ผ้าพื้นบ้านไทย
กันยายน 16, 2562
ผ้าพื้นบ้าน ผ้าทอด้วยกี่หรือหูกพื้นบ้าน ตามกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มักทอด้วยฝ้ายหรือไหม ผ้าพื้นบ้านหรือผ้าทอมือมีกรรมวิธีการทอต่างๆกัน เช่น ทอเรียบๆไม่มีลาย เรียกผ้าพื้น ทอเป็นลวดลายเรียก ผ้ายก ทอเป็นลวดลายด้วยการจก เรียก ผ้าจก ผ้าทอเป็นลวดลายโดยการขิด เรียก ผ้าขิด ทอเป็นลวยลายด้วยการมัดย้อม เรียก ผ้ามัดหมี่ เป็นต้น
ผ้าพื้นบ้านของไทยในภาค ต่างๆ มีกรรมวิธีการย้อม การทอสอดคล้องกับขนบประเพณี และวิ๔ีชีวิตของแต่ละกลุ่มชน ซึ่งมีรูปแบบและการใช้สอยต่างๆกัน เช่น ผ้าซิ่น ผ้าเบี่ยง ผ้าหม่ ผ้าปูที่นอน ผ้าขาวม้า ย่าม และ ตุง เป็นต้น
ผ้าพื้นบ้านไทย (ภาคกลาง)
ผ้าซิ่นตีนจก หาดเสี้ยว
ผ้าซิ่นตีนจกของชาวไทยเชื้อสายลาวพวนบ้านหาดเสี้ยว ตำบลหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย นิยมต่อหัวซิ่นสองชั้นด้วยผ้าพื้นสีแดงและขาว ตัวซิ่นทอลวดลายขวางลำตัว ตีนซิ่นนิยมทอลายจกด้วยสีสด เช่น สีแดง เหลือง ส้ม เป็นลวดลายไปจนสุดเชิงซิ่นหรือสุดตีนซิ่น
ผ้าซิ่นตีนจก คูบัว
ผ้าซิ่นตีนจกของชาวไทยเชื้อสายไทยยวนตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี นิยมต่อหัวซิ่นด้วยผ้าพื้นสีแดงและสีขาว ตัวซิ่นนิยมทอด้วยสีเข้ม มีลายเป็นริ้วๆ หรือทอยกเป็นลายเล็กๆ ขวางตัวซิ่น ตีนซิ่นตกแต่งด้วยลายจกจนเกือบสุดตีนซิ่น แล้วคั่นด้วยแนวเล็กๆ
ผ้าซิ่นตีนจก บ้านไร่
ผ้าซิ่นตีนจกของชาวไทยเชื้อสายลาวครั่ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี นิยมต่อหัวซิ่นด้วยผ้าพื้นสีขาว หรือไม่ต่อหัวซิ่น ตัวซิ่นทอด้วยลวดลายมัดหมี่ ตีนซิ่นตกแต่งด้วยลวดลายจกสีสด
เช่น เหลือง แดง ส้ม ต่อจากลายจกลงไปทอเป็นพื้นสีแดง เป็นแถบไปจนเกือบสุดตีน หรือเชิง แล้วทอสลับด้วยสีเหลือง เป็นแนวเล็กๆ ขวางเชิงซิ่น
ผ้าพื้นบ้านไทย (ภาคอีสาน)
ผ้าขิด
ผ้าทอเป็นลายชนิดหนึ่ง สร้างลวดลายโดยการเก็บขิดบนเส้นยืน เพื่อให้เกิดการยกและข่มบนผ้าเช่นเดียวกับการสาน แล้วเพิ่มด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป ลายที่เกิดจะเป็นลายเรขาคณิตต่างๆ เช่น ลายรูปสัตว์ ลายดอกไม้ ผ้าขิดนิยมทอด้วยผ้าฝ้ายสีครามสลับขาว เป็นลายเรียงขวางหน้าผ้า ผ้าขิดมักใช้ตกแต่งหน้าหมอน ตีนซิ่น และหัวซิ่น
ผ้าแพรวา
ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมที่ทอเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยลายขิดแต่นิยมทอสลับสีคล้ายกับการจก มักทอลายใหญ่สลับกับลายเล็กๆ เป็นช่วงๆ ขวางหน้าผ้า ผ้าแพรวามีลวดลายและสีสันงดงาม จึงมักนิยมให้เป็นผ้าหม่ หรือผ้าสไบในกลุ่มชนเชื้อสายภูไท หรือผผู้ไท ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผ้ามัดหมี่
ผ้าที่ทอเป็นลวดลายโดยการมัดเส้นด้าย หรือเส้นไหม แล้วย้อมให้เป็นสีต่างๆ แล้สนำไปทอลวดลาย ตามความนิยมของแต่ละท้องถิ่น เช่น ลายรูปสัตว์ ลายเรขาคณิต ลายจากธรรมชาติ ลายสิ่งของเครื่องใช้ ผ้ามัดหมี่มักทอเป็นผ้าซิ่น ผ้าปูม ผ้าตกแต่งพุทธสถาน เป็นต้น
ผ้าพื้นบ้านไทย (ภาคเหนือ)
ผ้าซิ่นตีนจก
ผ้านุ่งของผู้หญิงที่เย็บเป็นถุง ประกอบด้วยหัวซิ่นอยู่บนสุด หรือส่วนที่อยู่ตรงเอว ตัวซิ่นอยู่ถัดลงมา และตีนซิ่นหรือเชิงซิ่นซึ่งทอเป็นลวดลายด้วยการจก จึงเรียก ตีนจก และเรียกซิ่นชนิดนี้ว่า ซิ่นตีนจก ขนาดกว้างแคบและสั้นหรือยาวของตีนจกต่างกัน ไปตามรูปร่างของผ้านุ่งและวิธีการนุ่ง โดยเฉพาะตีนซิ่นจะมีลวดลายและสีสันแตกต่างกันไป
ผ้าหลบ
ผ้าสำหรับปูทับลงบนฟูกหรือสลี ของชาวไทยเชื้อสายไทยยวนและไทยลื้อ ในภาคเหนือ รูปแบบขแงผ้าหลบจะแตกต่างกันไป ตามความนิยมของแต่ละกลุ่มชน ชาวไทยยวนนิยมทอด้วยฝ้ายไม่มีลวดลาย ชาวไทยลื้อนิยมทอด้วยฝ้าย ตกแต่งลายขิดที่เชิงผ้าทั้งสองข้างให้สวยงาม
ผ้าซิ่นไทยลื้อ
ผ้านุ่งผู้หญิงไทยลื้อ บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หัวซิ่นนิยมต่อด้วยผ้าพื้นสีแดง ตัวซิ่นทอลายขวางลำตัวด้วยสีสด เป็นลายคล้ายสายน้ำ จึงเรียกว่า ลายน้ำไหล ซึ่งทอด้วยวิธีล้วงหรือเกาะ ตีนซิ่นไม่ตกแต่งลวดลายแต่ใช้ผ้าพื้นสีครามต่อตีนซิ่น
ผ้าพื้นบ้านไทย (ภาคใต้)
ผ้าพุมเรียง
ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมที่ทอโดยช่างทอผ้าบ้านพุมเรียง ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีชื่อเสียงในการทอผ้ายกดอกเป็นลวดลายต่างๆ ทั้งที่ทอยกดอกเต็มผืนผ้า และขนิดที่ยกดอกเฉพาะเชิงผ้า หรือยกดอกสิดดิ้นเงินดิ้นทอง ซึ่งนิยมทอกันมาแต่โบราณ
ผ้าเบี่ยงบ้านนาหมื่นศรี
ผ้าสำหรับพาดไหล่ของชาวบ้าน บ้านนาหมื่นศรี ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอเมือง จังหวัดตรัง มักทอเป็นผืนสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าแคบ ชายผ้าทั้งสองข้างทอเป็นผ้าพื้นสีแดง กลางผ้าทอยกเป็นสีเหลืองและแดง เป็นลายเรขาคณิต เช่นลายลูกแก้ว ลายขอ เป็นต้น ผ้าเบี่ยงใช้ห่มเฉียงไหล่ หรือพาดไหล่ในงานพิธีต่างๆ