17 ก.พ. 2020 เวลา 11:40
กรณีศึกษา 6.11 Corner ร้านสะดวกซื้อแนวคิดใหม่ที่ขอใกล้ชิด 7-Eleven
1
ถ้าพูดถึง 7-Eleven เราจะนึกถึงอะไรบ้าง?
จะไปที่ไหนก็เจอ เพราะมีมากกว่า 11,000 สาขาทั่วประเทศ
มีสินค้าและสารพัดบริการความสะดวกที่หลากหลายครอบคลุม
โดยเฉพาะเวลาที่เราหิว หากนึกอะไรไม่ค่อยออกว่าอยากทานอะไร
7-Eleven มักจะเป็นคำตอบแรกๆ ที่แวบเข้ามาในใจของใครหลายคน
สรุปก็คือ 7-Eleven แทบจะกลายเป็นร้านสะดวกซื้อที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันคนไทย
นับเป็นความแข็งแกร่งที่ยากหาใครเทียบเคียงและไล่ตามทัน
ทำให้ ณ วันนี้ 7-Eleven เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ที่สว่างไสวโดดเด่นในวงการร้านสะดวกซื้อเมืองไทย
1
ซึ่งแน่นอน หากเราอยากจะเปิดร้านโชว์ห่วยหรือร้านสะดวกซื้อ
เราคงต้องการที่จะหนี “พระอาทิตย์” ดวงนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อไม่ให้รัศมีและความร้อนแรงของ 7-Eleven มาบดบังกลืนกินร้านของเรา
1
แต่..เวลานี้กำลังมีร้านค้าหนึ่งที่กำลังคิดต่าง
เพราะร้านค้านี้..เพิ่งเปิดตัวได้ 5 เดือน กลับขยายได้ถึง 170 สาขา
และเชื่อหรือไม่ว่า
กลยุทธ์ในการเปิดสาขาเลือกจะอยู่ใกล้ 7-Eleven ทั้งหมด
ถ้าจะห่างสุดก็ไม่ไกลเกิน 5 ห้องแถว..
ร้านนี้มีชื่อว่า 6.11 Corner
เรื่องนี้จึงทำให้ ลงทุนแมน สนใจอยากศึกษาไอเดียการตลาดของร้าน 6.11 Corner
ว่าทำไมถึง กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
จึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ทีมผู้บริหารบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด ในเครือบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
เจ้าของโมเดลธุรกิจร้าน 6.11 Corner ที่เติบโตมาจากธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ และ ตู้กดสินค้าอัตโนมัติ
1
โดยช่วงเริ่มต้นของการสัมภาษณ์
สิ่งที่เรารับรู้ได้ทันทีของโมเดลธุรกิจนี้ก็คือความต่าง
เพราะ 6.11 Corner จะเป็นร้านค้าที่ไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว
แต่ร้านจะอยู่ในตึกแถว 1 ห้องมีตู้กดสินค้าอัตโนมัติมากมายที่เป็นสินค้าเครื่องดื่ม ขนม ตู้เครื่องดื่มร้อนกาแฟ ช็อกโกแลตร้อน
และในอีกไม่นานก็จะมีสินค้าอื่นๆ เพิ่มเข้ามาอยู่ในตู้นี้
ที่น่าสนใจก็คือในตู้กดสินค้าอัตโนมัตินอกจากมีแบรนด์เครื่องดื่มที่เรารู้จักเป็นอย่างดี
อย่าง M150, คาราบาว, เนสกาแฟ, เป๊ปซี่, โค้ก, สปอนเซอร์ เป็นต้น
ก็ยังมีแบรนด์ที่ชื่อว่า 6.11 SELECT ซึ่งทางบริษัทแห่งนี้เป็นเจ้าของสินค้าเองทั้งหมด
โดยแบรนด์ 6.11 SELECT ได้ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ทั้ง OEM และบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของเมืองไทยมาเป็นผู้ผลิตสินค้าให้
ถือเป็นการสร้างความมั่นใจในรสชาติว่าจะไม่เป็นรองแบรนด์สินค้าหลักในตลาด และผ่านการตรวจสอบคุณภาพจาก อย.
แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือโมเดลธุรกิจของสินค้า 6.11 SELECT ที่มีราคาขายถูกกว่า 15 - 30% เมื่อเทียบกับแบรนด์หลักในตลาด
3
โดยการทำสินค้าราคาประหยัด นอกจากวิธีการลดต้นทุนหน้าร้านของตัวเองให้ได้มากที่สุด
เช่น ไม่ต้องมีพนักงาน, ไม่เปิดแอร์, ขนาดร้านไม่ใหญ่แค่ 1 ห้องแถว
3
สินค้าทุกชิ้นก่อนที่ทางบริษัทจะตัดสินใจทำการผลิต จะมีการวิเคราะห์แล้วว่า
เป็นสินค้าที่ในภาพรวมอุตสาหกรรมผู้บริโภคมีอัตราความถี่ในการซื้อบ่อยครั้ง
อาทิเช่น น้ำดื่ม, เครื่องดื่มชูกำลัง, กาแฟกระป๋อง, ขนมต่างๆ เป็นต้น
เป้าหมายเพื่อให้ได้จำนวนการผลิตสินค้ามีอัตราสูง
ผลลัพธ์ที่ได้มาคือสินค้าต่อ 1 ชิ้นจะมีต้นทุนที่ต่ำลง ตามจำนวนการผลิต
มาถึงตรงนี้ ลงทุนแมน เลยมีคำถามที่ใครหลายคนสงสัย
สรุปแล้ว 6.11 Corner จะขอเปิดศึกท้าชนกับร้าน 7-Eleven หรือไม่?
1
ซึ่งคำตอบที่ได้.. น่าสนใจไม่น้อย เมื่อผู้บริหาร ตอบว่า
2
7-Eleven ก็ยังคงเป็นพระอาทิตย์ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ
ที่แข็งแกร่งทั้งจำนวนสาขาที่ครอบคลุม จนถึงความวาไรตี้ของสินค้าในร้าน
6.11 Corner เวลานี้เป็นเพียงดาวดวงเล็กๆ ที่อยากอยู่ใกล้คนเก่งประสบความสำเร็จอย่าง 7-Eleven
ความสนใจมาอยู่ที่แผนธุรกิจของ 6.11 Corner ที่ตั้งเป้าจะมีถึง 1,000 สาขาในปีนี้
และในอนาคตอันใกล้จะมี 10,000 สาขา และเมื่อสาขามากขึ้น ก็จะเพิ่มความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น รวมถึงขายอาหารพร้อมรับประทาน ที่เป็นสินค้าขายดีใน 7-Eleven
2
ถ้าถามว่า 6.11 Corner จะเอาเงินทุนที่ไหนมาขยายสาขา?
คำตอบก็คือ บริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด เจ้าของ 6.11 Corner นั้น เป็นบริษัทลูกของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งก็น่าจะทำให้ได้รับเงินทุนมาขยายกิจการเพิ่มเติม และบริษัทนี้ยังมีอีก 2 ธุรกิจใหม่ก็คือธุรกิจ E wallet และธุรกิจ POS ซึ่งเป็นระบบขายหน้าร้าน เก็บข้อมูลสินค้า บริหารสินค้าคงคลังอีกด้วย
2
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ในวันที่ทุกคนต่างกลัว 7-Eleven
แต่ 6.11 Corner กลับเลือกที่จะนำเสนอรูปแบบใหม่
ที่มีสินค้าราคาประหยัด ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใกล้ 7-Eleven
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าแนวคิดนี้จะประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ที่คนที่จะได้ประโยชน์ที่สุด ก็คือผู้บริโภคอย่างเรานั่นเอง..
1
โฆษณา