่กลัวค่ะ”
“ถ้าเล่นน้ำได้ปกติ เรียนและฝึกทักษะก็ลงใต้น้ำได้ครับ”
“มีคนว่ายน้ำไม่เป็น ดำน้ำด้วยเหรอคะ?”
“ก็เยอะนะครับ ”
กรี๊ดดดดดด เหมือนฝันเป็นจริง!
ไม่ต้องเรียนว่ายน้ำก่อนด้วย ฉันเลือกที่นี่เลยค่ะ
ไม่หาที่อื่นต่อแล้ว ฉันรีบนัดและจองคิวเร็วที่สุด
รอเพียงอีก 5 วัน! เท่านั้น (รอนานเดี๋ยวหมดไฟ555)
เมื่อถึงวันเดินทาง ฉันหอบกระเป๋าพร้อมความใฝ่ฝันที่จะลงไปดูโลกใต้น้ำ มุ่งหน้าสู่เกาะเต่าเพียงลำพัง
มาถึงเกาะเต่าครั้งแรกความตื่นเต้นแรกที่เจอคือ
“ที่นี่มีแต่ชาวต่างชาติ ”ฉันรู้สึกเหมือนเดินอยู่
ต่างประเทศคนไทยกลุ่มแรกที่เจอคือ ครูกับนักเรียน
อีก 3 คน
ฉันขอไม่พูดถึงรายระเอียดโรงเรียนดำน้ำนะคะ
ถ้าใครสนใจสอบถามได้ทุกอย่างเลยค่ะ ยินดีมาก ๆ
ฉันยินดีแนะนำที่นี่เลยค่ะ เพราะบริการดี ราคาตามมาตรฐาน อาหารอร่อย สะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ครูก็ใจดี น่ารัก เป็นกันเองมาก ๆ
💦 การเรียนดำน้ำ
การดำน้ำได้อย่างปลอดภัยต้องเรียนก่อนค่ะ
ที่ฉันเรียนคือการดำน้ำลึก แบบสคูบ้าไดวิ่ง
(Scuba Diving) คือดำน้ำโดยใช้ถังอากาศนั่นเอง
หลักสูตรที่ฉันเรียน เรียกว่า Open Water Diver
เมื่อเรียนจบจะได้ใบรับรองจาก PADI (บัตรนักดำน้ำ)
สามารถดำน้ำลึกได้ถึง 18 เมตร เรียนทั้งหมด 3 วันครึ่ง
▫️วันแรก พูดคุยทำความเข้าใจ (ช่วงเย็น ไม่มีเรียน)
▫️วันที่สอง เรียนทฤษฎีและฝึกสอนในสระ
▫️วันที่สาม ลงทะเลจริง ดำน้ำ 2 ไดฟ์
▫️เรียนและสอบทฤษฎี
▫️วันสุดท้าย ดำน้ำ 2 ไดฟ์
สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างฉัน ดูหลักสูตรแล้ว
รู้สึกตกใจค่ะ เพราะเรียนไม่กี่วันก็ดำน้ำได้แล้ว
ตอนนั้นฉันเริ่มรู้สึกกลัวและไม่มั่นใจในตัวเองเลยค่ะ
💦 การเรียนในสระน้ำ
การเผชิญหน้ากับความกลัวครั้งแรก
สำหรับฉัน ช่วงนี้คือช่วงที่ยากที่สุดค่ะ
ต้องฝึกใช้อุปกรณ์ทุกอย่าง ฝึกการหายใจโดยใช้อุปกรณ์ ฝึกการควบคุมการลอยตัว ฝึกทักษะทุกอย่าง
เหมือนลงไปอยู่ในทะเลจริง
แต่การลงสระในครั้งนี้ ทำให้ฉันรู้จักตัวเองในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ ตอนที่ครูทดสอบความสามารถในการว่ายน้ำ ครูให้ฉันว่ายไปฝั่งตรงข้ามของสระ
ซึ่งสระยาวและลึกมาก ฉันบอกครูว่าฉันว่ายน้ำเป็น
ตอนนั้นครูคงเห็นสีหน้าที่เจือไปด้วยความกลัวอย่างชัดเจน ครูจึงค่อย ๆ พาฉันแยกออกมาจากกลุ่ม
แล้วมาว่ายน้ำในฝั่งตื้นฝั่งที่เท้าเหยียบถึงก้นสระ
ฉันจึงว่ายน้ำไปมาตรงนั้นคนเดียว ส่วนนักเรียน
ที่เหลืออยู่กับครูอีกคน แล้วครูก็พูดขึ้นว่า
“ความจริงพี่ว่ายน้ำเป็นนะ แต่พี่แค่กลัว”
หลังจากครูพูดประโยคนี้จบ ในใจฉันเต็มไปด้วยคำถาม ฉันว่ายน้ำเป็นจริงเหรอ? ได้ยังไง? จริงอะ?
ฉันไม่รู้เลยว่า มันจะจริงแบบที่ครูพูดหรือเปล่า
แต่ประโยคนี้ทำให้ความกลัวที่มีมากในตอนแรก
เริ่มลดน้อยลง ฉันกลับมามีความมั่นใจ แบบที่ไม่เคยมั่นใจมาก่อน จนทำทุกการทดสอบผ่านหมด
โดยมีครูคอยดูแลเป็นพิเศษ ครูใจดีมากจริง ๆ > <
น้ำใสๆ บรรยากาศดีดี
💦 ออกสู่ทะเลจริง
เผชิญหน้ากับความกลัวอีกครั้ง
เมื่อรู้ว่าวันนี้ต้องออกทะเลจริง ฉันตื่นเต้นมากกกกก
ตื่นตั้งแต่ตีสี่รอจนเช้า นอนไม่หลับ 😂😂
ก่อนดำน้ำ นักดำน้ำทุกคนต้องประกอบอุปกรณ์เอง
ครั้งนี้คือการประกอบอุปกรณ์ลงทะเลจริง ๆ แล้ว
ทุกคนจะมีคู่หูบัดดี้ในการดำน้ำ คอยเช็ครายละเอียดให้กันและกันตามขั้นตอน คอยดูแลและดำน้ำไปด้วยกันเพื่อความปลอดภัย
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตอน “กระโดดจากเรือลงน้ำ”
ทำใจอยู่นานเลยค่ะ กระโดดคนสุดท้ายของกลุ่มเลย
แต่สุดท้ายก็ต้อง โดด !!
ตู้มมมม ด้วยความกลัว ลงผิดท่า เอาก้นลงค่ะ
เจ็บไปจ้าาาาา 55555 แต่ครูสองคนนี่หัวเราะและแซวกันใหญ่ แต่ที่หนักกว่าเจ็บคือ การสำลักน้ำทะเล
ในท้องของฉันตอนนี้เต็มไปด้วยเกลือทะเลแล้วค่ะ
ในวินาทีนั้น แม้มันจะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ยังคงชัดเจนในความทรงจำฉันเสมอ ฉันรู้สึกเหมือนการรอคอยอันยาวนานได้สิ้นสุดลง มันรู้สึกดีจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ฉันเอาชนะความกลัวที่มีมานานได้แล้วและตอนนี้ฉัน
ก็กำลังจะลงไปใต้น้ำแล้วทั้งที่ก่อนหน้า ฉันเคยเห็นเพียงแค่ภาพและคิดว่าคงไม่มีวันที่คนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างฉัน จะลงไปเห็นด้วยตาตัวเอง ภูมิใจกับตัวเองที่สุดเลยค่ะ 💚💚💚
ระหว่างดำน้ำ มีฝึกสกิลใต้น้ำหลายอย่าง
ฉันสำลักน้ำทะเลตลอด แต่แปลกที่ในขณะนั้น
ฉันกลับความกลัวเริ่มลดน้อยลงแล้ว เปลี่ยนจากคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น เป็นคนที่มีทักษะการอยู่ใต้น้ำที่ดี
ฉันควบคุมการลอยตัวได้ค่อนข้างดี ผ่านทุกการทดสอบได้อย่างสบายและทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนกระโดดลงเรือ ตอนนี้ท่าเริ่มสวยขึ้น หลังจากเจ็บไปหลายที ฮาาา
💦 โลกใหม่ใต้น้ำของฉัน > <
การมาดำน้ำครั้งนี้เป็นสิ่งคุ้มค่าในชีวิต คุ้มค่าที่ได้ลงไปเห็นโลกใต้น้ำและได้ทำอะไรสนุก ๆ แบบนั้น
การอยู่ใต้น้ำต้องใช้ภาษามือคุยกัน
และสัตว์ทะเลแต่ละชนิดก็จะมีสัญลักษณ์เป็นภาษามือ
ได้เรียนรู้ภาษามือ ความรู้ใหม่ ชอบมากค่ะ > <
เจออภิมหาปลาเก๋า ต้องใช้คำนี้จริง ๆ
เพราะตัวมันตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าคนเสียอีก
ไม่กล้าคิดเลยว่าจะกินมันได้อย่างไร เพราะกลัวมันจะกินเราเสียก่อน ฮาาาา
เจอสัตว์ทะเลแปลก ๆ มากมาย ปะการังก็สวยมากประทับใจฝูงปลาซาดีนกลุ่มใหญ่กับเจ้าปลา yellow boxfish สีเหลืองลายจุดน่ารักสุด ๆ ไม่น่าเชื่อว่า
จะมีปลาแบบนี้อยู่ในโลกด้วย🐠
ฉันเกือบโดนปลาวัวกัด คือตอนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่ามันดุร้ายและหวงอาณาเขตมาก มันจะพุ่งเข้าชาร์จเอาหัวพุ่งชนถ้าเข้าใกล้อาณาเขตของมันมากเกินไป ครูถึงกับตกใจ รีบว่ายมาลากฉันออกมาจากจุดนั้น 55555
เมื่ออยู่ใต้น้ำต้องระวังหลง เพราะใต้น้ำมีการหักเห
ของแสง บางทีเราอาจมองไม่เห็นคนข้าง ๆ แม้จะอยู่ใกล้ก็ตาม ต้องคอยดูกันตลอด หลงกันบ้าง
ต้องหากันบ้าง ครูต้องคอยดูแบบไม่คลาดสายตาเลย สงสารครูเลยค่ะ
สัตว์เล็ก สัตว์น้อย ตามแนวปะการัง
ซากเรือจม
เจ้า yellow boxfish หน้าตาแบบนี้ cr pinterest
นี่คือหน้าตา เจ้าปลาวัว ที่เกือบโดนพุ่งชน cr thailandliveaboards
ฝูงปลาซาดีน อลังการมากกกก
สัตว์ที่อยากเจอมากที่สุดคือ ฉลามวาฬ
แต่ฉันไม่เจอ แม้แต่เต่าเองก็ไม่เจอเลยสักตัวเช่นกัน
มาถึงจุดนี้ ฉันรู้สึกเศร้าใจและตระหนักถึงการอนุรักษ์ท้องทะเลให้มากยิ่งขึ้น ฉันจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ท้องทะเลอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่ฉันจะสามารถทำได้
ก่อนที่ฉันจะดำน้ำ ฉันก็รักทรัพยากรธรรมชาติ
รักท้องทะเลอยู่แล้ว ฉันไม่เคยทิ้งขยะลงทะเลเลย
เจอขยะริมหาด ฉันมักช่วยเก็บไปทิ้งลงถังขยะอยู่เสมอ
แต่หลังจากไปดำน้ำมา ยิ่งตอกย้ำประทับตราลงในหัวใจของฉันชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก
จากการไปสัมผัสด้วยตัวเอง การเห็นสัตว์ทะเลตัวหนึ่งว่ายอยู่ใต้น้ำ มันคือความตื่นเต้นและดีใจแบบสุด ๆ
ดีใจจนเผลอเต้นอยู่ใต้น้ำ เผลอแกว่งเท้าที่มีตีนกบ
จนตัวจะลอยขึ้นไปข้างบน ครูต้องคอยดึงไว้ตลอด
ดีใจแบบนั้นเลยล่ะ สนุกและมีความสุขมากจริง ๆ ค่ะ
เอะอะก็จะลอยๆ เกาะครูไปเลยจ้าาาา
หากวันหนึ่งใต้ท้องทะเลสวย ๆ ที่เต็มไปด้วยปะการังและสัตว์ทะเลที่สวยงามถูกแทนที่ด้วยขยะมหาศาล
สัตว์ทะเลมากมายต้องตายเพราะคิดว่าขยะเป็นอาหาร
มันคงน่าเศร้ามากจริง ๆ ค่ะ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดและเรียกโลกนี้ว่า
“โลกของเรา” 🌎
โลกเป็นของมนุษย์จริงหรือ ?
ทำไมมนุษย์ถึงทำร้ายโลกของตัวเองมากขึ้นทุกวัน?
ฉันรักโลกใต้ทะเลจัง💙💙💙
7 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการไปดำน้ำ
1. เอาชนะความกลัวได้ด้วยการเรียนรู้
สิ่งที่เรากลัว ถ้าไม่ลองทำเราจะกลัวต่อไปตลอดชีวิต
แต่ถ้าค่อย ๆ เรียนรู้ในสิ่งที่กลัวแล้วลงมือทำทั้ง ๆ
ที่ยังกลัว ความกลัวนั้นจะค่อย ๆ เลือนลางจางหายไป
และกลายเป็นทักษะความสามารถใหม่ให้ตัวเองโดยอัตโนมัติ
2. บางทีเราอาจกลัวในสิ่งที่เรา “ทำได้” อยู่แล้ว
บางครั้งความกลัวอาจบดบังความสามารถของเรา
เอาไว้ หากเราค่อย ๆ ลงมือทำ ความกลัวจะลดน้อยลง
เราจะค้นพบว่า “เราทำอะไรได้มากกว่านั้น”
เหมือนที่ฉันค้นพบว่าตัวเองว่ายน้ำเป็นตอนเรียนดำน้ำ
หลังจากที่กลับมาบ้านแล้ว ฉันลองไปว่ายน้ำที่สระน้ำใกล้ ๆ ตอนนี้ฉันไม่กลัวน้ำอีกต่อไปแล้วและฉันก็ว่ายน้ำเป็นจริง ๆ
3. มองที่เป้าหมาย อย่ามองที่ปัญหา
เมื่อเรามองเป้าหมายที่ต้องการชัดเจน ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ จะดูเล็กลงไปในทันที ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ถ้าเรามองที่ปัญหา ปัญหาจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ความคิดลบมากมายจะเข้ามาทำให้เราหมดกำลังใจอย่างแน่นอน
4. ความสุขไม่ได้อยู่แค่ปลายทาง
แต่มีอยู่ระหว่างทางให้เก็บเกี่ยวเสมอ
การไปดำน้ำครั้งนี้ ฉันได้พบเจอกับครูที่น่ารักทั้ง 2 คน
คุณอา คุณลุง ครูสอนดำน้ำคนอื่น และเพื่อนร่วมคลาส
ที่น่ารัก เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน ทุกคนได้ช่วยเหลือกันและกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน มันคือความสุขที่ได้รับจากคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกัน ความสุขที่เกิดขึ้นระหว่างทาง คือความทรงจำที่มีค่ามากค่ะ
5. กำลังใจคือสิ่งสำคัญ
กำลังใจจากใครสักคนนั้นมีค่ามาก เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรายังทำบางสิ่งต่อไป บางทีแค่คำพูดเพียงไม่กี่คำก็เป็นกำลังใจที่ดีมากแล้ว
และกำลังใจที่สำคัญคือ “กำลังใจจากตัวเอง”
ให้กำลังใจตัวเองบ้าง อ่อนโยนกับตัวเองบ้าง
โดยเฉพาะเวลาที่ตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่าง เวลาที่พยายามทำอะไรอยู่ หรือเวลาที่ล้มเหลวในอะไรสักอย่าง ตัวเราเองก็ต้องการกำลังใจจากตัวเองเช่นกัน
และสุดท้ายต้องหัดให้กำลังใจคนอื่นบ้าง เพราะมันคือสิ่งดี ๆ ที่เรามีให้กันและกันได้เสมอ
6. เรียนรู้จากคนเก่ง ทำให้เราเก่งได้เร็ว
ตอนแรกที่ดูหลักสูตรฉันก็แอบตกใจนะ
เรียนแค่ไม่กี่วันก็ดำน้ำแล้ว ฉันจะทำได้เหรอ?
ด้วยความที่มีมืออาชีพคอยสอนคอยแนะนำอย่างถูกวิธี
สุดท้ายแล้วฉันก็ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่ออยู่กับคนเก่ง เราจะปรับตัวและพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นตามได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการเรียนรู้จากมืออาชีพเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จแบบหนึ่งเช่นกัน
7. เราเป็นแค่สิ่งเล็กน้อยบนโลกที่กว้างใหญ่
โลกใต้น้ำที่กว้างใหญ่กับหมู่มวลสัตว์ที่มากมายนั้น
ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กน้อยเท่านั้น เราเป็นแค่ส่วนหนึ่งในธรรมชาติเท่านั้น เป็นมนุษย์
ตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญอะไรมากมาย
ฉันจะคอยเตือนตัวเองเสมอว่า เราเป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตที่เล็กน้อยในธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ❤️💚
#กระเรียนน้อย
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
