17 ก.พ. 2020 เวลา 02:16 • ความคิดเห็น
เมื่อถูกเพื่อนถามว่า
2
" น้อย ทำไมเธอคิดบวกตลอด ทำได้ยังไง...
1
ไหนบอกเคล็ดลับสั้นๆที่ฉันเข้าใจง่ายๆ อะไรที่จะช่วยฉันได้ ไม่ให้อารมณ์เสียกับคำพูดคน
ฉันเบื่อจริงๆ
อ้อ ! อย่างที่คนทักว่าเธออ้วน ทำไมเธอหัวเราะ ไม่โกรธอ่ะ มันแย่มากเลยนะ ทักแบบนั้น
ฉันไม่ชอบเลยมาทักแบบนี้ โดนบ่อยเลย เขาไม่รู้หรอกว่าฉันออกกำลังกายหนักแค่ไหน น้ำหนักลงไปแล้วด้วยซ้ำ
แถมฉันเป็นเบาหวาน ฉันต้องจิ๊บน้ำ
หวานบ่อยๆ แค่นี้ก็แย่แล้ว ยังมาว่าฉันอีก ไม่มีใครอยากอ้วนหรอก จริงไหม"
เธอร่ายยาว แต่จะให้แอดตอบสั้นๆ พอดีเราคุยกันก่อนหน้านานแล้ว เธอกลัวไม่ทัน เลยขอสั้นๆ
แอดก็ตอบ ต้องการคำตอบ สั้นๆใช่ไหม
งั้นเอาไป แค่สี่คำ"
" เ พ ร า ะ เ ข า ไ ม่ รู้"
โดย รัสเซล เอ็มเนลสัน #lds
แค่นี้เหรอ ยังไงไม่เข้าใจ ขยายความหน่อย
แอดตอบ..
"ก็อย่างที่เธอบอก เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นเบาหวาน และเธอต้องดื่มน้ำหวาน
เขาไม่รู้ว่าเธอ กำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่
เขาไม่รู้ว่าเธอจะทุกข์ เมื่อโดนทัก แบบนี้
เขาคงไม่รู้ว่า เรื่องแบบนี้ เขาไม่ทักกัน
เมื่อเขาไม่รู้ เขาเลยพูดโดยไม่ตั้งใจจะทำร้ายใจเรา แค่ไม่เจอนานไม่รู้จะทักทายอะไร ร่างกายเป็นสิ่งภายนอกที่เห็นชัด
แต่คุยกันไปสักพัก อาจถามเจาะลึกมากกว่านี้อาจจะแย่กว่านี้นะ"
เธอบอกใช่ ทักแย่กว่านั้นฉันก็โดนมาแล้ว
เดิมคนไทยเรามักไม่ถือสา เลยไม่ระวัง แต่ก็มี
มากขึ้นที่ถือสาตามธรรมเนียมตะวันตก ชาวตะวันตกอยู่เมืองไทยนานก็เข้าใจจุดนี้ ถือสาน้อยลง แต่ใช่จะชอบ
คนไทยเราชอบทัก เรื่องส่วนตัว เช่น กินข้าวหรือยัง จะไปไหน เงินเดือนเท่าไหร่ ทำไมสวยขึ้น ทำไมอ้วนขึ้น ทำไมผอมลง จะมีลูกเมื่อไหร่ เมื่อไหร่มีแฟน เลิกกันยัง เห็นไม่ค่อยลงรูปคู่..บลาๆๆ
ส่วนต่างชาติ จะถามความรู้สึก แสดงความห่วงใย จริงใจ จริงจังแค่ไหนไม่รู้ แต่มีมรรยาทห่วงความรู้สึก เช่น สบายดีไหม ชีวิตเป็นอย่างไร คิดและรู้สึกอย่างไร มีปัญหาอะไรไหม มีอะไรให้ช่วย ชอบไหม เห็นด้วยไหม วันนี้ทำอะไรบ้าง สนุกไหม เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ไม่ว่าแบบไหน เพื่อความสบายใจ ให้คิดว่า เป็นคำทักทาย ไม่ได้หวังร้าย คือบางทีไม่รู้จะคุยอะไร เป็นการชวนคุยแค่นั้นเอง
ถ้าจะไปเม้าท์มอยต่อ เราก็อย่าไปใส่ใจ ถือว่าเราควรค่าแก่การถูกหยิบยกไปสนทนากันเท่านั้นเอง เราทำให้เขามีอะไรคุยกัน
ดังนั้น..ไม่ว่าเราจะโดนใครตัดสิน กล่าวร้าย
พูดถึงอย่างไร ถ้าเราไม่ใส่ใจก็ จบที่ใจเรา
ให้คิดว่า ..
1. ให้อภัยเขา เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรไป
(เป็นคำตรัสของพระเยซูคริสต์ก่อนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน )
2.เขายังไม่รู้จักเราดีพอ
ไม่รู้ว่าเราเผชิญกับอะไรอยู่ หรือมีเหตุปัจจัยอะไรก่อนหลัง เขาไม่มีทางรู้ทุกอนูชีวิตของเรา เขาแค่อยากแชร์ความคิด ความรู้ที่เขาอาจมีในมุมมองและที่เขารู้มา แบบรู้ไม่ครบ
แล้วจะไปถือสาอะไร กับการไม่รู้ ของคนอื่น..
ที่เขียนมา ไม่ได้บอกว่า ทำแบบนั้นได้และดี เราไม่ทำแบบนี้กับใครนั้นดีที่สุด แต่เราห้ามใครไม่ได้จริงๆ
เราจึงต้องปรับใจเราเอง เพื่อความสงบสุข จะได้ไปใส่ใจอย่างอื่นทีมีประโยชน์ได้เต็มที่
เคล็ดลับ คิดบวก ช่วยคลายทุกข์ ที่ช่วยได้ อีกข้อ คือ ให้คิดว่า
"มั น ไ ม่ ใ ช่ ปั ญ ห า"
เมื่อไม่ถือสา มันก็ไม่ใช่ปัญหา และสิ่งที่เราควรทำเป็นนิสัยคือ
โดย รัสเซล เอ็มเนลสัน #lds
1.นับแต่พร สิ่งดีๆในชีวิต ขอบคุณสิ่งที่มี สร้างพลังบวกให้ตัวเอง สนใจแต่เรื่องทำให้สบายใจ
2.ไม่มัวนั่งนับปัญหา หมกมุ่นกับสิ่งที่ไม่ชอบ
โดยไม่คิดว่าสิ่งท้าทาย สิ่งยุ่งยาก คำพูดแย่ๆ หรือ อื่นๆ เป็นปัญหา ที่ต้องเป็นทุกข์นานๆ
แต่ให้คิดว่า คือสิ่งหนึ่งที่เราต้องเรียนรู้และผ่านไปให้ได้ เป็นบททดสอบใจเรา และเป็นพรอย่างหนึ่งที่ช่วยเราเติบโตขึ้น..
อ้อ..ตอนนี้แอดผอมลงแล้วนะคะ และจะผอมลงอีก ทำเพื่อตัว ไม่มีแรงกดดันใดๆ✌✌
🤟เปลี่ยนคำทักที่แย่ๆมาเป็น การแก้ไข 🤟
แก้เพื่อตัวเรา ในแบบเรา เพื่อเราเอง ใช่เพื่อคนอื่นจะหยุดพูด ไม่เกี่ยวๆกันจ้าา..
ฝากไว้จาก MomNoi😊♥️
17/2/2020
Photo Credit : Averie Woodard
Meradian Magazine(ldsmag)
ขอบคุณทุกการกดติดตามและให้กำลังใจค่ะ💕🙏👍👍

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา