19 ก.พ. 2020 เวลา 09:04 • ข่าว
สรุปสถานการณ์ ครบ 1 เดือน ! ไวรัสโคโรน่า
ล่าสุดติดเชื้อเกือบ 1 แสนคน สังเวยแล้วกว่า 2,000 ศพ !
ข้อมูลอัพเดต ณ วันที่ 19/02/2563 เวลา 16.04 น.
**หมายเหตุ : เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ทางการจีนได้มีการปรับมาตรการในการตรวจวัดและควบคุมเชื้อโรค ทำให้กราฟและค่าตัวเลขต่าง ๆ ในวันที่ 12/02/2563 พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องตกใจนะครับ)**
1. บริเวณที่แพร่กระจาย และระดับความเสี่ยง
- ปัจจุบันไวรัสแพร่กระจายใน 29 ประเทศทั่วโลก และ 5 ทวีปทั่วโลก ได้แก่
เอเซีย ยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ
- ระดับการประเมินความเสี่ยงขององค์การอนามัยโลก : ฉุกเฉินระดับโลก
บริเวณที่แพร่กระจาย ขอบคุณภาพจาก https://gisanddata.maps.arcgis.com
2. ข้อมูลล่าสุดของ Coronavirus
- ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด : 75,223 คน (+32,132 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- ยอดผู้ที่ติดเชื้ออยู่ในขณะนี้ : 58,485 คน (+20,447 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- ยอดผู้เสียชีวิตแล้ว : 2,012 คน (+994 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- ยอดผู้รักษาหายแล้ว : 14,802 คน (+10,759 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง : 46,353 คน (+15,659 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- เคสที่มีเสร็จสิ้นไปแล้ว : 16,731 คน (+11,670 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
- ยังอยู่ในอาการวิกฤต : 12,056 คน (+4,712 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
3. ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ
- 79% ของผู้ที่ติดเชื้ออยู่ในขณะนี้มีอาการไม่รุนแรง
- 88% ของเคสที่เสร็จสิ้นไปแล้ว รอดชีวิต
- 12% ของเคสที่เสร็จสิ้นไปแล้ว เสียชีวิต
- 21% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในขณะนี้อยู่ในอาการวิกฤต
- อัตราการแพร่กระจายทั้งหมดชะลอตัวลง 16%
- อัตราการติดเชื้อรายวันไม่เปลี่ยนแปลง (ตอนนี้อยู่ที่ 3% ต่อวัน)
- อัตราการตายทั้งหมดดูเหมือนจะค่อย ๆ ลดลง
- ล่าสุดอัตราการตายรายวันเพิ่มขึ้น 39%
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
ข่าวดี
1. ยอดผู้ติดเชื้อชะลอตัวลงภายหลังจากมีการปรับมาตราการวัดและควบคุมในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563
2. อัตราการติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 อาทิตย์ให้หลังนี้ครับ
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
ข่าวร้าย
1. ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัว
2. อัตราการเสียชีวิตรายวันยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตลอด 1 เดือน
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
10 ประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากที่สุด
1. จีน 74,186 คน (+31548 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
2. ญี่ปุ่น 619 คน แบ่งเป็นในประเทศ 77 คน และภายในเรือ Diamond Princess อีก 542 คน (+458 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
3. สิงคโปร 81 คน (+36 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
4. ฮ่องกง 62 คน (+20 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
5. เกาหลีใต้ 46 คน (+19 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
6. ไทย 35 คน (+2 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
7. อเมริกา 29 คน (ขึ้น Top 10 มาใหม่)
8. ไต้หวัน 22 คน (ขึ้น Top 10 มาใหม่)
9. มาเลเซีย 22 คน (+4 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
10. เวียดนาม 16 คน (+2 คนจากอาทิตย์ที่แล้ว)
ขอบคุณภาพจาก https://www.decaturdigitalsolutions.com
4. ข้อมูลเชิงวิเคราะห์
Growth Factor
- หมายถึง อัตราส่วนที่ปริมาณเพิ่มขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป สูตรที่ใช้คือการเคสวันนี้/เคสเมื่อวาน
- Growth Factor มากกว่า 1 หมายถึงอัตราการแพร่กระจายและการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- Growth Factor อยู่ระหว่าง 0-1 หมายถึงอัตราการแพร่กระจายและการเสียชีวิตจะลดลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดจะกลายเป็น 0 (หาก Gtowth Factor ไม่เปลี่ยนแปลง)
- หาก Growth Factor ต่ำกว่า 1 (หรือมากกว่า 1 แต่แนวโน้มลดลง) ถือเป็นสัญญาณที่ดี
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
Growth Factor รายวันของการติดเชื้อ ล่าสุดอยู่ที่ 0.93 และก่อนหน้านั้นก็อยู่ในระดับต่ำ ถือเป็นสัญญาณที่ดีครับ อาจตีความหมายได้ว่าจีนสามารถควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายในอัตราที่สูงขึ้น
ขอบคุณภาพจาก https://www.worldometers.info/coronavirus/
แต่ Grow Factor รายวันของการเสียชีวิตนี่สิครับน่าเป็นห่วงมาก ล่าสุดอยู่ที่ 1.39 ซึ่งก่อนหน้านั้นจะเห็นได้ว่าค่อนข้างอยู่ในระดับสูงมาตลอด และไม่มีแนวโน้มจะควบคุมได้เลย อาจหมายความได้ว่าจะมีคนตายอีกเยอะครับ
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงจริง ๆ คือ เชื้อไวรัสโคโรน่านั้น ถือได้ว่าแพร่กระจายเร็วมากเมื่อเทียบกับไวรัสชนิดอื่น ๆ ครับครับ
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ลองมาดูกราฟเปรียบเทียบอัตราการแพร่กระจายตัวของไวรัส 3 ชนิดกัน
ขอบคุณภาพจาก Reuters
ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดเราสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
- วันที่ 10/02/2563 ผู้เสียชีวิต 910 คน เพียง 20 วันที่ทำให้ Coronavirus ทำลายสถิติยอดการเสียชีวิตของโรค MERS ที่มีผู้เสียชีวิต 858 คน ซึ่งการระบาดของ MERS นั้นใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 9 เดือน โดยมีผู้ติดเชื้อเพียง 2,494 คน
- วันที่ 8/02/2563 ผู้เสียชีวิต 813 คน เพียง 18 วันที่ทำให้ Coronavirus ทำลายสถิติยอดการเสียชีวิตของโรค SARS ที่มีผู้เสียชีวิต 774 คน ซึ่งการระบาดของ SARS นั้นใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 เดือน โดยมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 8,098 คน
- ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดพุ่งสูงกว่า Ebola เรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อ Ebola ทั้งสิ้น 34,453 คน เสียชีวิตแล้ว 15,158 คน เทียบกับ Coronavirus ปัจจุบันติดเชื้อทั้งสิ้น 75,223 คน เสียชีวิตแล้ว 2,012 คน (Ebola เริ่มมีครั้งแรกตั้งแต่ปี 1976 หรือประมาณ 47 ปี แต่ Coronavirus เพึ่งมาได้ 20 วันก็แซงเขาซะแล้ว)
- มาลองคำนวณเล่น ๆ โดยการเทียบสัดส่วนคร่าว ๆ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโคโรน่าโดยเฉลี่ย 2,500 คน/วัน เทียบกับอัตราส่วนการเสียชีวิต เราจะได้ว่า "ต้องมีผู้ติดเชื้อ Coronavirus ประมาณ 600,000 คน ถึงจะมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า Ebola ในขณะนี้" ซึ่งเมื่อเราคำนวณเล่น ๆ ต่อไปว่าใช้เวลาอีกแค่ประมาณ 240 วันหรือแค่ประมาณ 8 เดือนเท่านั้น ! ก็จะผู้มีผู้ติดเชื้อประมาณ 600,000 คน (อ้างอิงจาก Rate ปัจจุบัน)
Coronavirus อาจทำให้ จีน-สหรัฐ แยกกันมากกว่าเดิม !
ในเชิงเศรษฐกิจและการค้า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะไม่เขย่าโลกได้มากเท่านี้ หากศูนย์กลางการระบาดจะไม่อยู่ที่จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีสัดส่วน GDP 17% ของทั้งโลก
ความวิตกกังวลจากผลกระทบครั้งนี้จึงสูงมาก ในขณะที่ยังไม่มีข้อมูลใด ๆ ยืนยันได้ว่าจะควบคุมการระบาดได้ตอนไหน ท่ามกลางยอดผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 ราย
ปัญหาที่เกิดขึ้นในจีนขณะนี้ สุดท้ายต้องวนกลับมาเกี่ยวพันกับอเมริกา ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ของโลกในแง่เศรษฐกิจ และยังเป็นคู่พิพาทอันดับ 1 ของจีนอีกด้วย
ผู้วิเคราะห์ในประเด็นนี้ก็คือ "เคอร์ติส ชิน" นักวิชาการอาวุโสด้านเอเชียแห่งสถาบันมิลเคน ระบุว่าการระบาดของไวรัสจะเร่งให้จีนและอเมริกาแยกตัวออกจากกันมากกว่าสงครามการค้าเสียอีก เนื่องจากขณะนี้เห็นแล้วว่าการพึ่งพาวัตถุดิบและ Supplier จากจีนมากเกินไป ทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายธุรกิจ
หลังจากจีนจำเป็นต้องปิดหลายเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ส่งผลให้เกิดการผลิตหยุดชะงัก ไม่ใช่แค่อเมริกาเท่านั้นที่ต้องกระจายความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทานไปยังที่อื่น ๆ แต่คู่ค้าของจีนตลอดจนนักลงทุนจากหลาย ๆ ประเทศ ก็ต้องทำแบบเดียวกัน
ตามข้อมูลของ NOMURA ระบุว่า จีนเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจโลกค่อนข้างลึก โดยในปีที่แล้วจีนมีสัดส่วนในการค้าโลกถึง 12% บริษัทจำนวนมากรวมทั้งภาคธุรกิจของอเมริกาพึ่งพาการผลิตในจีนสูงมาก
การปิดโรงงานผลิตในจีนเพื่อควบคุมไวรัสยาวนานกว่าที่คาดไว้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจระดับโลกทั้งรถยนต์และโทรศัพท์มือถือ เช่น กรณีของ Apple Inc. ซึ่งมีบริษัท Foxconn ของจีนเป็นผู้ผลิตไอโฟนให้ ก็ต้องปิดโรงงานหลายแห่ง
บริษัท Nissan Motor ของญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาประกาศว่าจำเป็นต้องผลิตรถยนต์ในคิวชู จังหวัดฟูกูโอกะ เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้าจากจีน นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทแห่งนี้ต้องหยุดการผลิตของโรงงานภายในประเทศ
การแยกตัวออกจากกันของ อเมริกา-จีน เริ่มตั้งแต่ตอนที่อเมริกาเปิดศึกการค้ากับจีนด้วยการจัดเก็บภาษีสินค้า โดยอ้างว่าเพื่อลดขาดดุลและต้องการการค้าที่เป็นธรรม การกระทำดังกล่าวของอเมริกาสวนทางกับโลกาภิวัตน์และการค้าเสรีที่เคยทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาและจีนเกี่ยวพันกันอย่างสูง
หลังจากเกิดสงครามการค้า ธุรกิจอเมริกันและอีกหลายประเทศที่ดำเนินกิจการในจีนเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากจีน เพื่อเลี่ยงการถูกเก็บภาษี และยิ่งเมื่ออเมริกาประกาศแบนสินค้าของห Huawei ของจีนโดยอ้างว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง ยิ่งก่อให้เกิดความปั่นป่วนด้านห่วงโซ่อุปทานของโลก
และสุดท้ายเกรงว่าแม้แต่ระบบอินเทอร์เน็ตของโลกนี้ ก็จะถูกแยกออกเป็น 2 สายคือ สายอเมริกากับสายจีน ที่อาจทำให้คนทั้งโลกพกโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องหากต้องเดินทางไปต่างประเทศ
ภายใต้การปิดกั้นของจีนมีคนนับล้านไม่ต้องไปไหน !
1. ปัจจุบันประชาชนราว 500 ล้านคนในประเทศจีนได้รับผลกระทบจากนโยบายที่ จำกัด การเคลื่อนไหวเพื่อ จำกัด COVID-19
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 อย่างน้อย 48 เมืองและสี่จังหวัดในประเทศจีนได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับมาตรการ "LOCKED" ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งการควบคุมและการปิดกั้นพื้นที่ ผู้อยู่อาศัยในชุมชน ในเมืองหรือจังหวัดจะต้องลงทะเบียนก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าหรือออกจากพื้นที่ รวมไปถึงการปิดทางหลวงทางรถไฟและระบบขนส่งสาธารณะ
"LOCKED" เริ่มต้นด้วยเมืองหวู่ฮั่น ศูนย์กลางของการแพร่ระบาดและเป็นที่ที่มีผู้ป่วย Coronavirus ครึ่งหนึ่งของโลกที่ยืนยันแล้ว หลังจากชายแดนของเมืองถูกปิดในวันที่ 23 มกราคม 2563 และยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมด
เมืองอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงในมณฑลหูเป่ยก็ใช้นโยบายของตนเองเพื่อ จำกัด การเคลื่อนไหวของผู้คน
แต่ไม่ใช่ทุกเมืองหรือจังหวัดที่กำลังเผชิญกับมาตรการ "LOCKED" เช่น หวู่ฮั่น พลเมืองไม่สามารถออกจากเมืองหวู่ฮั่น หวงกัง อีโจว และอีกสองสามคนในจังหวัดหูเป่ย ในขณะที่เซี่ยงไฮ้และปักกิ่งมีข้อจำกัดแค่ในชุมชนขนาดเล็ก เช่น อาคารบล็อก หรือละแวกใกล้เคียง
หลายเมืองมีการลดเส้นทางการเดินทางและการขนส่งสาธารณะ ในขณะที่มีเพียงไม่กี่เมืองที่ปิดระบบขนส่งภายในเมืองทั้งหมด บางชุมชนได้ประกาศ เคอร์ฟิว หรืออนุญาตให้ผู้คนเข้า-ออก ได้ในบางเวลาเท่านั้น
กราฟข้างบนประมาณการสูญเสียรายได้จากการ "LOCKDOWN"
- 80.41 ล้านดอลลาร์ ภายใน 1 เดือน และย้ำว่านี่แค่ด้านขนส่งนะ ตอนนี้จีนต้องต่อสู้กับเวลาเลยล่ะครับ
อัพเดตความเคลื่อนไหวรอบโลก
1. การระบาดส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกและผลกำไรของบริษัทต่าง ๆ ราคาน้ำมันร่วงลงและตลาดทุนร่วงลงหลังจาก Apple Inc (AAPL.O) ออกมาเตือน เรื่องรายได้และผลประกอบการ เนื่องจากการระบาดของโรคทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงักลง
2. อธิบดีองค์การอนามัยโลก(WHO) Tedros Adhanom Ghebreyesus กล่าวว่า "ข้อมูลของจีนดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงการลดลงของผู้ป่วยรายใหม่ แต่การจะตีความแนวโน้มใด ๆ ที่ชัดเจน ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก”
Tedros ยังกล่าวอีกว่า "มีการแพร่กระจายของ Coronavirus จากคนสู่คนจำนวน 92 รายใน 12 ประเทศนอกประเทศจีน"
"เราไม่เคยเห็นการแพร่เชื้อ Coronavirus ในท้องที่อย่างสม่ำเสมอ ยกเว้นในบางสถานการณ์ เช่น เรือ Diamond Princess” Tedros กล่าว
3. ภายในสิ้นสัปดาห์นี้องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า 40 ประเทศในแอฟริกาและ 29 แห่งในอเมริกานั้นมีความสามารถในการตรวจจับเชื้อ COVID-19
"ก่อนหน้านี้หลายประเทศเหล่านี้ส่งตัวอย่างไปยังประเทศอื่นเพื่อทำการทดสอบโดยต้องรอผลการทดสอบหลายวัน แต่ตอนนี้พวกเขาสามารถทำได้ด้วยตัวเองภายใน 24-48 ชั่วโมง" Tedros กล่าว
4. ประเทศจีนกล่าวว่าตัวเลขที่บ่งชี้อย่างมีนัยสำคัญว่ามีการ "ชะลอตัว" ของผู้ป่วยรายใหม่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการปรับมาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการเดินทางและการค้า ทำให้การแพร่กระจายของโรคลดลงในมณฑลหูเป่ยและเมืองหลวงหวู่ฮั่น
5. Mike Ryan สมาชิกองค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนประสบความสำเร็จในการ "ควบคุม" เป็นครั้งแรกในหูเป่ย และทำให้มั่นใจได้ว่าผู้คนที่เดินทางกลับไปยังปักกิ่งจากวันหยุดตรุษจีนจะถูกตรวจสอบ "ตอนนี้แนวทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในประเทศจีนเป็นวิธีที่ถูกต้อง" Ryan กล่าว
6. Moon Jae-in ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า เศรษฐกิจอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินและต้องการการกระตุ้นเนื่องจากโรคระบาดทำให้ความต้องการสินค้าเกาหลีใต้ลดลง
7. สิงคโปร์ประกาศทุ่มเงินมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยป้องกันการระบาดในเมืองและสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
8. ญี่ปุ่นซึ่งเศรษฐกิจกำลังหดตัวลงและโรคระบาดทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการแพร่กระจายของไวรัส ทำให้ญี่ปุ่นต้อง จำกัดจำนวนฝูงชนที่ในสาธารณะ ในขณะที่บางบริษัทสั่งให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
9. บริษัทข้อมูล OAG ประมาณการว่าประมาณ 80% ของสายการบินเข้าและออกจากประเทศจีน ถูกระงับในสัปดาห์นี้
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมบทความในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
Reference

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา