19 ก.พ. 2020 เวลา 12:53 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อต้องจากลา เราจะเขียนอะไรถึงคนที่อยู่ข้างหลัง
#จดหมายอำลาจากคุณหมอหลี่หวุนเลี่ยง
ภาพคุณหมอหลี่....คนเป่านกหวีดผู้ต่ำต้อยแต่ยิ่งใหญ่
จดหมายอำลาก่อนเสียชีวิต ของคุณหมอหลี่หวุนเลี่ยง
อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนเลื่อนลั่นมากก
ทำให้คิดไปถึงว่าถ้าเราต้องจากลา โดยรู้เหตุผล
รู้ระยะเวลา เราจะเขียนอะไรเพื่ออธิบายแก่คนรัก
ครอบครัว พ่อแม่ของเราได้มากมายขนาดนี้หรือไม่
ชีวิตช่างมีคุณค่า ชีวิตช่างลึกซึ้ง ชีวิตช่างมีความหมาย
เหมือนที่คุณหมอบอกว่า การมีชีวิตเป็นเร่ือ่งดีกว่าอะไรทั้งหมด
เราอ่านจดหมายทีละประโยคด้วยความรู้สึก หนักอึ้ง
ประโยคเขียนถึงคนรัก คุณหมอว่า เธอจะกลับบ้านอย่างไรเมื่อยามฝนตก
ประโยคถึงลูกชาย คุณหมอยอมรับความพ่ายแพ้อย่างศิโรราบ
เมื่อเด็กน้อยเคยบอกว่าจะสูงกว่าพ่อ จะหล่อกว่าพ่อ และจะเก่งกว่าพ่อ
จะประโยคถึงคุณแม่ คุณหมอบอกว่า แม่ครับลูกขอโทษที่อกตัญญู
ไม่อาจอยู่ดูแลคุณแม่ที่ข้างเตียงได้อีก
โชคชะตาดูโหดร้ายมากมากเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้
ยังไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดเท่าไหร่นักว่าจดหมายฉบับนี้
เป็นของคุณหมอหลี่จริงหรือไม่ แต่สำนวนสะเทือนใจ
และเรื่องราวที่สอดคล้องนี้ ทำให้เราหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเขียน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ระลึกถึงสิ่งสำคัญต่างๆที่เรามี
พ่อแม่คนรักครอบครัว..ที่สมบูรณ์ดีแล้วแต่เราก็ยังอยากได้
ความสำเร็จในด้านอื่นๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่ค่อย
ระมัดระวังดูแลรักษาสิ่งที่เรามีเลย....
คุณหมอ เป็นคนแรกแรกในการประกาศเตือนทุกคน
เนื่องจากสังเกตุเห็นการระบาดของโรคภัยชนิดนี้
ว่ามันคล้ายกับ ไข้ซาร์ส และมีแนวโน้มว่ามันจะระบาดหนัก
คุณหมอเป็นหนึ่งในกลุ่มแจ้งเตือนภัยรายแรกแรก กลุ่มนั้นมีอยู่ด้วยกัน
8 คน ลงไปในเวบบอร์ด ซึ่งแจ้งไปในวันที่ 30 ธันวาคม ปีที่แล้ว (2019)
แต่สิ่งที่คุณหมอทำ ไม่ได้รับความเห็นด้วยจากทางฝั่งรัฐบาล อีกสี่วันหลังจากนั้นคุณหมอหลี่ ก็โดนแจ้งให้เข้าไปรายงานตัวและเซนต์ว่าตัวเองเป็นพวกที่ก่อความไม่สงบอย่างรุนแรง แต่หลังจากนั้นก็ได้ทราบว่าทางการได้ทำการขอโทษคุณหมอหลี่เมื่อพบว่าเรื่องโรคระบาดนั้นเป็นเรืองจริง
1 เดือนหลังจากคุณหมอหลี่แจ้งเตือน ท่านล้มป่วยในวันที่ 30 มกราคม 2020 และอีกสองวันจึงตรวจพบเชื่อไวรัสโคโรน่า และเสียชีวิตลงในที่สุด จดหมายใจความสั่งเสียของคุณหมอหลี่นั้นเศร้ามาก อ่านแล้วรู้สึกจุกในอกอย่างที่สุด ชีวิตในวัยหนุ่มเพียง 34 ปี ชีวิตของคนที่มีการศึกษา หน้าที่การงาน และครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องมาจากไปด้วยโรคระบาดที่หากมีใครสักคน รู้เท่าทันและเตรียมการอย่างรวดเร็ว เป็นระบบ ระเบียบ มันคงไม่ร้ายแรงอย่างที่พวกเราได้อ่าน ผ่านและพบในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้
เนื้อหาของจดหมายหมอหลี่มีดังต่อไปนี้ค่ะ ขอบคุณผู้แปล
แต่ทั้้งนี้ทั้งนั้น จดหมายฉบับนี้ยังหาต้นตอกันอยู่นะคะว่า
เป็นของหมอหลี่หวุนเลี่ยงจริงหรือไม่ :')
ผมคิดว่าผมจะหายป่วย เสียดาย ทำให้พวกเราผิดหวังแล้ว
ในวาระสุดท้ายของชีวิตนี้ ผมมีสิ่งที่อยากพูดมากเหลือเกิน อยากพูดให้ลูกเมียพ่อแม่ญาติมิตรเพื่อนร่วมงานฟัง อยากพูดให้ทุกคนที่รู้จักและไม่รู้จักฟัง จริงๆ นะ ไม่เคยมีห้วงยามใดที่ผมรู้สึกว่าชีวิตคนคนหนึ่งนี้ช่างล้ำค่า แต่ก็แสนจะเปราะบาง ผมอาลัยเหลือเกินในความสุขความหอมหวานของทุกฉากที่ผ่านมาในชีวิต หรือแม้แต่ความสูญเสียความเจ็บปวดและความแค้นเคืองทุกครั้ง
มีชีวิต ดีกว่าอะไรทั้งสิ้น ทว่าบัดนี้ มันจะตามผมไปสู่สวรรค์ แต่ผมไม่ยินดี แม้จะได้ไปสวรรค์ ผมก็อยากอยู่ในโลกมนุษย์
เจย๋ที่รัก ... ลาก่อนชั่วนิรันดร์! เธอคงไม่ได้พบฉันครั้งสุดท้าย อย่าร้องไห้ ฉันจะจดจำหน้ายิ้มแย้มของเธอตลอดไป ต่อจากนี้ ไม่ว่าลมฝน เธอจะเดินอย่างยากลำบากไปตามลำพัง เพียงไม่รู้ว่า เมื่อเธอป่วย ไม่มีฉันอยู่ข้างกาย ใครจะดูแลเธอ ฝนตก ขึ้นรถประจำทางไม่ได้ ใครจะรับเธอกลับบ้าน เลี้ยงลูกเหนื่อย ใครช่วยผลัดเปลี่ยน ยังอีก เธอมีครรภ์ เดินเหินลำบาก ใครคอยดูแล ... พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ฉันยิ่งปวดร้าว! ฉันคิดว่า หรือสวรรค์ต้องการชีวิตฉันเพื่อแลกกับความปลอดภัยเป็นสุขชั่วชีวิตของพวกเธอแม่ลูก หากเป็นเช่นนี้ ฉันก็สบายใจ คอยฤดูใบไม้ผลิมา ลูกคลอด อย่าลืมบอกฉันสักคำในฝัน เธอตั้งชื่อลูกเอง อย่าให้ไม่น่าฟังเกินไปก็ใช้ได้ลูกพ่อ ... เมื่อลูกรู้ข่าวพ่อจากไป ลูกต้องอดทนเยี่ยงลูกผู้ชาย อย่าร้องไห้! พ่อไม่อยู่แล้ว ลูกเป็นลูกผู้ชายตัวน้อยในบ้าน ต้องดูแลแม่ ปู่ ย่า เหมือนที่พ่อทำ ต่อไปดูแลน้องชาย ลูกอยากให้พ่อพาไปเที่ยวไห่หนันตอนตรุษจีน ขอโทษด้วยลูก พ่อต้องผิดสัญญาแล้ว! แต่ไม่เป็นไร ไว้ผ่านระยะผิดปกติช่วงนี้ไป ปู่ย่ากับแม่จะพาลูกไปเที่ยวชมทิวทัศน์สวยงามทั่วประเทศ ลูกเคยพนันกับพ่อว่า ต่อไปจะหล่อกว่าสูงกว่าเก่งกว่าพ่อ นั่นเป็นเรื่องแน่นอน! พ่อยอมแพ้ ลูกพ่อ ลูก 5 ขวบแล้ว ลูกต้องเชื่อฟังแม่ เป็นเด็กดีที่รู้เรื่อง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ รักเรียน ใจดี เที่ยงตรง พ่อภูมิใจในตัวลูก ลูกพ่อ ลูกก็ต้องภูมิใจในตัวพ่อด้วยแน่นอน เพราะพ่อก็กล้าหาญมากซื่อตรงมาก วันหนึ่งข้างหน้า ลูกจะเข้าใจ
พ่อ แม่ ... ลูกไม่กตัญญู ไม่สามารถเฝ้าดูแลข้างเตียงอีกแล้ว บุญคุณที่เลี้ยงดู คงต้องตอบแทนชาติหน้า! ยกโทษให้ลูกด้วยที่ไปโดยไม่ลา ภัยธรรมชาติภัยมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดแน่นอน ชีวิตที่เหลือ พ่อแม่อาจเป็นทุกข์ทรมานจากการคิดถึงลูก ลูกไม่อยากให้พ่อแม่เป็นเช่นนี้ ลูกอยากให้พ่อแม่สบายใจ ลูกไม่อยู่แล้ว พ่อแม่ยังมีหลานมีสะใภ้อยู่นะ เห็นพวกเขา ก็เหมือนเห็นลูก พ่อ แม่ รู้ว่าพ่อแม่หายดีแล้ว ลูกดีใจมาก อย่าเสียใจ ให้ลูกไปอย่างไร้กังวล
เพื่อนๆ ทุกคน ... ผมเสียดายหมื่นเสียดาย ผมคิดว่าตัวเองยังหนุ่ม จะต้องผ่านเคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้ เดิมคิดว่าเมื่อหายป่วย จะอาสาสมัครไปรบกับเชื้อโรคร้ายที่แนวหน้า ใครจะรู้ เพียงสะเพร่านิดเดียว หมิ่นศัตรูมากเกินไปจนแพ้ยับ
ถ้าไม่มีโรคระบาดครั้งนี้ ถ้าพวกเราสามารถรอดจากเคราะห์ครั้งนี้ ผมต้องชวนพวกคุณไปหากินของอร่อยให้ทั่ว ลิ้มรสลูกเชอร์รี่ชั่งละ 158 หยวนที่เสียดายเงินไม่เคยยอมซื้อนั่น ชวนพวกคุณไปดูคอนเสิร์ต ...
แต่ว่า 'ถ้า' ก็ยังเป็น 'ถ้า' ไปตลอดกาล ผมไม่เคยเสียใจที่เป็นหนึ่งในแปดที่ "ปล่อยข่าวลือ" และก็ไม่เคยรู้สึกว่าการทำเช่นนั้นยิ่งใหญ่ นั่นคือปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณของคนธรรมดาคนหนึ่งเมื่อเจอสิ่งที่จะกลายเป็นหายนะ ผมไม่ใช่วีรบุรุษ ผมเป็นเพียงจักษุแพทย์ธรรมดาคนหนึ่ง ผมไม่คิดจะไปสืบสาวว่าใครถูกใครผิด และขอให้พวกคุณก็ไม่ต้องไปสืบสาวเอาเรื่อง การณ์มาถึงเพียงนี้ ถูกผิดไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว ความจริงกับความเท็จก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือ สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันพิชิตภัยร้ายตรงหน้า
เวลานี้ ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชะตากรรมของชนชาติหนึ่ง ถูกผิดเกียรติยศอัปยศของบุคคลนั้น ผมทิ้งไปนานแล้ว
ผมเชื่อในบ้านเมืองของเรา และขอให้พวกเราเชื่อด้วย ศรัทธาอยู่ บ้านเมืองก็อยู่ บ้านเมืองอยู่ เราก็อยู่ ไม่มีฤดูหนาวใดไม่ผ่านพ้น ไม่มีฤดูใบไม้ผลิใดไม่มาถึง ผมเชื่อว่า บ้านเมืองจะคืนอู่ฮั่นให้พวกคุณ และคืนพวกคุณให้อู่ฮั่น
ลาแล้ว ญาติมิตรของผม ลาแล้ว โรงพยาบาลของผม ลาแล้ว ปิตุภูมิของผม 35 ปีผ่านไปไร้ประโยชน์ ช่างสั้นแต่ก็แสนยาว ชีวิตนี้แม้เสียใจเสียดาย แต่โลกมนุษย์มีค่าควรอยู่ ผมอาลัยนักแล้ว
คอยให้อู่ฮั่นผ่านด่านนี้ไป คอยให้ดอกซากุระที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นบานสะพรั่ง คอยให้ท้องถนนของอู่ฮั่นคนคลาคล่ำ อย่าลืมส่งข่าวบอกผมบนฟ้าด้วย ผมอยู่กับพวกคุณตลอดไป! ..
โฆษณา