Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าคนเข้าป่า
•
ติดตาม
22 ก.พ. 2020 เวลา 05:19 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ช่วงนี้เรามักได้ยินข่าวไฟป่ากันจนหนาหู ตั้งแต่ไฟป่าอะเมซอน ไฟป่าออสเตรเลีย และล่าสุดไฟป่าที่ภูกระดึง ซึ่งความรู้สึกทุกครั้งที่ได้ยินนั้น คือความหดหู่ไม่ต่างกัน เพราะไฟป่าทำให้เราต้องสูญเสียต้นไม้ สูญเสียพื้นที่สีเขียวเป็นจำนวนมาก ซ้ำยังเกิดควันจากการเผาไหม้ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศ รวมทั้งส่งผลเสียต่อทั้งดินและน้ำ
แม้ไฟป่าจะมีข้อเสียที่เห็นได้ชัด เช่น แต่ก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง แต่ก่อนอื่นไปทำความรู้จักไฟกันก่อนครับ
1
ไฟบนโลกนี้ หากจะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 อย่างด้วยกัน หรือที่เรียกว่า "สามเหลี่ยมไฟ (Fire Triangle)" ได้แก่
1. เชื้อเพลิง คืออินทรียสารทุกชนิด หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถติดไฟ
ได้ เชื้อเพลิงในธรรมชาติยกตัวอย่าง เช่น วัชพืช หญ้า กิ่งไม้ พุ่มไม้ ตอไม้
ซึ่งรวมไปถึง ดินอินทรีย์ และชั้นถ่านหินที่อยู่ใต้ผิวดิน
.
2. ความร้อน คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดไฟ ตัวจุดประกายไฟที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า การเสียดสีของต้นไม้ (ต้นสนเป็นต้นที่มีน้ำมันในตัวเอง เมื่อเกิดการเสียดสีสามารถติดไฟได้ง่าย ) การระเบิดของภูเขาไฟ หรือจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตั้งแคมป์ไฟ การเผาสิ่งต่าง ๆ หรือแม้กระทั้ง ก้นบุหรี่
.
3. อากาศ คือแหล่งสะสมออกซิเจน ที่เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้เกิดไฟ
ซึ่งปริมาณและสัดส่วนออกซิเจนภายในป่า จะแปรผันตามทิศทางการเคลื่อนที่และความเร็วของลม
ไฟป่าล้วนเริ่มต้นมาจากไฟจุดเล็กๆ และลุกลามขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว หากมีเชื้อเพลิงและลมที่แรง
รู้จักส่วนประกอบของไฟป่า
หัวไฟ (Head) คือส่วนของไฟป่าที่ลุกลามไปตามทิศทางลมและความลาดชันของพื้นที่
เป็นส่วนของไฟที่ลุกลามรวดเร็ว รุนแรง และอันตรายมากที่สุด มีเปลวไฟมากที่สุด
.
หางไฟ (Rear) คือส่วนของไฟที่ไหม้ในทิศตรงกันข้ามกับหัวไฟหรือสวนกับทิศทางลม
ทำให้ลุกลามช้าและควบคุมได้ง่าย
.
ปีกไฟ (Flank) คือส่วนที่ลุกลามขยายออกทางด้านข้าง โดยมีทิศทางตั้งฉาก
หรือขนานไปกับทิศทางหลักของหัวไฟ
.
นิ้วไฟ (Finger) คือส่วนที่ลุกลามในแนวแคบออกจากตัวไฟหลัก
โดยนิ้วไฟแต่ละนิ้วจะมีหัวและปีกไฟเป็นของตัวเอง
1
ไฟป่าสามารถเกิดด้วยการหลายรูปแบบ โดยการจัดจำแนกจะใช้ การไหม้เชื้อเพลิงในระดับต่าง ๆ ในแนวดิ่ง ตั้งแต่พื้นดินไปถึงยอดไม้ เป็นเกณฑ์ ซึ่งสามารถแบ่งไฟป่าออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ไฟเรือนยอด ไฟผิวดิน และ ไฟใต้ดิน ดังภาพ
ไม่มีไฟ.....ไม่มีป่า
ใครว่าไฟป่า มีแต่ส่งผลเสียต่อป่า คงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะไฟป่านั้นอยู่คู่กับป่ามาช้านาน
ในธรรมชาติไฟป่ากับป่าผลัดใบเป็นของคู่กัน เพราะลักษณะของป่าผลัดใบ
เป็นป่าที่มีความชื้นน้อย ต้นไม้จะทิ้งใบในช่วงฤดูร้อน (ฤดูแล้ง)
ทำให้พื้นดินปกคลุมไปด้วยซากพืช และเศษใบไม้เป็นจำนวนมหาศาลทั่วผืนป่า
หากไม่เกิดไฟป่า ใบไม้ที่ร่วงหล่นก็จะหนาแน่น
จนเมล็ดที่ร่วงจากต้นไม้ ไม่สามารถแทงรากลงยังพื้นดินได้
ทำให้ความชื้นเพิ่มขึ้นจนทำให้โครงสร้างของป่าเปลี่ยนไป
ซ้ำยังทำให้วัชพืชโตจนเป็นพุ่มสูง ซึ่งจะไปขัดขวางการเจริญเติบโตของต้นไม้
สัตว์กินพืชไม่สามารถอยู่และหากินได้
เนื่องจากสัตว์มักชอบกินแต่ปลายยอด หรือ ต้นอ่อน
สัตว์ป่าจึงต้องอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อหาอาหารแหล่งใหม่
1
ไฟป่าที่เกิดขึ้นช่วยกำจัดวัชพืช เศษใบไม้ กิ่งไม้
ให้กลับสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง เเละเมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดหญ้าอ่อนขึ้นมาใหม่
เราเรียกหญ้าอ่อนนี้ว่า "หญ้าระบัด" ซึ่งเป็นอาหารโปรดของสัตว์กินพืช
ป่าเองก็มีวิวัฒนาการเพื่อตอบสนองต่อไฟเองเช่นกัน โดยต้นไม้ในป่าผลัดใบ เช่น ต้นเต็งต้นรังทำให้ตัวเองมีเปลือกที่หนาและแข็งเพื่อป้องกันเนื้อไม้
และการสูญเสียน้ำ เมื่อเกิดไฟป่า ไฟจะไหม้เพียงเปลือกไม้เท่านั้น ทำให้ต้นเต็งต้นรังยังมีชีวิตอยู่ได้
กล้าไม้หลายชนิดที่มีลำต้นใต้ดิน เมื่อเกิดไฟป่าขึ้น ไฟก็จะไหม้เฉพาะข้างบน กล้าก็ยังสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้
เมล็ดพืชบางชนิดจำเป็นที่ต้องถูกกระตุ้นด้วยความร้อนที่มากพอ
เพื่อที่เมล็ดจะงอกเป็นต้นใหม่ เช่น ต้นโคลเวอร์ เสสเพเดชา เถาวัลย์พูราเรีย
ซึ่งเมล็ดพืชเหล่านี้จะไม่งอกถ้าไม่โดนไฟ หรือในประเทศไทยมีเมล็ดของ ต้นสัก พืชตระกูลถั่ว หรือต้นเต็งต้นรัง ที่ต้องใช้ไฟป่าช่วยให้เมล็ดที่มีเปลือกหนางอกได้
ต้นไม้พร้อมจะงอกงามเสมอ
ในความเป็นจริงแล้ว ไฟป่าที่เกิดตามธรรมชาตินั้นน้อยกว่าไฟป่าที่เกิดจากมนุษย์มาก ไฟป่ากว่า 90 % นั้นเกิดจากมนุษย์ที่ต้องการเข้าไปใช้ประโยชน์จากป่า โดยมีสาเหตุหลักจากการหาของป่าถึง 68% ของป่าที่ว่าก็พวก หน่อไม้ ผักหวาน เห็ด เป็นต้น โดยผู้ที่เข้าไปหาของป่าจะทำการเผาป่า เพื่อให้เก็บของป่าได้ง่ายขึ้น แต่ไฟนั้นลุกลามไหม้เร็วจนตนเองไม่สามารถควบคุมได้ และเกิดการสูญเสียตามมามากมาย สาเหตุรองลงมา มาจากการลักลอบค้าไม้ และนักท่องเที่ยวที่เที่ยวอย่างไรความรับผิดชอบ
และการเปลี่ยนพื้นที่ป่าให้กลายเป็นพื้นทางการเกษตร เนื่องจากการบริโภคที่มากเกินไป จึงทำให้ต้องถางป่าเพื่อไปปลูกพืชเศรษฐกิจมาป้อนสู่ภาคอุตสาหกรรม อย่างในประเทศบราซิล ที่กำลังประสบปัญหาพื้นที่ป่าอะเมซอนลดลงเป็นอย่างมาก และเกิดไฟป่าที่รุนแรง สาเหตุก็มาจากการถางป่า และการเผาเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วกว่าการใช้เครื่องจักรเพื่อตัดต้นไม้ทีละต้น เราเองก็เป็นสาเหตุของการเกิดไฟป่าอะเมซอน หรือไม่?
ไหนจะความต้องการกินของป่า เช่น เห็ดโคน ผักหวานป่า หมูป่า
ที่โตขึ้นเรื่อยๆ จนมีตลาดค้าของป่าเกิดขึ้นในหลายประเทศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวบ้านออกล่า
นอกจากนี้มีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดไฟป่า ทั้งการทิ้งก้นบุหรี่ การเผาไม่ถูกวิธี เป็นต้น
ไฟถูกสร้างมาเพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ แต่หากนำไฟไปใช้ไปในทางที่ผิด ไฟก็พร้อมจะลงโทษ แล้วเราจะรับผลจากการกระทำนั้นได้หรือไม่
ข้อคิด : คนเข้าป่า
ไฟป่าดับง่ายกว่าไฟกิเลสในใจของมนุษย์
เรียบเรียงโดย : เรื่องเล่าคนเข้าป่า
ที่มา :
https://bit.ly/39FdhGy
10 บันทึก
62
26
7
10
62
26
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย