Color Balance พื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มแต่งภาพ
ปัญหาที่มือใหม่หลายคนต่างต้องเคยพบเจอ และ เป็นปัญหามาก ๆ ก็คือเรื่องของ สี
เวลาเราถ่ายภาพเราจะเพลิดเพลินกับการจัดองค์ประกอบ การหามุม หา Location สวย ๆ บางทีเราอาจจะลืมเรื่องของสีในภาพไป พอมา Playback ดูหลังจอ ก็ตกใจ อ้าว! ทำไมสีมันแปลก ๆ สีเหลืองไป ฟ้าไป ไม่ตรงกับความเป็นจริง
Color Balance พื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มแต่งภาพ
เรื่องพวกนี้จะหมดไป ถ้าเข้าใจ Color Balance ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้เราต่อยอดเรื่องการปรับตั้ง White Balance ในกล้องได้ง่ายยิ่งขึ้น
ขอเริ่มจากตรงนี้ละกันนะครับ สมัยเด็ก ๆ ทุกคนต้องเคยเรียนวิชาศิลปะ กันใช่ไหมครับ ซึ่งเขาจะสอนเรื่องของแม่สีใช่ไหมครับ ตอนนั้นก็จะถูกสอนว่าแม่สี คือ แดง เหลือง น้ำ เอามาผสมกันก็จะได้สีต่าง ๆ
ซึ่งในการถ่ายภาพ เราก็มีแม่สีแบบนั้นเหมือนกัน เราเรียกมันว่า " สี RGB ประกอบด้วย Red / Green / Blue "
ทั้ง 3 สีนี้ ถ้าเอามาสร้างวงกลมซ้อนกัน ก็จะได้สีเพิ่มอีก ซึ่งจะทำให้เราได้รูปแบบของสีอีกประเภทหนึ่งที่ใช้ในงานพิมพ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันที่เรียกว่า " CMYK "
ซึ่งมันก็คือโลโก้ช่อง 7 สีที่เราคุ้นเคย และ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับวงล้อสีที่เราคุ้นเคยในสมัยเด็ก หรือ ในโปรแกรม Photoshop นั่นเอง
ซึ่งการที่เรารู้จัก RGB และ CMYK มันช่วยเราแต่งภาพยังไง ?
ลองสังเกตุสีที่อยู่ตรงกันข้ามกับแม่สี RGB ที่ใช้ในการถ่ายภาพดูนะครับ สีเหล่านั่นสามารถหักล้างกันได้ เพื่อให้ได้ค่าสีตรงกลาง ซึ่งคือ สีขาว ตามภาพ มันหมายความว่า ถ้าเราเอามาเรียงเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นสูตรให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจเลยก็ได้นะ จะเป็นดังนี้
Red (R) = Cyan (C)
Green (G) = Magenta (M)
Blue (B) = Yellow (Y)
จะเห็นว่าสีที่ตรงข้ามกันสามารถหักล้างกันได้ ถ้าเกิดสมมติว่าเราถ่ายภาพมา แล้วเราเห็นว่าภาพของเราส่วนใหญ่ทั้งภาพ สีมันออกไปทางสีใดสีหนึ่งในสูตรด้านบน เราก็จะรู้ทันทีว่าเราควรแต่งภาพปรับสีไหน มาหักล้างเพื่อให้ภาพกลับมาสมดุล
ขอบคุณภาพประกอบการบรรยายจาก John Demke จากเวปไซต์ flickr.com
ส่วนค่า K คือค่าของสีดำเป็นค่าสีสมมติที่เอาไว้ใช้เติมให้สีดำมีความเข้มมากขึ้นในงานภาพที่ใช้ในการสั่งพิมพ์ออกมา เพราะ ค่าสีดำในวงล้อสี เมื่อผสมหลาย ๆ สี พยายามให้ได้สีดำ แต่สุดท้ายก็จะไม่ดำสนิท ก็ต้องมีค่าสี K นี้เข้ามาผสมช่วย
จากสูตร Color balance อย่างง่าย ๆ ที่ผมสรุปไปด้านบน ผมจะขออธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นโดยการเอาไปใช้จริง กับโปรแกรมแต่งภาพเลยละกัน ว่าการปรับ Color balance มันอยู่ตรงส่วนไหนบ้าง
โดยผมจะยกตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม Lightroom นะครับ แต่โดยหลักการก็สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับโปรแกรม หรือ แอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ได้เช่นกัน
เริ่มต้นจากสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยก่อนเลย คือ เจ้า White Balance
มันคือการปรับค่าสีธรรมชาติ ซึ่งก็คือ สีเหลือง กับ น้ำเงิน
ถ้าเราถ่ายภาพกลางแดด หรือ ถ่ายในพื้นที่ที่มีหลอดไฟสีเหลืองเยอะ ๆ ก็ให้ใช้สีนำเงิน แก้ให้สีกลับมาเป็นค่ากลาง โดยปรับแถบ White balance ไปด้านตรงข้ามของสีในภาพ
ส่วนต่อมา ถ้าเกิดเจอสถานการณ์ที่มีการสะท้อนของแสงแล้วภาพดันติดสีเขียว หรือ สีออกม่วง ๆ มา เราจะไปปรับแก้ในส่วนที่เรียกว่า Tint หลักการเดียวกันถ้ามีสีไหนอยู่ในภาพเยอะ เราก็ปรับไปสีตรงข้ามก็จะหักล้างกัน
ซึ่งสถานการณ์ที่จะเจอสีเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสะท้อนของต้นไม้ใบหญ้า พื้น หรือ กระจกที่มีแสงรอดเข้า แล้วเกิดหักเหของแสง หรือ อาจจะเป็นการถ่ายย้อนแสงก็อาจจะพบเจอสีเหล่านี้ติดมาในภาพได้
สุดท้ายก็จะเป็นส่วนของ Red และ Cyan ทั้ง 2 สีนี้อาจจะปรับยากนิดนึง ซึ่งจะเข้าไปปรับในส่วนของ Color ของแต่ละสีเลย หรือ อาจจะปรับในส่วนของ Red Curve ก็ได้
สำหรับคนที่พอจะมีความรู้เรื่องของ Curve ทั้งหมดที่กล่าวมา สามารถปรับได้ด้วย Tone Curve ได้ทั้งหมดเลย แต่มันอาจจะยากไปซะหน่อยสำหรับมือใหม่ แต่เด่วผมจะค่อย ๆ เขียนบทความอธิบายเรื่อย ๆ นะครับ เพราะมันจะสัมพันธ์ กับเรื่อง Histrogram ด้วย และ ต้องเข้าใจส่วนมืด และ ส่วนสว่างของภาพด้วย
สรุป Color balance ในบทความนี้คือเราต้องจำคู่สีตรงข้ามกันให้ได้ ถ้าจำวงล้อสีได้ก็จะดีมาก ๆ เลย จะทำให้เราเป็นคนที่แต่งภาพเข้าใจคู่สี เลือกใช้สี และ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีสีที่เราไม่ต้องการได้ และ แต่งภาพได้สวย และ รวดเร็วมากขึ้น
หากเพื่อน ๆ มีคำถามสงสัยตรงไหนทิ้งคอมเมนต์ถามกันเข้ามาได้เลยนะครับ ผมจะเข้ามาตอบให้แน่นอนครับ
ถ้าหากบทความนี้พอจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ฝากกดแชร์และติดตามเป็นกำลังให้พวกเราด้วยนะครับ
แล้วเรื่องกล้องและการถ่ายภาพจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป " Camera So Easy เรื่องกล้องเรื่องง่าย "
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
