สันธะ ! บุรุษกระจอกบางคนในธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล อยู่ที่ป่าก็ดี อยู่ที่โคนต้นไม้ก็ดี อยู่ที่เรือนว่างเปล่าก็ดี มีจิตถูกกามราคะกลุ้มรุมแล้ว ถูกกามราคะครอบงำแล้ว และย่อมไม่รู้ อุบายเครื่องสลัดกามราคะ ที่เกิดขึ้นแล้วตามความเป็นจริง บุรุษกระจอกนั้นทำกามราคะนั่นแหละในภายในแล้ว ย่อมเพ่ง ย่อมเพ่งต่างๆ ย่อมเพ่งเนืองนิตย์ ย่อมเพ่งฝ่ายต่ำ มีจิตอันพยาบาทกลุ้มรุมแล้ว อันพยาบาทครอบงำแล้ว...มี
จิตถีนมิทธะกลุ้มรุมแล้ว อัน
ถีนมิทธะครอบงำแล้ว...มีจิต
อันอุทธัจจกุกกุจจะกลุ้มรุมแล้ว อันอุทธัจจกุกกุจจะครอบงำแล้ว...มีจิตอันวิจิกิจ
ฉากลุ้มรุมแล้ว อันวิจิกิจฉา
ครอบงำแล้ว และย่อมไม่รู้อุบายเครื่องสลัดวิจิกิจฉาที่เกิดขึ้นแล้ว ตามความเป็นจริง บุรุษกระจอกนั้น ทำวิจิกิจฉานั่นแหละในภายในแล้ว ย่อม
เพ่ง ย่อมเพ่งต่างๆย่อมเพ่ง
เนืองนิตย์ ย่อมเพ่งฝ่ายต่ำ บุรุษกระจอกนั้น ย่อมอาศัยปฐวีธาตุเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยอาโปธาตุเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยเตโชธาตุเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยวาโยธาตุเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยอากาสานัญจายตนะเพ่งบ้าง
ย่อมอาศัยวิญญาณัญจายตนะเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยอากิญ
จัญญายตนะเพ่งบ้าง ย่อม
อาศัยเนวสัญญานาสัญญายต
นะเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยโลกนี้เพ่งบ้าง ยอมอาศัยโลกหน้าเพ่งบ้าง ย่อมอาศัยรูปที่ได้เห็นเสียงที่ได้ยิน อารมณ์ที่ทราบ ธรรมที่รู้แจ้ง ที่ถึงแล้วที่แสวงหาแล้ว ที่ตรองตามแล้วด้วยใจเพ่งบ้าง สันธะ การเพ่งของบุรุษกระจอกย่อมมีด้วยประการอย่างนี้แล.