13 ก.พ. 2020 เวลา 13:30 • การศึกษา
"เธอจะล้มเหลวในชีวิตแน่นอน จำเอาไว้ซะนะ"
ประโยคสุดท้ายที่คุณเกลเลอร์ได้บอกกับผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะบินกลับประเทศญี่ปุ่น
"ไม่ว่าจะยังไงซะ อย่างน้อยในชีวิตของเธอก็ต้องล้มเหลว สิ่งที่สำคัญคือเธอจะลุกขึ้นมายังไงหลังจากล้มเหลวต่างหาก นั่นแหละคือสิ่งที่เธอควรจะสนใจ"
...
นี่เป็นเนื้อเรื่องที่หน้าสุดท้ายของหนังสือ "คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น" ที่ผมพึ่งอ่านจบไปเมื่อสักครู่
น่าแปลกนะครับที่หนังสือหลายเล่ม พอได้อ่านในแต่ละช่วงวัย ความรู้สึก สิ่งที่ได้รับหลังการอ่าน มันต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงเลย
ชอบปกหนังสือของสมุดโน๊ตเป็นพิเศษเลย
เล่มนี้ก็เช่นกัน ผมซื้อตอนที่เรียนมหาลัยปีสาม
อ่านรอบแรกตอนปีสามช่วงที่ซื้อมาแรกๆ แน่นอนแหละครับว่าจำความรู้สึก ข้อคิดอะไรต่างๆที่อ่านตอนช่วงนั้นไม่ได้เลย 55555555555
อ่านช่วงเรียนจบใหม่ๆ ตอนที่ยังไม่มีอะไรทำ ตอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ข้อคิดนิดๆหน่อยแต่ก็ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเลย
อ่านครั้งล่าสุดคือช่วงที่ทำงานมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งในปีนี้ผมตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือเล่มที่เคยซื้อไว้อีกรอบให้หมด เพื่อเป็นการสังเคราะห์ ข้อคิดต่างๆที่ได้รับ เอามาปรับใช้กับชีวิต(แน่นอนล่ะครับ เอามาเขียนบทความแชร์ให้ผู้อ่านในบล็อกดิทด้วย)
....
หลังพออ่านจบในครั้งนี้ รู้สึกว่ารอบนี้ได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างมากกว่าตอนที่อ่านมาทั้งหมด เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเพราะว่าประสบการณ์ ความเชื่อ ความมั่นคง ความตั้งใจที่ต้องการจะจับประเด็นสำคัญของหนังสือ ก็อาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ผมได้เข้าใจมากขึ้นเกือบทั้งหมดของเนื้อหา
ที่มาของรูปภาพ https://www.selectppe.co.za/blog-article/Blog/continuous-self-development
สิ่งที่อยากจะแชร์มากที่สุดหลังจากที่จะอ่านเล่มนี้เสร็จก็คือประโยคแรกของบทความนี้นี่แหละครับ
"เธอจะล้มเหลวในชีวิตแน่นอน เพียงแต่ว่าเธอจะรับมือและลุกขึ้นหลังจากล้มเหลวนั้นยังไงต่างหากคือประเด็นที่เธอจะสนใจ"
3
ส่วนตัวของผมเองนั้นต้องยอมรับว่าตัวเองอายุยังน้อยมากนัก ถ้าเทียบกับผู้ใหญ่หลายๆคน ประสบการณ์ยังน้อย ซึ่งแปรผันตรงกับความล้มเหลวที่เคยพบยิ่งน้อยนัก
สิ่งที่ล้มเหลวที่เคยเจอในชีวิตก็อาจจะเป็นเพียงแค่ เงินไม่พอใช้ช่วงทำงานใหม่ๆ อยากพาแฟนไปเที่ยวแต่ทำไม่ได้เพราะต้องทำงาน อยากให้เงินพ่อกับแม่แต่เงินตัวเองยังไม่พอกินเลย หรืออาจจะสอบเข้าเพื่อเป็นนั่นเป็นนี่กลับสอบไม่ติด
ลองไปเทียบกับคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงโลกนั้น รู้สึกว่าความล้มเหลวของเรานั้น เทียบไม่ได้เลยกับขนาดของความล้มเหลวเพียงเท่านี้
ที่มาของรูปภาพ https://www.thejobnetwork.com/facing-failure-finding-success/
ตัวอย่างของคนที่ประสบความล้มเหลวที่เฟี้ยวที่สุดที่ผมได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ เอดิสัน คนที่ประดิษฐ์หลอดไฟให้เราใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
"ถ้าเกิดว่าคุณยังไม่สามารถค้นพบสารกว่า 10,000 ชนิดที่ทำให้หลอดไฟติดได้ ตอนนี้คุณจะกำลังทำอะไรอยู่?"
ประโยคเด็ดที่นักข่าวถามโทมัส แต่คำตอบของโทมัสที่ตอบกลับมานั้นย่อมเด็ดกว่า
"ก็คงกำลังหาสารที่มาทำให้หลอดไฟดวงที่10,001 ติดต่อไปนั่นแหละครับ"
1
ประโยคที่ทำให้ผมสังเคราะห์ วิเคราะห์ หลายต่อหลายรอบของหนังสือเล่มนี้ก็คือประโยคนี้นี่แหละครับ
จนได้สรุปว่า
ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นตอนที่เราเลิกทำมันนี่แหละครับ ไม่ใช่ตอนที่เรากำลังทำอยู่ ไม่ใช่ตอนที่เรา"คิด" ว่ามันจะล้มเหลว
1
ที่มาของรูปภาพ https://www.takieng.com/stories/9140
ปีใหม่ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 45 วันแล้วนะครับ
ใครที่กำลังทำตามความฝัน ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศหรือโลก
ถ้ารู้สึกว่าเหนื่อยหรือคิดว่าโครงการหรือสิ่งที่กำลังทำอยู่จะล้มเหลว ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันไปต่ออย่างง่ายดายนะครับ
"ไม่มีความล้มเหลวหรอกครับ ถ้าเราไม่เลิกทำมัน"
เขียนโดย : ลองอ่าน
ภาพโดย : Google
แนวคิด : หนังสือคิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น และการสังเคราะห์จากผู้เขียน
โฆษณา