23 ก.พ. 2020 เวลา 12:27 • ข่าว
คนเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน อีกซักกี่วัน (อ่านนะ..จะรักชีวิตที่เหลือมากขึ้น)
เฉลี่ยคนเรามีอายุประมาณ 60 ปี หรือประมาณ 720 เดือน…
ไหนลองคิดเป็นสัปดาห์ดูสิ ก็ได้ประมาณ 2,880 สัปดาห์
สมมุติว่าตอนนี้เราอายุประมาณ 20 ปี
ก็แปลว่าเราผ่านการเที่ยววันเสาร์ อาทิตย์มาแล้ว 960 ครั้ง….
960 ครั้ง จาก 2,880 สัปดาห์ ?!?!
นี่แปลว่าเราเหลือเวลาเที่ยวคืนเสาร์อาทิตย์แบบนี้อีกแค่ 1,920 ครั้ง
นึกแล้วอยากเอาปฏิทินมากางกว้างๆ ตรงหน้าและวางแผนชีวิตกันใหม่เลยทีเดียว
1
อย่างที่บอกไปแล้วว่าคน เรามีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 60 ปี ถ้าตอนนี้เราเพิ่งอายุประมาณ 20 ปี
ผ่านโลกมาสดๆ ร้อนๆ เกือบ 240 เดือน…แต่ถ้ารู้สึกว่ามันน้อยไป
งั้นลองคิดเป็นนาทีก็จะได้ประมาณ 41,472,000 นาที
หรือถ้าอยากให้เยอะกว่านี้ก็คิดเป็นวินาทีก็จะได้…เอาไปคิดกันมาเป็นการบ้านละกันนะ
พอคิดถึงเวลาที่ผ่านไปแล้วก็อดใจหายไม่ได้และไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะผ่านโลกมานานขนาดนี้
ทั้งที่ชีวิตจริงยังไม่ได้ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
อีกกี่ตารางนิ้วบนโลกนี้มี่ยังไม่ได้ไปเหยียบอีกกี่คนต่อกี่คนที่เรายังไม่มีโอกาสได้เจออาหารอีกกี่อย่างที่ยังไม่เคยลิ้มลอง
และอีกกี่ความฝันที่อยากทำแต่ไม่ได้ทำให้มันเป็นจริงทั้งๆ ที่มีเวลามากมายขนาดนี้ แต่เราไม่เคยคิดทำสิ่งแหล่านี้ไม่เคยคิดไล่ตามความฝันและความทะยานอยากของตัวเอง
กลับเอาสมบัติที่น่าจะมีค่าที่สุดของมนุษย์และของทุกชีวิตบนโลกมาใช้ในกิจกรรมชวนให้เอาหนังมือด้านๆไปสัมผัสหนังศีรษะนุ่มๆ
อย่างกิจกรรมฆ่าเวลา โดยไม่รู้ว่า ไอ้ของเดิมที่มันมีอยู่ก็น้อยพออยู่แล้วเวลาไม่เหมือนต้นไม้ หมดแล้วใช่ว่าจะปลูกใหม่ได้
ขนาดต้นไม้ที่ว่าปลูกได้ยังปลูกไม่ทันคนตัดเลยนับประสาอะไรกับเวลาที่นอกจากจะงอกใหม่ไม่ได้และยังหายไปตลอดเวลาอีกต่างหากซ้ำร้ายคือเราไม่รู้ว่าเวลาที่มีมันจะหมดเมื่อไหร่
ไม่มีใครรู้ว่าคืนนี้กลับบ้านไปนอน แล้วรับประกันว่าพรุ่งนี้เช้าคุณจะตื่นขึ้นมาหรือไม่ไม่แน่ว่าเวลาของคุณอาจจะหมดตั้งแต่หัวถึงหมอนแล้วก็ได้จงขอบคุณตัวคุณเองที่ตื่นมาในตอนเช้า
และดำเนินชีวิตให้เหมือนกับว่ามันคือวันสุดท้ายของคุณ
ไล่ตามความฝันอย่างสุดโต่งทุ่มเทกับงานที่ทำตรงหน้าดูแลคนที่คุณรักให้เหมือนวันแรกที่คุณรักกันทำดีกับเขาให้เหมือนวันแรกที่คุณเคยทำกอดเขาให้นานที่สุด
ให้เหมือนเป็นการกอดครั้งสุดท้ายของเรา
เพราะวันพรุ่งนี้อาจไม่มีเวลาเหลือไว้ให้คุณทำสิ่งเหล่านี้ก็เป็นได้ข้อคิดดีๆ
จาก วันเวลา…ของชีวิตที่เหลืออยู่ อ่านให้จบนะ แล้วคุณจะรักตัวเองขึ้นอีกเยอะ
วันเวลา…ของชีวิตที่เหลืออยู่คนเราเกิดมาอาจจะไม่มีความเท่าเทียมกันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นฐานะความเป็นอยู่ โอกาสในชีวิต
ตลอดจนรูปร่างลักษณะบุคลิกภาพเฉพาะตน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้เท่าเทียมกัน คือเวลา
ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะตระหนักถึงคุณค่า ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด
1 ปี = 365 วัน
5 ปี = 1,825 วัน
10 ปี = 3,650 วัน
20 ปี = 7,300 วัน
40 ปี = 14,600 วัน
60 ปี = 21,900 วัน
70 ปี = 25,550 วัน
ถ้าคิดอายุความสามารถของร่างกายที่ 60 ปี ซึ่งเป็นอายุที่ต้องเกษียณอายุตัวเองจากการทำงาน ถ้าเราเริ่มทำงานที่อายุ 21 ปี คนเราจะมีเวลา
ทำงานประมาณ 14,600 วัน หรือ 2,080 สัปดาห์ และถ้าเราใช้เวลาพักผ่อนไป 1/3 ของวัน (8 ชั่วโมง/วัน)
ในระยะเวลา 40 ปี เราจะใช้เวลาพักผ่อนไปถึง 4,867 วัน เหลือเวลาทำสิ่งต่าง ๆ เพียง 9,733 วัน
คนเราไม่ได้คิดว่าสักวันหนึ่ง ชีวิตจะสิ้นสุดลง จึงปล่อยโอกาสอันดีงามให้ผ่านไปอย่างไม่แยแส
ในวัยหนุ่มสาวที่แข็งแรงกลับปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ในเวลาเรียนที่มีค่าอย่างมากกับอนาคตของตนเอง
กลับมองออกไปนอกหน้าต่าง สร้างวิมานในอากาศปล่อยให้คำสอนของครูอาจารย์ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาในช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การพักผ่อน
กลับเที่ยวเตร่จนดึกดื่น หรือดื่มจนเมามาย แล้วตื่นขึ้นมาปวดหัวหรือตื่นสายในวันรุ่งขึ้นหมดแรงที่จะคิดสร้างสรรค์ผลงานจวบจนแก่ชรา อายุมากขึ้น
ภาพอดีตความหลังที่ผ่านมาย้อนให้คิดคำนึงแม้จะพยายามไขว่คว้า กาลเวลาที่ผ่านไปก็ไม่อาจหวนคืนคนเราเกิดมาทุกคนกำลังเดินทางไปสู่จุดสุดท้ายของชีวิต
นั่นคือจะต้องจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน จะเร็วหรือช้าเท่านั้น ไม่มีใครหนีพ้นกฎของธรรมชาติข้อนี้ไปได้ คนเราเมื่อเกิดมาแล้ว ก็จะเจริญเติบโตไปตามช่วงวัยต่าง ๆ
ในขณะที่อายุเริ่มจะมากขึ้น ความแข็งแรง และความสามารถทางด้านร่างกายก็เริ่มลดลง โรคภัยไข้เจ็บก็จะมาเยี่ยมเยียน ซึ่งคำภีร์อินเดียโบราณแบ่งช่วงวัยและอายุไว้ดังนี้
1.วัยแรกเกิดถึง 10 ปี
เป็นวัยเดียงสา พ่อแม่ต้องฟูมฟักเลี้ยงดู
2.อายุระหว่าง 11-20 ปี
เป็นวัยอยากเล่นอยากเรียนรู้ กำลังเจริญเติบโต
3.อายุระหว่าง 21-30 ปี
เป็นวัยที่เรียกว่าชีวิตสวยงาม ร่างกายแข็งแรง
4.อายุระหว่าง 31-40 ปี
ยังมีเรี่ยวแรงกำลังวังชา
5.อายุระหว่าง 41-50 ปี
เป็นวัยแห่งการใช้ปัญญา และเริ่มที่จะแก่
6.อายุระหว่าง 51-60 ปี เ
ป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมถอย
7.อายุระหว่าง 61-70 ปี
เป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมถอยมาก
8.อายุระหว่าง 71-80 ปี
เป็นวัยที่ใกล้ชราภาพมากแล้ว หลังเริ่มงอ
9.อายุระหว่าง 81-90 ปี
เป็นวัยหลง ๆ ลืม แสดงถึงสังขารที่เสื่อมถอยและเริ่มจะทักทายความตา ย
10.อายุระหว่าง 91 ปี
ขึ้นไป เป็นวัยที่หมดความรู้สึกหรือด้านชา ทุกกรณี
ที่กล่าวมาเป็นช่วงของชีวิต ที่ทุกคนจะต้องประสบพบเจอหากมีชีวิตยืนยาวแต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เกิดจะมีชีวิตยืนยาวเท่ากันทุกคน
หลายคนต้องจากไปก่อนวัยอันควร แม้ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่สามารถที่จะร้องขอได้ เวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต
เวลาที่ผ่านไปหรือสูญเสียไป จะสูญเสียตลอดกาล
เพราะฉะนั้นจงใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย
ที่มา : คิดเป็น, FBpeople.khon, mentsod
โฆษณา